ประชาไท - 25 ส.ค. 2549 เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 สิงหาคม 2549 ที่โรงแรมเจบี หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายประยงค์ รัตนพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสงขลา มีคณะกรรมการฯ และคณะอนุกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระดับลุ่มน้ำย่อย 4 ลุ่มน้ำ เข้าร่วมประชุม 80 คน

นายประยงค์ บรรยายว่า รัฐบาลได้มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจเป็นหลัก ทำให้เรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกละเลยไป ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ขึ้น ปัจจุบันทรัพยากรป่าไม้ในประเทศไทย มีประมาณ 80 ล้านไร่ หรือร้อยละ 25 เท่านั้น เฉพาะจังหวัดสงขลา เมื่อปี 2547 มีพื้นที่ป่าสมบูรณ์ 536,556 ไร่ หรือร้อยละ 11.99 ถัดมา 1 ปี คือปี 2548 เหลือเพียงร้อยละ 11.96 ลดลงร้อยละ 0.03 แต่เมื่อคิดเป็นจำนวนไร่แล้ว เท่ากับป่าถูกทำลายไปเกือบ 10,000 ไร่ แสดงว่ามีป่าถูกทำลายอย่างรุนแรง

สาเหตุมาจากการลักลอบตัดไม้และการขยายพื้นที่ทำกิน ขณะที่การปลูกป่าทดแทนทำได้น้อยกว่า เมื่อเทียบกับป่าที่ถูกทำลายไป และขาดการกำหนดเขตพื้นที่ป่าที่ชัดเจน ทำให้มีการบุกรุกป่ามากยิ่งขึ้น การแก้ปัญหาการทำลายป่าไม้ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร หน่วยงานที่รับผิดชอบซึ่งมีอยู่หลายหน่วยงานขาดการบูรณาการในการทำงาน รวมทั้งได้รับการสนับสนุนงบประมาณไม่เพียงพอ

นายประยงค์ กล่าวด้วยว่า สำหรับปัญหาเรื่องน้ำ มีทั้งปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝนและขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งขณะนี้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงปลายปี 2548 จะไม่จบ ก็เกิดปัญหาขาดน้ำอีกแล้ว ขณะนี้เกิดปัญหาขาดน้ำสำหรับทำนาในพื้นที่ทุ่งระโนด เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนแต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เท่าที่ควร เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอ

นายประยงค์ กล่าวต่อว่า จังหวัดสงขลาถูกกำหนดให้สร้างฝายทดน้ำขนาดเล็ก หรือ ฝายแม้ว จำนวน 3,000 แห่ง ในระยะเวลา 3 ปี แต่ก็ยังไม่เป็นไปตามเป้าเช่นกัน เพราะงบประมาณมีน้อย ทั้งของหน่วยงานราชการเองหรือขององค์กรปกครองส่วนถิ่น

นายอนันต์ กาญจนสุวรรณ กรรมการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสงขลา กล่าวในการแสดงความคิดเห็นว่า ขณะนี้การขุดคลองระบายน้ำ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แม้ว่าจะสร้างประโยชน์ให้กับคนที่อยู่ในเมือง แต่ได้สร้างปัญหาให้กับชาวบ้านที่อยู่ในชนบท เนื่องจากได้ดูดน้ำจากพื้นที่นอกเมืองเข้าไปในคลองด้วย ทำให้เกิดปัญหาขาดน้ำในพื้นที่เกษตรกรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งหากรัฐยังใช้วิธีแก้ปัญหาโดยการผลักปัญหาให้ตกไปอยู่กับชาวบ้านในชนบท ชาวบ้านก็จะไม่ไว้ใจรัฐอีกต่อไปได้

นายขนบ แท่นประมูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองรี อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลุ่มน้ำย่อยคาบสมุทรสทิงพระ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายสร้างประปาหมู่บ้านทุกหมู่บ้าน แต่สำหรับพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ ที่ได้สร้างไปแล้วนั้น เป็นการก่อสร้างที่สูญเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ เนื่องจากมีปัญหาน้ำกร่อยและเกิดสนิมเหล็กปนเปื้อนอยู่ทุกแห่ง จึงขอเสนอให้สร้างอ่างเก็บน้ำจืดเพื่อให้หลายหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้ใช้ประโยชน์น่าจะดีกว่า โดยเฉพาะเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนเพราะมีปัญหาน้ำท่วมทุกปี