Skip to main content
sharethis

ประชาไท—4 ส.ค. 2549 ชาวบ้านผวาเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีออกมาแจงกรณีสัตว์ป่าหลุดออกกรงมั่ว หลังมีกระแสข่าวว่าเป็นหมาป่าไฮยีน่า ก่อนออกมาบอกว่าเป็นหมาป่าแคนาเดียนหลุดไปจริง ล่าสุดออกมายืนยันอีกว่า เป็นหมาป่าสีเทา gray wolve และยังไม่สามารถจับตัวได้ ชาวบ้านเริ่มตื่นและสับสนเกรงว่าจะได้รับอันตราย


ตามที่มีกระแสข่าวว่า มีสัตว์จำนวน 2 ตัว หลุดออกสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งเป็นหมาป่าไฮยีน่า ซึ่งนายสุพจน์ เมธาภิวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการสัตว์ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ปฏิเสธข่าวที่ระบุว่าหมาป่าไฮยีนาได้หลุดออกไปจากส่วนจัดแสดงของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นั้นไม่เป็นจริง แต่ยอมรับว่า ได้มีหมาป่าแคนาเดียนที่เลี้ยงไว้ 6 ตัวได้หลุดไปจริงจำนวน 1 ตัวเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาและยังไม่สามารถจับตัวได้ โดยหลุดออกไปขณะเจ้าหน้าที่เข้าไปให้อาหาร ซึ่งนี้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านกำลังพยายามตามจับตัวอยู่ ซึ่งหมาป่าแคนาเดียนมีลักษณะสีน้ำตาล คล้ายสุนัขแอลเซเชียน หรือสุนัขไซบีเรียนฮักกี้ ที่เป็นสุนัขที่ใช้ในล้อเลื่อนแถบหิมะ ซึ่งเป็นสัตว์กินเนื้อแต่ไม่ดุร้าย


ล่าสุด ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการสัตว์ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ออกมายืนยันอีกครั้งว่า สัตว์ที่หนีหลุดออกไปนั้น คือ เกรย์วูล์ฟ หรือหมาป่าสีเทา ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศสาธารณรัฐเช็ก และได้หลุดหลบหนีเข้าป่าเป็นเวลา 1 เดือนแล้ว และเพิ่งจะมีชาวบ้านพบเห็นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามสัตว์ที่หนีไปอีก 1 ตัวที่เหลืออย่างใกล้ชิด


อย่างไรก็ตาม กรณีที่สัตว์หนีหลุดออกมาจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีในครั้งนี้ ได้สร้างความสับสนมาตั้งแต่เมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้มีกระแสข่าวว่า สัตว์ดังกล่าวเป็นเสือ จนทำให้ชาวบ้านในเขตพื้นที่รอบๆ ไนท์ซาฟารีนั้นเกิดความตื่นกลัว กระทั่งมีกระแสข่าวบอกว่า เป็นหมาป่าไฮยีน่า และหมาป่าแคนาเดียน กระทั่งล่าสุด ทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีออกมารายงานว่าเป็นหมาป่าเกรย์วูล์ฟ


เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์มาตรฐานการจัดการดูแลความปลอดภัยของสัตว์ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กันอย่างต่อเนื่อง โดยหวั่นเกรงกันว่าอาจเป็นสัตว์ดุร้าย เช่น เสือ หรือสิงโต ซึ่งอาจส่งผลต่อความไม่ปลอดภัยในชีวิตของผู้คนและสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านในเขตพื้นที่รอบๆ สวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้


ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้น นายนิคม พุทธา จากมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยฯ ภาคเหนือ ได้นำเสนอรายงานสถานการณ์สัตว์ป่า และกิจกรรมอื่นๆ ในโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยได้พูดถึงกรณีการนำสัตว์ป่านำเข้า ว่า นอกจากประเทศไทยผิดเงื่อนไขสัญญา หรือข้อตกลงในฐานะที่เป็นประเทศสมาชิกภาคีความร่วมมือในการอนุรักษ์สัตว์ป่า หรือ Cites แล้ว นานาประเทศยังถามถึงคุณธรรม จริยธรรมขั้นพื้นฐานของผู้นำประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีความร่ำรวยทางด้านฐานทรัพยากรฯ และวัฒนธรรม สิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ภาพพจน์ของประเทศไทยในด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าต้องตกต่ำอย่างไม่เคยมีมาก่อน


"รัฐบาลไทยไม่ควรจะนำเข้าสัตว์ป่าชนิดต่างๆ จากต่างประเทศ เพราะเท่ากับว่า เป็นการส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์จากสัตว์ป่าในเชิงธุรกิจการค้า หรือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการล่า ทำลายสัตว์ป่ามากขึ้น อีกทั้งยังเสี่ยงต่อภาวการณ์แพร่กระจายของเชื้อโรคจากต่างประเทศที่รุนแรงอีกด้วย"


นอกจากนั้น ในรายงาน ยังได้มีการวิพากษ์ถึงมาตรฐานการดูแลสวนสัตว์ไนท์ซาฟารี อีกว่า จากการสำรวจและติดตามตรวจสอบเกี่ยวกับสวัสดิภาพของสัตว์ป่าของสัตว์ป่าในสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พบว่า สิ่งที่องค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าได้เคยวิตกกังวล ไม่ว่า เรื่องการขาดผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะมาดูแลเอาใจใส่สวัสดิภาพของสัตว์ป่า ตามหลักเกณฑ์ทางวิชาการอย่างแท้จริง จนเป็นเหตุให้สัตว์ป่าเกิดอาการเครียดจัด ตาย กระทั่งเกิดเหตุการณ์ปล่อยให้สัตว์หลุดออกจากกรงหนีเข้าป่าและบ้านเรือนชาวบ้านตามที่เป็นข่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net