Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

นิตยสารรายสัปดาห์พลเมืองเหนือ


 


ต้องยอมรับว่าชื่อของ "รศ.ประทีป จันทร์คง" ถูกกล่าวขาน ก่นด่า ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาไม่น้อย การเปิดบริสุทธิ์ระบอบทดสอบที่เรียกว่า โอเน็ต เอเน็ต เกี่ยวข้องโยงใยกับอนาคตของเยาวชนจำนวนนับแสน เขาในฐานะ "ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.)" ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก และหันหน้าเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์แล้ว บัดนี้เขากลับมาอยู่ในแวดวงการศึกษา เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


 


"พลเมืองเหนือ" มีโอกาสพูดคุยถึงสาเหตุของการเดินไปข้างหน้าไม่ได้ของการสอบในปีที่ผ่านมา


 


พลเมืองเหนือ : ย้อนมองปัญหาระบบแอดมิชชั่น 49 อีกครั้ง สาเหตุหลักคืออะไร


ประทีป : คิดว่าเป็นเพราะเป็นครั้งแรกของระบบการศึกษาไทยและเป็นการใช้ระบบไอทีเข้ามาร่วมด้วยในหลายขั้นตอน ทั้งในการสมัคร การสอบ การคิดคะแนน โดยเฉพาะข้อสอบเป็นปรนัย อัตนัย ซึ่งนักเรียนมีมาก จึงต้องใช้การตรวจแบบดิจิตอลให้เร็วขึ้น ทั้งนักเรียนยังไม่คุ้นกับการสอบ มันเป็นเรื่องใหม่ เมื่อเกิดปัญหาขึ้น สังคมจึงจับตามอง


 


พลเมืองเหนือ:ระบบการสอบโดยการเขียนหรือข้อสอบอัตนัย วัดคุณภาพได้จริง ?


ประทีป:  ระบบการสอบแบบอัตนัย ความจริงทางผู้จัดสอบมีเจตนา เพื่อวัดมาตรฐานแต่ละโรงเรียน โดยใช้นักเรียนเป็นตัววัด ถ้าออกเฉพาะปรนัย มีคำตอบตายตัว เด็กจะไม่คิดต่อ จึงมีการวัดคุณภาพนักเรียน (สอบโอเน็ต) จากประสบการณ์ของผม การทำข้อสอบอัตนัย จะเห็นถึงพื้นฐานของนักเรียน ถ้าเราค่อยเป็นค่อยไปกับระบบการสอบแบบนี้ เด็กจะมีการพัฒนา


 


พลเมืองเหนือ : ขั้นตอนต่างๆที่เป็นปัญหา ควรลดลงบางจุด


ประทีป : ที่จะเห็นได้ชัดคือ ขั้นตอนการรับสมัครผ่านอินเตอร์เน็ต การรับสมัครสอบโอเน็ตที่ผ่านมาคือ รับสมัครนักเรียนที่จบไปแล้ว ซึ่งเกิดปัญหากับการชำระเงิน ธนาคารไม่ใช้บาร์โค้ดในการตรวจข้อมูล แต่ใช้การคีย์ข้อมูลเอง ทั้งเลขบัญชีธนาคาร เลขที่สมัคร เลขบัตรประจำตัวประชาชน จึงมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น


 


การสมัครสอบเอเน็ตที่ผ่านมามี 2 แบบ คือ โรงเรียนเป็นตัวเแทนรับสมัคร มีโรงเรียนที่เข้าระบบรับสมัครผ่านโรงเรียน 457 แห่ง มักเรียน 54,000 คน ถ้าในปีต่อไปมีการสมัครผ่านโรงเรียน และอีกวิธีรับสมัครผ่านเว็บไซต์ ซึ่งนักเรียนต้องเสียค่าธรรมเนียมเอง ทำเองทุกขั้นตอนจึงเกิดความผิดพลาด ฉะนั้นปีต่อไปถ้าให้นักเรียนสมัครในโรงเรียนจะลดปัญหาการสมัครได้


 


พลเมืองเหนือ :การปรับตัวของนักเรียนจะอยู่ในอัตราส่วนเท่าใด ในปี 50


ประทีป:อัตราส่วนได้กับมีปัญหาอยู่เป็น 90 :10 ในส่วนของ 10 อาจจะเกิดจากกระบวนการจัดการคน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีนักเรียนสมัครมากและอาจจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการหลังสอบอยู่บ้าง แต่เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น เมื่อถึงเวลาจริง อาจไม่มีปัญหาเกิดขึ้น


 


 


พลเมืองเหนือ:นักเรียนต้องเตรียมตัวอย่างไร


ประทีป:  ในแง่วิชาการ การเตรียมพร้อม การดูหนังสือ นักเรียนต้องเข้าสู่ความพร้อมได้แล้ว เพราะเนื้อหามีทั้งที่ออกสอบ มีทั้งความรู้ ม.4.5.6 ติดตามข้อมูลข่าวสารทางเว็บไซต์ ในแง่การเข้าห้องสอบ ควรตรวจที่นั่งสอบก่อนเข้าสอบให้แน่ชัด เตรียมอุปกรณ์ในการทำข้อสอบให้ครบ เพราะในปี 50 ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะให้ใช้ดินสอสองบีหรือปากกา และสำคัญที่สุด ต้องรอบคอบก่อนทำข้อสอบ ต้องอ่านคำสั่ง ตรวจข้อสอบให้ละเอียดที่สุด


 


พลเมืองเหนือ :ด้านความพร้อมของผู้จัดสอบ ที่ต้องปรับปรุง


ประทีป:  ผู้จัดสอบที่ผ่านมามีปัญหาหลายด้าน ทั้งด้านงบประมาณ บุคลากร ในปีหน้าคิดว่าจะมีการบริหารที่ดีขึ้น เพราะมีผู้รับผิดชอบชัดเจน รวมถึงการชี้แจง ประชาสัมพันธ์ก็ทำได้แต่เนิ่นๆ และมีงบประมาณเข้ามารองรับอย่างเพียงพอ


 


พลเมืองเหนือ:การสอบโอเน็ตได้ครั้งเดียว จะมีปัญหากับนักเรียนที่คะแนนน้อยและต้องนำคะแนนไปเทียบเข้าคณะในปีต่อไป


ประทีป:  ในหลักปฏิบัติโอเน็ตสอบได้เพียงครั้งเดียว แต่ในการสอบที่ใช้ในมหาวิทยาลัย คิดว่าในปี 50 เขาอาจจะอนุโลมให้เด็กสอบโอเน็ตได้มากกว่า 1 ครั้ง รวมทั้งเด็กที่จบแล้วด้วย


 


พลเมืองเหนือ :การปฏิรูปการศึกษาไทยเดินมาถูกทางหรือ

ประทีป : ถ้ามองในแง่การจัดสอบ เดินมาถูกแล้ว การเข้ามาสู่ระบบการสอบ ทำให้เด็กตั้งใจเรียนขึ้น เมื่อเรียนผ่านมัธยมศึกษาตอนปลาย ก็มีการประเมินทุกครั้ง เมื่อมีการประเมินก็สามารถวัดมาตรฐานได้ ซึ่งทางโรงเรียนสามารถตรวจสอบวิชาต่างๆ ที่เด็กยังอ่อน เพื่อหาทางให้ดีขึ้น เมื่อมีการประเมินทุกครั้ง แต่ละโรงเรียนก็จะมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ในอนาคตโรงเรียนแต่ละโรงเรียนก็จะมีมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net