30 มิ.ย. 2549 สำนักข่าว Irrawaddy รายงานเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2549 ว่า รัฐบาลไทยและพม่ายังไม่สามารถที่จะหาข้อสรุปเกี่ยวกับแผนการจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบสัญชาติแรงงานจากประเทศพม่าได้ เนื่องจากยังมีปัญหาในเรื่องการจัดหาสถานที่ ขณะที่พม่าเสนอให้อยู่ในประเทศของตน

เมื่อวันอังคาร (26 มิ.ย.) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงานของไทยคนหนึ่งกล่าวว่า รัฐบาลทหารพม่าได้มีความเห็นชอบในการจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบสัญชาติให้กับแรงงานพม่าของไทย แต่ต้องการให้ศูนย์ตรวจสอบอยู่ในฝั่งตน ซึ่งได้แก่ ที่เมืองผาอ่าง ในรัฐกะเหรี่ยง และเมืองเมาะละแหม่งในรัฐมอญ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า หากเจ้าหน้าไทยและแรงงานพม่าที่อยู่ในไทยต้องเดินทางไปดำเนินการตรวจสอบในเมืองตามที่รัฐบาลพม่าระบุนั้น จะทำให้การดำเนินการล่าช้า เนื่องจากต้องเดินทางไกลและอาจต้องใช้เวลาถึงสามอาทิตย์จึงจะแล้วเสร็จ

 ด้านนางสาวปรานม สมวงศ์ เจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือแรงงานอพยพ MAP แสดงความเห็นว่า ศูนย์ตรวจสอบควรอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากแรงงานอยู่ในฝั่งไทยและจะง่ายต่อการเดินทางไปรับการตรวจสัญชาติของแรงงาน พร้อมกล่าวด้วยว่า รัฐบาลพม่ามองแรงงานของตนที่รับจ้างทำงานอยู่ในต่างประเทศเป็นอาชญากร เนื่องจากข้ามประเทศโดยไม่ถูกตามกฎหมาย ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องยากที่แรงงานจะกลับเข้าไปรับการตรวจสอบสัญชาติในประเทศพม่า

แผนการตรวจสอบสัญชาติแรงงานอพยพจากประเทศเพื่อนบ้านของไทยมีวัตถุประสงค์ เพื่อป้องกันการหลั่งไหลเข้ามาของแรงงานผิดกฎหมาย และเพื่อให้แรงงานที่ได้รับการระบุสัญชาติได้ทำงานอย่างถูกต้องและได้รับสิทธิสังคมสงเคราะห์ดังเช่นแรงงานไทย

ในส่วนของรัฐบาลลาวและกัมพูชาได้จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบสัญชาติให้กับแรงงานของตนซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทยแล้ว และจนถึงขณะนี้ทั้งสองประเทศได้ทำการตรวจสอบสัญชาติให้กับแรงงานของตนพร้อมนำไปขึ้นทะเบียนแรงงานกับกระทรวงแรงงานแล้วกว่า 70,000 คน ซึ่งกลุ่มแรงงานเหล่านี้จะได้รับสิทธิสังคมสงเคราะห์เท่าเทียมกับแรงงานไทย ซึ่งรวมถึงบุตรหลานของพวกเขาด้วย