นิตยสารรายสัปดาห์พลเมืองเหนือ

14 - 17 สิงหาคม 2549 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะมาทัวร์นกขมิ้นสายเหนือ ท่ามกลางการระแวดระวังตัวเรื่องการหาเสียงทุกลมหายใจเข้าออก

ท่านปฏิเสธข้อกล่าวหาช่วงชิงการได้เปรียบก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งก็เป็นข้อหาของการทัวร์นกขมิ้นครั้งที่ผ่านมาเช่นกัน แต่เลี่ยงมาใช้ว่าครั้งนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน

เมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านควรจะได้ไปตรวจเส้นทางสายเหนือที่ท่านมาโปรยทานไว้เมื่อครั้งก่อน ว่าคืบหน้าหรือล้าหลังแค่ไหน หากหลงลืมไป สิ่งที่ "พลเมืองเหนือ"บันทึกไว้ คงจะพอเรียกความทรงจำท่านได้ พร้อมๆ กับประชาชนในจังหวัดนั้นๆ ได้ใคร่ครวญติดตามว่าว่าทัวร์นกขมิ้นได้พลิกผันโครงการที่เคยอนุมัติไว้ได้จริงหรือเปล่า

000

สายเหนืองวดก่อน ปี 2547 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรมาโปรยทานไว้ 5,000 ล้าน การกลับมาตรวจราชการติดตามความคืบหน้าครั้งนี้ ท่านควรจะเริ่มต้นที่ อุทัยธานี เป็นอันดับแรก เพราะครั้งนั้น ท่านได้ไปอนุมัติงบประมาณผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสะแกกรังไว้ 80 ล้านบาท ให้จังหวัดชัยนาท อุทัยธานี และสุพรรณบุรี จ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาโครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำและอุทกภัยอย่างยั่งยืน 30 ล้านบาท และให้สร้างแนวกันชนระหว่างป่าห้วยขาแข้ง และชาวบ้าน อ.ลานสัก อ.บ้านไร่ อ.ห้วยคด รวมทั้งได้อนุมัติงบ 65 ล้านบาท ตามที่ส.ส.ในพื้นที่สนับสนุนให้ปรับปรุงถนน

ที่กำแพงเพชรตอนนั้นรวมตัวเลขแล้วได้งบสูงถึงกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นโครงการ พัฒนาแหล่งน้ำและชลประทาน งบ 350 ล้านบาท โครงการสร้างฝายทดน้ำในน้ำแม่ปิงในโครงการชลประทานวังบัวซึ่งเป็นนโยบายทีต้องการผันน้ำจากแม่ปิงไปสู่จังหวัดพิจิตรระยะทาง 90 ก.ม. 160 ล้านบาท โครงการเรียนรู้และพัฒนาและการให้ประชาชนจากเกษตรชีวภาพแบบครบวงจร 41 ล้านบาท โครงการปรับปรุงถนน 573 ล้านบาท รวมทั้งโครงการทำถนนต่อไปยัง อุ้มผาง จ.ตาก อีก 25 ก.ม. งบประมาณ 177 ล้านบาท

ที่ จ.สุโขทัย นายกฯ แสดงความไม่พอใจในการพัฒนาอุทยานประวัติศาตร์สุโขทัย ว่าทำไม่เต็มที่ เพราะมีปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ โดยขอให้เร่งแก้ไข ทั้งนี้นายกฯ ได้สอบถามชาวบ้านว่ามีปัญหาเรื่องน้ำ ซึ่งสุโขทัยได้มีปัญหาเรื่องอุทกภัยทุกๆปี ผู้ว่าได้เสนองบประมาณ 900 ล้านบาทเพื่อสร้างอ่างเก็บน้ำ แต่นายกรับเพียงหลักการ

ที่ จ. อุตรดิตถ์ อนุมัติงบ 92 ล้าน ในโครงการสร้างตลาดกลางผลไม้ อีก 71 ล้าน ในยุทธศาตร์ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรและส่งเสริมการท่องเที่ยว และอนุมัติโครงการ แก้ปัญหาน้ำท่วมในคูคลองต่างๆ เป็นเงิน 32.9 ล้านบาท ส่วนการสร้างฝายคลองตอน 2 แห่ง ที่บ้านวังโป่งและบ้านประชานิมิตร ซึ่งเดิมที่ได้ขอไป 155 ล้านบาท ได้ตัดงบลงเหลือ 65 ล้านบาท

ที่จังหวัดแพร่ เห็นชอบในหลักการเปิดเส้นทาง กรุงเทพ -แพร่ เป็นเมืองหลักในภูมิภาค อนุมัติโครงการ อ่างเก็บน้ำแม่สาย วงเงิน 270 ล้าน โครงการถนนคอนกรีตเสริมไม้ไฝ่ สายบ้านนาหลวง บ้านห้วยโปร่ง ต.สะเอียม จำนวน 22 ล้าน

ที่จังหวัดน่าน ท่านเห็นชอบในหลักการ โครงการพื้นฟูป่าไม้จังหวัดน่าน รวมทั้งเห็นด้วยกับโครงการสร้างอาคารหอผู้ป่วยหลังใหม่ งบประมาณ 271 ล้านบาท

ที่จังหวัดพะเยา ผ่านความเห็นชอบโครงการ เขื่อนป้องกันน้ำท่วมวัดศรีโคมคำ 19.8 ล้านบาท โครงการพุทธอุทยานจังหวัดพะเยา 12 ล้านบาท โครงการบูรณะหลังคาพระวิหารวัดศรีโคมคำ 22 ล้านบาท โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อชุมชนในการสร้างอ่างเก็บน้ำ 112 ล้านบาท การขุดลอกคูคลอง 40 ล้านบาท พร้อมทั้งทุ่มงบประมาณการก่อสร้างฝายกั้นน้ำงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท

ที่ อ.พาน จ.เชียงราย อนุมัติข้อเสนอขุดลอกคูคลอง 60 ล้านบาทสร้างฝายกั้นน้ำในอ.พาน 26 ล้านบาท โครงการสร้างหอประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านในจังหวัดเชียงราย 7 ล้านบาท

ที่จังหวัดเชียงใหม่ ให้โครงการที่ไม่คาดฝันคืออ่างเก็บน้ำ 2 แห่งโครงการอ่างเก็บน้ำแม่หอย อ.จอมทอง 180 ล้านบาท และอ่างแม่สะลวง อ.พร้าว 200 ล้านบาท ที่นายกฯเรียนถามหาจากชลประทานและสั่งให้ไปทำโดยไม่ทันตั้งตัว ส่วนโครงการที่จังหวัดเสนอและได้รับอนุมัติคือ โครงการเร่งรัดแก้ไขปัญหาความยากจน 20,000 ครัวเรือน งบ 40 ล้านบาท โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตภายในหมู่บ้านระยะทาง55 ก.ม 82.5 ล้านบาท โครงการจัดตั้งหน่วยตรวจสอบรับรองผลิตภัณฑ์ 64 ล้านบาท โครงการพัฒนาพื้นที่โล่ง บริเวณศูนย์ราชการและสระน้ำแม่หยวก 160 ล้านบาท โครงการเชียงใหม่กรีนแอนด์คลีน 75 ล้านบาทโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมด้านตะวันตกและด้านทิศใต้ของตัวเมือง 261 ล้านบาทซึ่งโครงการนี้ทบทวนปรับงบลงมาและให้ทหารช่างมาเป็นผู้ดำเนินการ

ที่จังหวัดลำพูนได้มีการอนุมัติเงินในโครงการต่างๆเป็นเงิน 1,364 ล้านบาท มีโครงการ ปรับปรุงคุณภาพน้ำที่มีสารฟลูออไรด์เพื่อใช้เป็นน้ำดื่ม งบ 15 ล้านบาท โครงการ 1 อำเภอ 1 ฟาร์ม 21.06 ล้านบาท โครงการแก้ปัญหาแหล่งน้ำโดยการผันน้ำจากแม่น้ำปิงเข้ามาในนิคมอุตสาหกรรม 18 ล้านบาท โครงการเพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำแม่ธิและแม่คืน 20 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมอบหมายให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาและกรมชลประธานร่วมกันพัฒนาลุ่มน้ำแม่ลี้ ทำฝายและแก้มลิง ด้วยงบฯ 75 ล้านบาท โครงการพัฒนาเหมืองบ้านปู เพื่อใช้กักเก็บน้ำ 95 ล้านบาท โครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่ทา 86.06 โครงการสร้างประปาใน อบต.บ้านกลาง 35 ล้านบาท และเห็นชอบให้คณะกรรมการนิคมอุตสาหกรรมขยายพื้นที่เพิ่มอีก 2,000 ไร่โดยให้สำนักงบประมาณไปดูงบประมาณในการสนับสนุนการก่อสร้าง วงเงิน 1,000 ล้านบาท เบ็ดเสร็จราว 5,000 ล้านบาท

ในยุคนั้นรัฐบาลได้กันงบประมาณไว้ 59,000 ล้านบาทเพื่อเป็นงบเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาและอนุมัติใช้จ่ายเร่งด่วนตามอำนาจของนายกรัฐมนตรี การทัวร์นกขมิ้นที่เกิดขึ้นครั้งนั้นวิพากษ์กันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทัวควันคือคะแนนเสียงที่จะได้รับความนิยม เพราะเรียกว่าเป็นการให้ที่ตรงกับความต้องการของแต่ละจังหวัดจริงๆ รวมทั้งตัวของประชาชนที่ออกมาร้องขอโดยตรงด้วย ซึ่งอาจมองเหมือนไม่เป็นธรรมสำหรับคู่แข่ง และเป็นการกระทำที่ใกล้เลือกตั้ง

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงบประมาณรายหนึ่งได้มาติดตามความคืบหน้าการพัฒนาเชียงใหม่กล่าวไว้ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ว่า โครงการจากทัวร์งบขมิ้นค้างเติ่งไม่มีการอนุมัติงบประมาณเพราะข้ามขั้นตอนหลายกรณี สอดคล้องกับการสรุปการติดตามผลงานทัวร์นกขมิ้นเมื่อสิงหาคม 2548 พบว่าสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการทัวร์นกขมิ้น ว่ามีโครงการที่นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมฯ 180 โครงการ คณะรัฐมนตรีจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ (59,๐๐๐ ล้านบาท) งบปกติ และงบประมาณจากแหล่งอื่น รวมทั้งสิ้น 8,913,756,800 บาท สำนักงบประมาณอนุมัติงบประมาณ รวมทั้งสิ้น 7,369,716,800 บาท และผลการเบิกจ่ายรวมทั้งสิ้น 4,109,453,413.45 บาท คิดเป็นร้อยละ 55.76 และข้อจำกัดที่ทำให้โครงการไม่สามารถดำเนินงานได้ตามวัตถุประสงค์ ได้แก่ โครงการอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูล โครงการยังไม่ได้รับงบประมาณ โครงการอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โครงการอยู่ระหว่างกระทรวงเห็นชอบ โครงการอยู่ระหว่างรื้อย้ายเสาไฟฟ้า ท่อประปา ท่อก๊าซ โครงการอยู่ระหว่างลงนามในสัญญา โครงการอยู่ระหว่างทำ e-Auction แต่ยังมีบางโครงการอนุมัติวงเงินให้ก่อสร้าง ยกเลิกโครงการและชะลอโครงการเนื่องจากราษฎรคัดค้าน เป็นต้น