องค์การสหประชาชาติ หวั่นสถานการณ์การขาดแคลนอาหารในค่ายผู้อพยพชาวติมอร์ตะวันออก จำนวน 61 แห่ง รวมผู้อพยพมากกว่า 1 แสน 40,000 คน จากเหตุความวุ่นวายทางการเมืองในติมอร์ตะวันออกที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือนเมษายน

นายตาเร็ค เอลกวินดี ผู้อำนวยการโครงการอาหารแห่งสหประชาชาติ หรือ WFP ประจำติมอร์ตะวันออก ระบุว่า ภาวะการขาดแคลนอาหารมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น จากความล่าช้าในการส่งมอบเงินบริจาคจำนวน 5 ล้าน 2 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 200 ล้านบาท ที่หลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ให้สัญญาไว้  

WFP จึงเรียกร้องให้ประเทศเหล่านี้เร่งส่งเงินบริจาคให้ครบ พร้อมกับร้องขอเงินบริจาคจากนานาประเทศเพิ่มเติม เพราะเชื่อว่าเงินจำนวนดังกล่าวไม่เพียงพอในการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนอาหาร รวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ในค่ายอพยพ

ทั้งนี้ ราคาอาหารและของใช้จำเป็นต่างๆ ในกรุงดิลี พุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 60 ขณะที่ตลาดและร้านค้าหลายแห่งไม่เปิดจำหน่ายสินค้า ทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ WFP เชื่อว่าผู้อพยพจะยังไม่กลับเข้าบ้านเรือนของตัวเองในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แม้กองกำลังรักษาสันติภาพจะได้เข้าประจำการเพื่อรักษาความปลอดภัยแล้วก็ตาม