Skip to main content
sharethis

ภาคใต้ - บุกยิง "รักษาการส.ว.นราฯ" หวิดดับ ปฏิบัติการอุกอาจต่อหน้านักเรียน - ประชาชนนับร้อย "ผู้ว่านราฯ" คุย 2 วันรู้เรื่อง เท่านั้นไม่พอ บุกซัลโวลูกชายนายกฯรือเสาะ ต่อด้วย 2 ผัวมียเผาถ่าน เผยครูชายแดนใต้สภาพจิตเสื่อม "ครูจูหลิง - ผู้กองประเทือง" อาการวิกฤต


 


เมื่อเวลา 06.20 น. วันที่ 6 สิงหาคม 2549 ขณะที่นายฟัครุดดีน บอตอ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 809 ถนนเทศบาล 8 เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส รักษาการสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดนราธิวาสและเจ้าของโรงเรียนดารุสสาลาม ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อไทเกอร์ สีบรอนส์ ทะเบียน กรษ - 892 นราธิวาส กลับจากจ่ายตลาดมุ่งหน้ากลับบ้านพัก


 


เมื่อมาถึงบริเวณเยื้องหน้าโรงเรียนดารุสสาลาม ถนนเทศบาล 8 เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสแมท สีดำ เป็นพาหนะ ประกบยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 มิลลิเมตร กระสุนเข้าบริเวณต้นคอด้านขวา ทะลุแก้มซ้าย ต่อหน้านักเรียนโรงเรียนดารุสสาลาม และชาวบ้านนับร้อยคน อาการสาหัส


 


ผู้ประสบเหตุได้นำนายฟัครุดดีน ส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ในเวลาต่อมา โดยแพทย์ได้ผ่าตัดเอาหัวกระสุนออก และดูแลจนอาการอยู่ในขั้นปลอดภัย ท่ามกลางชาวบ้าน นักการเมือง ทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น ทยอยกันมาเยี่ยมตลอดเวลา


 


ตำรวจคาดปมไล่นักเรียน100คน


พ.ต.อ.มาโนช อนันต์ฤทธิกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอระแงะ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ในช่วงเกิดเหตุประมาณ 10 ปาก มีชาวบ้าน ครู และนักเรียนโรงเรียนดารุสสาลามพบว่า เมื่อเดือนกรกฎาคม 2549 นายฟัครุดดีนได้สอบสวนพฤติกรรมนักเรียนสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับโรงเรียน แยกเป็น หญิงประมาณ 20 คน และนักเรียนชายประมาณ 80 คน เนื่องจากมีนักเรียนหญิงตั้งครรภ์ และนักเรียนชายเสพยาเสพติด นายฟัครุดดีน จึงใช้เป็นเหตุผลในการไล่ออก เป็นไปได้ว่า นักเรียนที่ถูกไล่ออกไปให้ข้อมูลเท็จกับผู้ปกครอง กระทั่งเกิดความพอใจ จนถึงขั้นตัดสินใจทำร้ายนายฟัครุดดีน


 


พ.ต.อ.มาโนช เปิดเผยต่อไปว่า ส่วนสาเหตุอื่นๆ อยู่ระหว่างการสอบสวน สำหรับประวัติ นายฟัครุดดีน บอตอ จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยการาจี ประเทศอินเดีย มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและการศึกษา ปัจจุบันโรงเรียนดารุสสาลาม มีนักเรียนประมาณ 5,000 กว่าคน ครู 500 คน


 


ผู้ว่าฯนราเชื่อ2วันรู้สาเหตุ


นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมนายฟัครุดดีนว่า คนร้ายมีความฮึกเหิม เชื่อว่าข้าราชการผู้ใหญ่ รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ตกเป็นเป้าหมายของคนร้าย เมื่อสบโอกาสก็จะลงมือสังหาร เพื่อสร้างเครดิต แสดงศักยภาพ และขีดความสามารถ ตนขอเวลา 2 วัน ในการสรุปประเด็นการบุกยิงนายฟัครุดดีน เชื่อว่าจะจับคนร้ายได้


 


ยิงลูกนายกฯรือเสาะ-ต่ออีก2เหยื่อชาวบ้าน


เวลา 10.10 น. วันเดียวกัน คนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด .38 บุกยิงนายชนันท์ จันทร์ปียะ อายุ 20 ปี ลูกชายนายกวี จันทร์ปียะ นายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ที่บ้านเลขที่ 133 ถนนรือเสาะสนองกิจ เภอรือเสาะ บริเวณ 3 แยกไปนราธิวาส กระสุนเข้ากลางแผ่นหลังทะลุหน้าอก 1 นัด อาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา


 


จากนั้น คนร้ายชุดเดียวกัน ได้บุกเข้าไปในโรงเผาถ่าน ห่างออกจากสถานที่เกิดเหตุเดิม 800 เมตร จ่อยิงนายนริศ โสรมัด อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 หมู่ที่ 2 ตำบลรือเสาะออก ด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่หน้าอกและช่องท้อง ส่วนนางเงิน โสรมัด อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/3 หมู่ที่ 2 ตำบลรือเสาะออก ภรรยานายนริศ ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกัน ที่หน้าท้อง 1 นัด ขณะที่ทั้ง 2 กำลังเผาถ่านอยู่ในโรงงาน


 


ต่อมา ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองกว่า 60 นาย ได้เข้าตรวจค้นบ้านปูโป๊ะ หมู่ 6 ตำบลรือเสาะออก ยึดเครื่องวิทยุสื่อสารได้จำนวนหนึ่ง ส่วนผู้ต้องสงสัยหลบหนีไปได้


 


เวลาไล่เลี่ยกัน เกิดเสียงระเบิดที่ตลาดนัดวันอาทิตย์ หน้าสถานีรถไฟรือเสาะ ในเขตเทศบาลตำบลรือเสาะ จากการตรวจสอบเป็นระเบิดประทัดไม่มีสะเก็ด คาดว่าต้องการเบี่ยงเบนความสนใจล่อให้ชุดตรวจค้นออกจากสถานที่ที่กำลังตรวจค้น


 


กราดอาวุธสงครามดับคนกรีดยาง


เวลา 06.20 น.วันเดียวกัน ขณะนายปูรียา ดูราแมหะยี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 บ้านปุโรง หมู่ 2 ตำบลปุโรง อำเภอรามมัน จังหวัดยะลา ขับรถจักรยานยนต์ออกไปกรีดยาง ไปตามถนนทางเข้าสนามกีฬาบ้านปุโรง ถูกคนร้ายกราดยิงด้วยปืนอาก้าและเอ็ม 16 กระสุนเข้าลำตัวและศีรษะเสียชีวิต


 


ยิงอาสารักษาหมู่บ้านปัตตานีดับ


เวลา 07.10 น. วันเดียวกัน นายสุทิน บุญเกลี้ยง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 5 ตำบลยาบี อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ช่างก่อสร้าง และอาสาสมัครรักษาความสงบหมู่บ้าน ถูกยิงเสียชีวิตที่ 3 แยกถนนชลประทาน หมู่ที่ 3 บ้านไผ่มัน ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก


 


ครูชายแดนใต้สภาพจิตเสื่อม


แพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา เลขาคณะกรรมการช่วยเหลือเยียวด้านจิตใจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า จากการสำรวจสภาพจิตใจของประชาชนในพื้นที่ พบว่าส่วนมากสุขภาพจิตย่ำแย่ โดยเฉพาะกลุ่มครูมีความวิตกกังวลเป็นกรณีพิเศษ นับตั้งแต่เกิดเหตุความไม่สงบกับครูบ่อยครั้ง โดยครูร้อยละ 70 รู้สึกไม่มั่นใจในชีวิตและทรัพย์สิน อยู่ในสภาพหวาดผวาตลอดเวลา


 


แพทย์หญิงเพชรดาว กล่าวถึงกลุ่มครูบ้านกูจิงลือปะ ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาสด้วยว่า แม้เหตุการณ์ทำร้ายครูจูหลิงจะผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว แต่ครูที่นั่นยังมีสุขภาพจิตย่ำแย่ ครูส่วนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ ยังจำภาพได้ติดตา บางคนกลัวว่าจะกลับมาเกิดกับครูอีก


 


ส่วนครูใหม่ที่เพิ่งเข้ามาสอนอีก 6 คน แม้เป็นคนในพื้นที่ แต่ก็หวาดระแวง ส่วนเด็กนักเรียนยังคงมาเรียนตามปกติ มีเพียงนักเรียนบางคนที่พ่อหรือแม่ตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายครู ยังไม่ยอมไปโรงเรียน บางส่วนบอกว่าต้องช่วยพ่อทำงาน เนื่องจากแม่ไม่อยู่ จากจุดนี้จะเห็นว่าไม่ใช่ครูเท่านั้นที่กังวล เด็กก็มีสุขภาพจิตแย่เช่นกัน จึงเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องรีบให้ความช่วยเหลือ


 


เด็กกูจิงลือปะหยุดเรียน22คน


นายอิสมาน มุวรรณสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ เปิดเผยว่า ครูทั้ง 12 คน ยังหวาดผวาและกลัวคนแปลกหน้า ทางโรงเรียนจึงหากิจกรรมที่ครูกับชาวบ้านต้องร่วมกันทำให้บ่อยขึ้น เพื่อสร้างความคุ้นเคย ส่วนจำนวนนักเรียนลดลงจากเดิม 203 คน เหลือเพียง 181 คน เด็กที่หายไปไม่มาเรียนหลังจากพ่อหรือแม่ถูกจับ บางคนต้องช่วยทำงานบ้านและเลี้ยงน้อง ขณะที่บางคนก็ไม่เชื่อว่าพ่อแม่เป็นคนทำร้ายครู จึงไม่ยอมมาเรียนหนังสือ


 


  "ครูจูหลิง-ผู้กองประเทือง"อาการวิกฤต


ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา คณะแพทย์ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 79 สรุปอาการของครูจูหลิงว่า โดยรวมยังคงวิกฤตและไม่รู้สึกตัวเหมือนเดิม เนื่องจากระบบสมองและแกนสมองที่ควบคุมสัญญาณชีพทั้งหมดไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้น และยังไม่ฟื้นตัว แม้ว่าจะย่างเข้าสู่เดือนที่ 3 ของการรักษาแล้วก็ตาม ที่สำคัญยังคงมีการติดเชื้อร่วมกับภาวะปอดอักเสบ แพทย์ต้องให้ยาปฏิชีวนะในการรักษา และเคาะปอดระบายเสมหะลดการอุดตันของปอด และให้ยาป้องกันลิ่มเลือดที่ขาแข็งตัว


 


ในส่วนของสัญญาณชีพ ความดันโลหิต ชีพจรยังปกติ และไม่มีไข้ ขณะที่ปอดส่วนล่างด้านขวาแฟบดีขึ้น ไม่พบความผิดปกติของการแลกเปลี่ยนก๊าซ ระบบขับถ่ายและระดับเกลือแร่ในร่างกายปกติ สามารถรับอาหารและน้ำทางสายยางได้เพิ่มขึ้น


 


ส่วนอาการ ร.ต.อ.ประเทือง พุ่มพร หัวหน้าชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุลอบวางระเบิดสะพานรถไฟที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เป็นเหตุให้ลูกน้องเสียชีวิต 3 นาย ขณะนี้ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ล่าสุดอาการยังคงวิกฤต เพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง และมีสะเก็ดระเบิดเจาะเข้าไปในกะโหลกศีรษะ ส่งผลให้ไม่รู้สึกตัว ความดันไม่ปกติ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา อาการโดยรวมใกล้เคียงกับครูจูหลิง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net