Skip to main content
sharethis

23 ส.ค. 2549 S.H.A.N. (21 สิงหาคม 2549) - กองทัพพม่ายังคงมีการเคลื่อนไหวเป็นระยะตามแนวชายแดนไทย โดยเมื่อวานนี้แม่ทัพสามภาคได้รุดตรวจเยี่ยมค่ายทหารรวมถึงที่ตั้งฐานปืนใหญ่ด้านตรงข้ามจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่ผู้นำ SSA ชี้เป็นการเตรียมป้องกันตนเองมากกว่า ซึ่งเข้าใจว่าอาจหวั่นเกรงการโจมตีของไทยเพื่อล้างแค้นเหตุเฮลิคอปเตอร์ถูกยิง


 


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2549 ที่ผ่านมา กองทัพพม่าได้เสริมกำลังทหารจากภาคกลางรัฐฉานมายังภาคตะวันออกด้วยรถบรรทุก 6 ล้อจำนวน 20 คัน โดยข้ามแม่น้ำสาละวินที่สะพานท่าก้อยังเมืองเชียงตุง และในวันต่อมาได้มีการประชุมลับของนายทหารระดับสูงในพื้นที่ภาคสามเหลี่ยมที่ท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในที่ประชุมได้หารือกันถึงแผนโจมตีกองกำลังไทยใหญ่ SSA-S ที่มีฐานอยู่ตามแนวชายแดนไทย โดยพุ่งเป้าใหญ่ไปที่ฐานดอยก่อวัน ตรงข้ามอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายและได้กำหนดวันดีเดย์ไว้ในปลายเดือนสิงหาคมถึงปลายเดือนกันยายนนี้ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น


 


ล่าสุดแหล่งข่าวจากชายแดนรายงานว่า เมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) พลโทจ่อวิน แม่ทัพสามภาคอันได้แก่ภาคสามเหลี่ยม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกของพม่าได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมค่ายทหารและที่ตั้งฐานปืนใหญ่ในพื้นที่เมืองสาด ห่างจากชายแดนไทยด้านอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 60 กม. และเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ทหารพม่าประจำเมืองลางเครือและเมืองปั่นฝั่งตะวันตกแม่น้ำสาละวินได้มีคำสั่งให้ชาวบ้านช่วยจัดหาซื้อม้าต่างให้กองทัพรวมทั้งสิ้น 200 ตัว โดยที่กองทัพเป็นผู้ออกเงิน และที่เมืองลางเครือทหารพม่าได้สั่งชาวบ้านกว่า 30 หมู่บ้านที่อยู่บนสันเขากุงมาว ให้สานเป้ตระกล้าหมู่บ้านละ 6 ใบอีกด้วย ทั้งนี้ เชื่อกันว่าจะนำไปใช้ขนเสบียงและอาวุธในพื้นที่ธุระกันดาร


 


ขณะที่ทางด้านตรงข้ามอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงมีรายงานว่า พบมีการเคลื่อนไหวของกองทัพพม่าในหลายพื้นที่และมีรถบรรทุกทหารแล่นไปมาอย่างผิดปกติ โดยพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวได้แก่ท่าขี้เหล็ก เมืองพยาก เมืองขาก เมืองยอง และเชียงตุง โดยที่ท่าขี้เหล็กเมื่อเย็นวานนี้ (20 ส.ค.) มีขบวนรถบรรทุกทหารประมาณ 30 คัน ได้มุ่งหน้าไปทางเมืองตุม เมืองกาน ซึ่งอยู่ทางด้านตรงข้ามดอยก่อวัน ฐานใหญ่อีกแห่งหนึ่งของกองกำลังไทยใหญ่ SSA-S นอกจากนี้ยังพบว่าทหารพม่าได้มีการขนน้ำมีนเชื้อเพลิงเป็นระยะอีกด้วย


 


ส่วนกองกำลังสนับสนุนจากกองกำลังว้าแดง UWSA และกลุ่มหยุดยิงเมืองลา ที่กองทัพพม่าได้ร้องขอไว้ก่อนหน้านี้ ทราบว่าขณะนี้ได้เดินทางถึงเมืองเชียงตุงแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานจำนวนที่แน่ชัด พร้อมกันนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งว้าและเมืองลาจำนวนหนึ่งเดินทางมายังค่ายทหารพม่าที่ท่าขี้เหล็กด้วย ซึ่งเชื่อว่าอาจมีการหารือกันเกี่ยวกับการช่วยเหลือในด้านอาวุธ


 


ด้านพันเอกเจ้ายอดศึก ผู้นำกองกำลังไทยใหญ่ SSA-S ได้แสดงความเห็นว่า การเคลื่อนไหวของทหารพม่าอาจเป็นการป้องกันตนเองมากกว่าโจมตีกองกำลังไทยใหญ่ เพราะเป็นการเคลื่อนไหวในพื้นที่ของแต่ละภาคเท่านั้น แตกต่างจากครั้งที่ผ่านๆ มา ซึ่งเข้าใจว่าพม่าอาจหวั่นเกรงไทยโจมตีมากกว่า เพราะรู้ว่าไทยไม่พอใจที่เมื่อเร็วๆ นี้เฮลิคอปเตอร์ขนเสบียงถูกยิงแล้วไม่ได้รับการชดใช้ค่าเสียหาย


 


 ทั้งนี้ ในช่วงปี 2542 - 2545 ทหารพม่ากับกองกำลังไทยใหญ่ SSA-S ได้มีการสู้รบกันตามแนวชายแดนไทยขั้นรุนแรงแทบทุกปี โดยครั้งล่าสุดได้แก่บ้านปางใหม่สูง ตรงข้ามอำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ และทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างไทยกับพม่าอย่างรุนแรง เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการซ้อมรบของกองทัพไทยภายใต้ยุทธการสุรสีห์ ซึ่งพม่าได้กล่าวหาไทยว่าให้การสนับสนุน SSA ในการโจมตีพม่า


 


 


 


 


 


--------------------------------------------------------------------------------


ข่าวทั้งหมดแปลและสรุปความโดยสำนักข่าวเชื่อม เป็นหน่วยงานข่าวภาคภาษาไทยของสำนักข่าว S.H.A.N (Shan Herald Agency for News) ซึ่งเป็นเครือข่ายของศูนย์ข่าวสาละวิน (Salween News Network) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ chuem@cm.ksc.co.th และ snn_news@cm.ksc.co.th พร้อมติดตามอ่านข่าวสารย้อนหลังรวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศพม่าภาคภาษาไทยได้ที่ www.salweennews.org ภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org และภาคภาษาไทยใหญ่ได้ที่ www.mongloi.org

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net