12 ส.ค. 2549 - สื่อมวลชนในอังกฤษได้แสดงความยินดีกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของรัฐบาลที่สามารถทำลายแผนระเบิดเครื่องบินหลายลำกลางอากาศของกลุ่มก่อการร้ายได้สำเร็จ แต่เตือนด้วยว่ารัฐบาลจะต้องตอบโต้กับภัยคุกคามนี้อย่างเหมาะสม และไม่ละเมิดสิทธิประชาชน

สื่ออังกฤษระบุว่า หลังจากเกิดเหตุโจมตีเครือข่ายรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงลอนดอนเมื่อเดือนกรกฎาคม 2548 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 56 คน รัฐบาลอังกฤษพยายามผลักดันร่างกฎหมายเพื่อเปิดทางให้ตำรวจสามารถกักขังหน่วยเหนี่ยวพลเรือนได้ 90 วัน โดยไม่ต้องตั้งข้อหา

อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายดังกล่าวก่อให้เกิดเสียงโจมตีทั่วประเทศ และในที่สุดก็ไม่ผ่านความเห็นชอบในสภาล่าง ทำให้รัฐบาลต้องเลี่ยงไปผลักดันข้อเสนอควบคุมตัวที่ลดจำนวนวันเหลือ 28 วันแทน

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน เรียกร้องในบทบรรณาธิการว่า รัฐบาลจะต้องระมัดระวังไม่สร้างความผิดพลาดเหมือนครั้งที่ผ่านมา และมาตรการต่างๆที่ออกมาจะต้องไม่ทำลายรากฐานด้านเสรีภาพของประชาชน

ด้านหนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ เรียกร้องในทำนองเดียวกัน โดยชี้ว่าหนทางต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายจะต้องทำผ่านการรวบรวมข่าวกรองและการสืบสวนของตำรวจ แต่ไม่ใช่ผ่านการเร่งออกกฎหมายถี่ยิบเหมือนที่รัฐบาลดำเนินการก่อนนี้

ส่วนหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์เรียกร้องให้รัฐบาลรับมือกับภัยก่อการร้ายอย่างเหมาะสม โดยมีการยกตัวอย่างกรณีที่นายพอล สตีเฟนสัน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในกรุงลอนดอนระบุว่า แผนระเบิดเครื่องบิน "เป็นความพยายามก่อเหตุฆาตกรรมหมู่ในระดับที่สุดจะจินตนาการได้" ซึ่งการใช้ถ้อยคำดังกล่าวเป็นการสร้างความตื่นตกใจกับประชาชน

"คำตอบที่ทรงพลังที่สุดในการรับมือกับการก่อการร้าย คือ ไม่ทำให้เกิดการแตกตื่นตกใจ" หนังสือพิมพ์ชั้นนำระบุ

พร้อมกันนี้ สื่อทั้ง 2 ฉบับได้เรียกร้องประชาชนในประเทศ โดยเฉพาะชาวมุสลิม ให้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่แจ้งข้อมูลแผนก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงอังกฤษสามารถโค่นแผนระเบิดเครื่องบินกลางอากาศครั้งใหญ่ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 24 คน โดยคาดว่าสถานที่วางแผนอาจมีต้นทางในปากีสถาน

บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ไทมส์ ระบุว่า ปฏิกิริยาตอบโต้ผู้ก่อการร้ายที่ดีที่สุดของประชาชนก็คือ การเตรียมพร้อม หาข้อมูล และจับตาสถานการณ์ โดยไทมส์เน้นเป็นพิเศษที่ชุมชนชาวมุสลิมในอังกฤษ

ส่วนหนังสือพิมพ์เดอะเดลีเทเลกราฟ ตีพิมพ์บทบรรณาธิการระบุว่า ครอบครัวชาวมุสลิมสามารถมีส่วนช่วยหยุดยั้งสิ่งที่เกิดขึ้นได้

"มันต้องเริ่มจากส่วนล่าง ให้เกิดการตระหนักว่า พ่อแม่ พี่น้อง และสมาชิกในครอบครัว สามารถช่วยระบุตัวและหยุดยั้งกลุ่มที่นิยมความรุนแรง" เดอะเดลีเทเลกราฟระบุ

ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com