Skip to main content
sharethis

9 ส.ค. 2549 นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เสนอให้ ครม.ให้ความเห็นชอบเรื่องให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ทดรองจ่ายให้สถาบันเกษตรกรกรณีที่มีการโอนหนี้ ทั้งนี้ เป็นเรื่องเดิมที่ ครม.เคยอนุมัติในหลักการการจ่ายเงินชดเชยให้แก่สถาบันเกษตรกรที่โอนหนี้สมาชิกไปอยู่ที่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ในส่วนที่เกินจากที่ กฟก.รับโอนไป และให้กระทรวงเกษตรฯ ไปจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับวงเงินงบประมาณ และแนวทางในการดำเนินการการจ่ายเงินชดเชยให้กับสถาบันเกษตรกรที่โอนหนี้สมาชิกไปอยู่ที่ กฟก.


 


โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ทางกระทรวงเกษตรฯ ได้นำเสนอเรื่องเกี่ยวกับผลการดำเนินการของคณะกรรมการ ซึ่งคณะกรรมการเองก็ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการที่จะจ่ายเงินค่าชดเชยดังกล่าว ซึ่งสรุปได้ดังนี้


 


คณะกรรมการฯ ได้ขอความร่วมมือจากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้มีการตรวจสอบหนี้ของสมาชิกที่ได้ขึ้นทะเบียนหนี้ไว้กับ กฟก. และมีการสรุปว่าเป็นหนี้เสียตามรายชื่อที่ได้รับจาก กฟก. จำนวนทั้งสิ้น 3,657 ราย มีมูลหนี้ประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่ง กฟก.ได้พิจารณารับรองให้ได้รับสิทธิในการจัดการหนี้แล้ว โดยที่ให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ดำเนินการตรวจสอบความมีอยู่จริงของหนี้ และเป็นหนี้เสียตามเงื่อนไขหรือไม่ เพื่อที่จะให้ กฟก.เข้าไปรับโอนหนี้ของสมาชิกจากสถาบันเกษตรกร


 


ในการประชุมคณะกรรมการเช่นเดียวกัน ก็จะให้ กฟก.ทดรองจ่ายเงินในส่วนที่รัฐบาลจะจ่ายชดเชยให้กับสถาบันเกษตรกรไปก่อน เพื่อที่จะจูงใจให้สถาบันเกษตรกรโอนหนี้ให้สมาชิกเร็วขึ้น โดยที่จะขอให้ใช้งบประมาณจากงบกลางปี 2549 ที่เบิกจ่ายคืนให้กับ กฟก.แทนสถาบันเกษตรกร ตามจำนวนที่ กฟก.ได้ใช้จ่ายไปจริงต่อไป


 


สำหรับกรณีที่เกี่ยวกับสถาบันเกษตรกร เจ้าหนี้โต้แย้งเกี่ยวกับพฤติกรรมของสมาชิกที่มีสิทธิได้รับการจัดการหนี้ว่าไม่ใช่คนจนจริง หรือบิดพลิ้วไม่ยอมชำระหนี้ กฟก.เองก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาข้อโต้แย้งดังกล่าว โดยที่มีองค์ประกอบ 3 ฝ่าย คือ มีฝ่ายกฎหมายของ กฟก.ส่วนกลาง หัวหน้าจัดการหนี้ของ กฟก. สาขาจังหวัด และสถาบันเกษตรกรเจ้าหนี้ เพื่อที่จะรายงานให้คณะกรรมการจัดการหนี้เกษตรกรชี้ขาด ซึ่งปรากฏว่าผลจากการดำเนินการรับโอนหนี้ของ กฟก.ยังดำเนินการรับโอนหนี้มาค่อนข้างน้อยมาก ได้จำนวนสมาชิกเพียง 77 รายของสมาชิกกลุ่มเป้าหมายที่ กฟก.ยืนยันแล้วว่ามีทั้งหมด 3,657 ราย


 


นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า จากสาเหตุดังกล่าวทำให้สถาบันเกษตรกรขาดความมั่นใจในระยะเวลาที่จะได้รับเงินชดเชย เนื่องจากสถาบันเกษตรกรเองต้องกู้เงินจากภายนอก หรือนำเงินฝากของสมาชิกรายอื่นมาเป็นทุนให้สมาชิกกู้ยืม จึงมีภาระที่จะต้องจ่ายคืน และอีกทั้งสถาบันเกษตรกรส่วนใหญ่ต้องการเงินชดเชยทันทีที่มีการโอนหนี้สมาชิกไปอยู่ที่ กฟก. เพราะฉะนั้น ถ้าหากให้ กฟก.ทดรองจ่ายเงินให้กับสถาบันเกษตรกรไปก่อนทันทีที่มีการโอนหนี้ก็จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับสถาบันเกษตรกร และเป็นการจูงใจให้สถาบันเกษตรกรโอนหนี้ให้สมาชิกมากขึ้น


 


"วันนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้นำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณา 3 ประการ คือ 1.รับทราบผลการดำเนินการที่ผ่านมา 2.คือ ขอความเห็นชอบให้ กฟก.ทดรองจ่ายให้กับสถาบันเกษตรกรก่อน ตามจำนวนที่รัฐบาลต้องจ่ายชดเชยให้กับสถาบันเกษตรกร 3.คือ ขออนุมัติงบกลางปี 2549 ตามจำนวนที่ดำเนินการได้จริง เพื่อจ่ายคืนให้กับ กฟก.ในข้อ 2 ซึ่งจะต้องมีการตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณเมื่อมีการเบิกจ่ายต่อไป ซึ่งในส่วนนี้ ครม.ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอมา" โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ


 


ด้านเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย จำนวนนับพันคนที่ได้ปักหลักชุมนุมประท้วงกระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ส.ค. เพื่อเร่งรัดให้มีการแก้ไขหนี้สินตามที่รับปากเอาไว้ ยอมสลายการชุมนุมแล้ว หลังข้อเรียกร้องได้ข้อยุติ พร้อมระบุจะกลับมาอีกหากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เผยมีข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ 18 รายแจ้งความแกนนำ ฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้แต่เป็นคดีที่สามารถยอมความกันได้



โดยเวลา 18.40 น.ของวันที่ 8 สิงหาคม นายชรินทร์ ดวงดารา ที่ปรึกษาเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย ขึ้นปราศรัยแจ้งผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการให้กับกลุ่มเกษตรกรที่ปักหลักชุมนุมก่อนสลายการชุมนุมเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างสงบ ทั้งนี้ ยังได้กล่าวถึงเรื่องที่มีข้าราชการไปแจ้งความว่าไม่ติดใจ เพราะถือเป็นเรื่องลหุโทษ และจะเดินทางกลับมาอีกจำนวนมากกว่านี้ หากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม จากนั้นให้แต่ละจังหวัดส่งผู้แทนรับมอบเอกสารที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรทดรองจ่ายให้สถาบันเกษตรกรกรณีที่มีการโอนหนี้ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานแสดงให้แต่ละสหกรณ์เจ้าหนี้รับทราบ



ก่อนหน้านี้เวลา 18.00 น. ผู้แทนเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย ได้มอบช่อดอกไม้ขอบคุณ พล.ต.ต.ปราโมช ปทุมวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ในการอำนวยความสะดวกกลุ่มผู้ชุมนุม



ด้าน พล.ต.ต.ปราโมช กล่าวแสดงความยินดีในข้อเรียกร้องของเกษตรกรที่ประสบผลสำเร็จครั้งนี้ ในฐานะผู้แทนตำรวจมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยให้แก่ประชาชน และต้องขอบคุณกลุ่มผู้ชุมนุมที่ให้ความร่วมมือในการชุมนุมอย่างสงบ ส่วนเรื่องที่มีข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ จำนวน 18 คน ไปแจ้งความดำเนินคดีแกนนำผู้ชุมนุมนั้น เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและพิจารณาไปตามความผิด แต่ความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังเป็นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายไม่ประสงค์ให้ดำเนินคดีต่อไป ก็สามารถจะมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและถอนคำร้องทุกข์ได้เช่นเดียวกัน


 


เรียบเรียงจาก เว็บไซต์ผู้จัดการ- คมชัดลึก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net