Skip to main content
sharethis

นี่เป็นภาพและรายงานเหตุการณ์ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2549 ในวันที่มีการประชุมครม.สัญจรภาคเหนือ ณบ้านพักส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ท่ามกลางความสับสนสงสัยพร้อมกับการตั้งคำถามกันว่า นี่เป็นการประชุม ครม.ในนามรัฐบาล หรือการมาหาเสียงของพรรคไทยรักไทย?


 



 


1.หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่


9 โมงเช้า ตัวแทนสหพันธ์เครือข่ายเกษตรกรภาคเหนือ(สกน.) และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ ประมาณ 20 คน ร่วมกันวางพวงหรีด "แด่ระบบทักษิณ" พร้อมกับการอ่านแถลงการณ์ "เราขอประกาศผ่าจ้านรัฐบาลทักษิณ ตัดสายสิญจน์นโยบายประชานิยม"


 


ในแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่รักษาการนายกรัฐมนตรี(พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) และคณะ ได้อ้างการตรวจราชการพื้นที่ภาคเหนือระหว่างวันที่ 14-17 ส.ค.2549 และได้จัดการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรหมู่บ้านกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านส่วนตัวของครอบครัวทักษิณ สหพันธ์เครือข่ายเกษตรกรภาคเหนือ(สกน.) และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ ขอแถลงการณ์แสดงท่าทีและขอเรียกร้องดังต่อไปนี้


 


1.เราขอประณามการอ้างเหตุการณ์ตรวจราชการพื้นที่ในภาคเหนือ และจัดประชุมครม.สัญจรดังกล่าวนี้ว่า น่าจะเป็นพฤติกรรมเบียดบังงบประมาณแผ่นดิน หาเสียงสร้างภาพ เอาเปรียบทางการเมืองของหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ทั้งนี้เพราะโดยหลักจรรยาบรรณทางการเมืองแล้ว ในระหว่างรอการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไป รัฐบาลรักษาการทุกคณะไม่มีความชอบธรรมใดๆ ที่จะจัด ครม.สัญจรนอกสถานที่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้บ้านส่วนตัวของหัวหน้าพรรคไทยรักไทยจัดประชุม ถือได้ว่าเป็นกิจการหาเสียงภายในของพรรคการเมือง หาใช่หลักของการบริหารราชการแผ่นดินที่ถูกต้องแต่ประการใด


 


2. เราเห็นว่า นับจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เคยให้สัญญาประชาคม กรณีการแก้ไขปัญหาของ สกน.ว่า "ถ้าคนเมืองแก้ไขปัญหาคนเมืองบ่ได้ ก็บ่มีนายกฯคนไหนแก้ปัญหาได้" หน้าศาลากลาง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2544 นั้น บัดนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า 5 ปีของรัฐบาลทักษิณ ปัญหา สกน.ถูกตัดตอนทำลายอย่างรุนแรง ดังปรากฏข้ออ้างของ ครม.ในการยกเลิกคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของ สกน.ทั้งทุกกรณีเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2548 ว่ารัฐมีกลไกระดับท้องถิ่นแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว นี่คือความสามานย์ของระบบทักษิณที่พร้อมจะหักหลังและทำลายเครือข่ายองค์กรประชาชน


 


ซ้ำร้าย นโนบายขายฝัน หลอกคนจน ต้มคนทุกข์ บริหารราชการด้วยการฟาดหัวชาวบ้าน เป็นการทำลายการมีส่วนร่วมทางของภาคประชาชนยิ่งจะทำให้ความยากจนเพิ่มทวีมากยิ่งขึ้น เช่น การทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-จีน ที่ผ่านมา นโยบายได้ทำลายอาชีพเกษตรกรของคนภาคเหนืออย่างถอนรากถอนโคน เราเห็นว่า นโยบายทำลายขบวนการประชาชนเช่นนี้ ทักษิณหมดความชอบธรรมทางการเมืองอย่างสิ้นเชิง


 


3. เราขอประกาศว่า นับจากบัดนี้เป็นต้นไป เราขอประกาศตัดญาติกับระบอบทักษิณ ทั้งนี้ก่อนเราเคยได้บายศรีฮ้องขวัญ หวังจะให้นายกฯ คนเมืองช่วยเหลือคนทุกข์ แต่กลับถูกหักหลังอย่างเจ็บปวด วันนี้ เราขอทำพิธีผ่าจ้าน ตัดสายสิญจน์ คว่ำบาตรนโยบายประชานิยมทุกโครงการ และเราขอตรวจสอบและต่อต้านความไม่ชอบธรรมของระบอบทักษิณทุกกรณี เช่น การไม่ชำระหนี้อันเกิดจากกองทุนหมู่บ้านละล้านที่ผิดพลาด ไม่ใช้สินค้าและบริการของชินวัตรกับบริวาร เป็นต้น


 


หลังจากนั้น ขบวนรถของกลุ่มสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ รวมทั้งกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลำไย เคลื่อนตัวออกจากศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ไปตามถนนหลวงสาย 107 มุ่งหน้าขึ้นเหนือ เป้าหมายคือหมู่บ้านกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ อันเป็นบ้านพักของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและเป็นสถานที่จัดประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรภาคเหนือ


 


2.บริเวณหน้าหมู่บ้านกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่


เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ที่มาอารักขาพื้นที่การจัดประชุมคณะรัฐมนตรีทางไกล ได้นำแผงเหล็กมากั้นระหว่างกลางถนน จนทำให้รถที่วิ่งไปมาต้องชะลอให้ช้าลง และหันมามองด้วยความแปลกใจ


 


บริเวณในสุสานด้านหน้าหมู่บ้านกรีนวัลเลย์ มีรถดับเพลิงจาก อบต.สันโป่ง พร้อมเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมหากมีการเกิดปะทะกันระหว่างกลุ่มสนับสนุนและกลุ่มสนับสนุน


 


เมื่อรถของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลำไยจำนวนประมาณ 20 คนเดินทางมาใกล้ทางเข้ากรีนวัลเล่ย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สกัดไม่ให้เข้าไปข้างใน แต่ให้เลี้ยวเข้าไปจอดในบริเวณด้านหน้าของ อบต.แม่สา แทน ซึ่งทำให้มีการโต้เถียงกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มตึงเครียด สื่อมวลชนกรูเข้ารุมล้อมถ่ายรูป เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าเจรจาด้วยสีหน้าหวั่นวิตก


 


ชาวบ้านเดินไปแบกถุงลำไยออกมา พร้อมกับถือป้ายผ้าประท้วง "ลำไย ปุ๊ดตืนกู้ปี๋ นี่คือยาพิษจากการค้าเสรี FTA" แปลความได้ว่า "ลำไยขาดทุนทุกปี นี่คือยาพิษจากการค้าเสรี FTA" และ "ห้าปี๋ แก้ปัญหาคนจนบ่ได้"


 


"นี่คือลำไย กิโลละสี่บาท เฮาจะเอาไปให้นายกฯ ทักษิณ..." ชาวบ้านคนที่แบกกระสอบลำไยตะโกนออกมา


 


"นายกฯ คนเมือง เอาสัจจะไปไว้ที่ไหน เคยรับปากว่าจะแก้ไขปัญหา นี่ถ้าเป็นคนเมืองเหนือ เขาบอกว่า อู้เหมือนวอก ปีนี้ ลำไยราคาถูกที่สุด เหลือเพียง กิโลละ 4-5 บาท ต่ำสุดเหลือ 50 สตางค์ ไหนจะค่าน้ำมันแพง ค่าแรงสูง ค่าปุ๋ยค่ายาขึ้นอีก วันนี้ พวกเราเอาลำไยมาให้ก็เพื่อเป็นอนุสาวรีย์อัปยศ ที่รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้แก้ไขอะไรเลย" สุแก้ว ฟุงฟู ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรภาคเหนือ ยืนถือโทรโข่งตะโกนดังก้อง


 


กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลำไยพยายามจะเดินเข้าไปเพื่อนำลำไยไปมอบให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมคณะรัฐมนตรี ที่กำลังจัดประชุมอยู่ข้างในบ้านพักส่วนตัวที่กรีนวัลเลย์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ต.จิรุตม์ พรมโมบล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และนายบุญเสริม จิตเจนสุวรรณ นายอำเภอแม่ริม ได้เข้ามาเจรจาขอร้องไม่ให้เข้าไปข้างใน จนทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ และตัดสินใจเทลำไยแห้งและดิบลงบนพื้นพร้อมกับเหยียบย่ำด้วยความรู้สึกคับแค้นที่รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญ ไม่ได้แก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำมากที่สุดในรอบ 50 ปี


 


ในขณะที่ฟากหนึ่ง ตรงบริเวณด้านประตูทางเข้ากรีนวัลเลย์ บ้านพักส่วนตัวและสถานที่จัดประชุมครม.ทางไกล กลุ่มชาวบ้านร่วม 300 คนที่มาร่วมชุมนุมกำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่างพากันยืนถือป้ายสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคไทยรักไทย จนแน่นขนัด


 


รถยนต์ติดเครื่องขยายเสียงคันนั้นจอดอยู่ด้านหน้าทางเข้ากรีนวัลเลย์ เมื่อผู้สื่อข่าวเดินไปถ่ายรูป มีสติกเกอร์ "ไทยรักไทย" ติดตรงกระจกด้านหน้า ในขณะที่ผู้ประกาศยืนหลบอยู่ตรงเสาไฟฟ้า กล่าวโจมตีว่ากลุ่มที่มาคัดค้านนายกฯ คือกลุ่มที่ไม่หวังดี ทำความอับอายขายหน้า สร้างความเสื่อมเสียแก่เมืองเชียงใหม่ ฯลฯ


 


และเมื่อหันไปดูป้ายที่กลุ่มชาวบ้านที่ยืนออกันทางประตูทางเข้า จะเห็นป้ายสนับสนุนให้กำลังใจ "นายกฯทักษิณ แก้ปัญหายาเสพติด+ความยากจน" "พันธมิตรทำลายชาติ ไม่ใช่กู้ชาติ" ฯลฯ บางป้ายมีการให้กำลังใจ ส.ส.พรรคไทยรักไทย ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่


 


ในขณะนั้น ได้มีรถสี่ล้อแดงจำนวน 5 คันทยอยขนกลุ่มผู้มาให้กำลังใจกันอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทาง อบต.


 


นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด กองเลขา สกน.กล่าวก่อนเดินทางกลับว่า ที่มีการพยายามกีดกันไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปข้างในนั้น ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและชาวบ้านที่มาให้กำลังใจต่างไม่เข้าใจเรื่องสิทธิที่ประชาชนทุกคนพึงมีตามกรอบของรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เอาสิทธิไปมอบให้แต่นักการเมืองเพียงอย่างเดียว และการเคลื่อนไหวของสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ เป็นการแสดงเจตนารมณ์เพื่อจะบอกสัญญาณความล้มเหลวของรัฐ ความล้มเหลวทางการเมืองของระบอบทักษิณ


 


"ยิ่งกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ รองผู้ว่าฯ นายอำเภอ เข้ามากันไม่ให้พี่น้องชาวบ้านที่มีปัญหาเรื่องลำไยตกต่ำเข้าไปในกรีนวัลเลย์ สถานที่ประชุมครม.สัญจร แต่อนุญาตให้ชาวบ้านกลุ่มที่มาให้กำลังใจเข้าไปปักหลักอยู่ในกรีนวัลเล่ย์ได้ ว่า นี่แสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่า เป็นการจงใจเลือกปฏิบัติต่อหน้าที่ และถือว่าเป็นการสร้างสังคมบนความแตกแยก เพราะจริงๆ แล้ว ควรจะให้ชาวบ้านที่มีปัญหาเดือดร้อนเข้าพบคณะรัฐมนตรี เพื่อร้องเรียนความทุกข์ยาก แต่กลับให้ชาวบ้านที่ถูกเกณฑ์มา และไม่ได้เดือดร้อนอะไรมายืนถือป้ายให้กำลังใจ ซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้า ที่ผู้ที่เป็นถึงตำรวจ ข้าราชการของรัฐที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีกลับต้องยอมไปเป็นยามรักษาความปลอดภัยให้กับนักการเมือง"


 


กองเลขา สกน.กล่าวอีกว่า การเกณฑ์คนมาถือป้ายให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ และ ส.ส.ไทยรักไทย ในขณะที่มีการประชุม ครม.ในฐานะรัฐบาลไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง นี่บ่งบอกว่า ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และ ส.ส.ในพื้นที่ต่างกำลังสับสนกับตัวเองว่ากำลังเป็นไทยรักไทย หรือว่าเป็นรัฐบาล เป็นคณะรัฐมนตรีอยู่ ซึ่งการเอาบ้านส่วนตัวมาประชุมครม.นี่ก็แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังเหลิงอำนาจ ใช้อำนาจมากเกินไปแล้ว


 


นี่เป็นบางเหตุการณ์ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ท่ามกลางความสับสนสงสัยพร้อมกับการตั้งคำถามกันว่า นี่คือเป็นการประชุม ครม.ในนามรัฐบาล หรือการมาหาเสียงของพรรคไทยรักไทย?


 



 



 



 



 



 



 



 



 



 



 



 



 



 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net