Skip to main content
sharethis

S.H.A.N. (18 สิงหาคม 2549) - กองทัพพม่าเตรียมแผนโจมตีกองกำลังไทยใหญ่ SSA-S ตามแนวชายแดนไทย โดยได้เสริมกำลังมายังพื้นที่ภาคตะวันออกเพิ่ม อีกทั้งได้ศึกษาภาพถ่ายทางดาวเทียมแสดงตำแหน่งที่ตั้งฐาน SSA-S จากเว็บกูเกิลเอิร์ธไว้อย่างละเอียด ซึ่งคาดว่าจะทำให้การโจมตีแม่นยำขึ้น นอกจากนี้พม่ายังได้ขอกำลังเสริมจากกลุ่มหยุดยิงว้าแดงและกลุ่มเมืองลาร่วมปฏิบัติการด้วย


 


แหล่งข่าวเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2549 ที่ผ่านมา กองทัพพม่าได้มีการเสริมกำลังทหารจากภาคกลางรัฐฉานมายังภาคตะวันออกด้วยรถบรรทุก 6 ล้อจำนวน 20 คัน โดยข้ามแม่น้ำสาละวินที่สะพานท่าก้อและเดินทางมาถึงเมืองเชียงตุงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาในเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2549 นายทหารระดับสูงของพม่าในพื้นที่ภาคสามเหลี่ยมได้มีการประชุมกันที่เมืองท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมีพลตรีมินอ่องหล่าย แม่ทัพภาคสามเหลี่มเป็นประธาน ในที่ประชุมได้หารือกันถึงแผนโจมตีกองกำลังไทยใหญ่ SSA-S ที่มีฐานอยู่ตามแนวชายแดนไทย โดยพุ่งเป้าใหญ่ไปที่ฐานดอยก่อวัน ตรงข้ามอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายเป็นหลัก และได้กำหนดวันดีเดย์ไว้ในปลายเดือนสิงหาคมถึงปลายเดือนกันยายนนี้


 


แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า มีข้อมูลที่ยังไม่ยืนยันว่าทหารพม่าเตรียมใช้กำลังในการโจมตีรวม 4 กองพัน พร้อมกับขอกำลังสนับสนุนจากว้าแดง UWSA อีก 3 กองพันและกลุ่มหยุดยิงเมืองลาอีก 2 กองพัน ซึ่งรวมกำลังพลแล้วจะไม่ต่ำกว่า 1,500 -2,000 คน นอกจากนี้ทหารพม่ายังได้เตรียมกองพันปืนใหญ่ไว้คอยสนับสนุนอีกด้วย


 


ด้านเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงชายแดนไทยคนหนึ่งเปิดเผยว่า ในช่วงระยะอันใกล้นี้คาดว่าอาจมีการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับกองกำลังไทยใหญ่ SSA-S ถึงขั้นรุนแรงอีกครั้งและพม่าอาจจะได้เปรียบในการโจมตีมากกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากทราบว่าตลอดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมากองทัพพม่าได้ศึกษาภาพถ่ายดาวเทียมจากเว็บกูเกิลเอิร์ธที่ระบุตำแหน่งพิกัดฐานของกองกำลังไทยใหญ่ที่อยู่ตามแนวชายแดนไทยเป็นอย่างดี


 


ขณะที่แหล่งข่าวที่เฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวตามแนวชายแดนไทย-พม่าเปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ว่าทหารพม่าจะบุกโจมตีฐานกองกำลังไทยใหญ่ที่ดอยก่อวัน เนื่องจากสังเกตพบว่าทหารพม่าที่ปักฐานอยู่ใกล้พื้นที่ดังกล่าวมีการสร้างบังเกอร์เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับได้ซื้อวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างเช่น เหล็กเส้น และปูนซีเมนต์จากฝั่งไทยเป็นจำนวนมาก ส่วนทางด้านฐานบัญชาการใหญ่ดอยไตแลงยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการสู้รบ เนื่องจากทหารพม่าและว้าแดงที่อยู่ใกล้ดอยไตแลงยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ


 


ทั้งนี้ ในช่วงปี 2532 - 2535 ทหารพม่ากับกองกำลังไทยใหญ่ SSA-S ได้มีการสู้รบกันตามแนวชายแดนไทยขั้นรุนแรงแทบทุกปี โดยครั้งล่าสุดได้แก่บ้านปางใหม่สูง ตรงข้ามอำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ โดยการสู้รบได้ใช้เวลากว่าหนึ่งเดือน ต่อมานายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเพิ่งก้าวขึ้นรับตำแหน่งได้ปีเศษได้ขอร้องกองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าต่างๆ ไม่ให้มีการสู้รบกันตามแนวชายแดนไทย โดยให้เหตุผลว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ หากอยากสู้รบกันก็ขอให้เป็นที่อื่นที่ไม่อยู่ใกล้กับชายแดนไทย ซึ่งในขณะนั้น SSA-S ได้ตอบว่าจะไม่เป็นฝ่ายรุกก่อน แต่หากถูกโจมตีก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ ทำให้การสู้รบตามแนวชายแดนไทยขั้นรุนแรงยุติลงนับแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน


 


อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า หากการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับกองกำลังไทยใหญ่ SSA-S มีขึ้นตามที่พม่ากำหนดวันดีเดย์ไว้จริง คาดว่ากองกำลังว้าแดง UWSA อาจจะเข้าร่วมด้วยแน่นอน เพราะว่าว้าแดง UWSA มีธุรกิจร่วมกับพม่าหลายอย่าง อีกทั้งในการสู้รบที่ผ่านมาก็มักจะมีว้าแดง UWSA เข้าร่วมด้วยเสมอ


 


 


 


--------------------------------------------------------------------------------


ข่าวทั้งหมดแปลและสรุปความโดยสำนักข่าวเชื่อม เป็นหน่วยงานข่าวภาคภาษาไทยของสำนักข่าว S.H.A.N (Shan Herald Agency for News) ซึ่งเป็นเครือข่ายของศูนย์ข่าวสาละวิน (Salween News Network) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ chuem@cm.ksc.co.th และ snn_news@cm.ksc.co.th พร้อมติดตามอ่านข่าวสารย้อนหลังรวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศพม่าภาคภาษาไทยได้ที่ www.salweennews.org ภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org และภาคภาษาไทยใหญ่ได้ที่ www.mongloi.org

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net