เอเอฟพี/รอยเตอร์ - การเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้รอบที่สองเริ่มขึ้นแล้วที่กรุงโซล เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีกำหนดการเจรจาในประเด็นต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงอุตสาหกรรมสิ่งทอ เกษตรกรรม และยานยนต์ โดยมีนาย
ขณะที่ภายนอกโรงแรมที่เป็นสถานที่เจรจา เต็มไปด้วยผู้ชุมนุมเพื่อคัดค้านการทำข้อตกลงนี้โดยผู้ชุมนุมต่างก็เชื่อว่าการเจรจาเปิดการค้าเสรีครั้งนี้จะผลกระเทือนต่ออาชีพของชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจปราบจลาจลและนักเคลื่อนไหวซึ่งมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดประชุม แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงแต่อย่างใด โดยสมาพันธ์สหภาพแรงงานเกาหลี สหภาพแรงงานซึ่งมีสมาชิกราว 800,000 คน เรียกร้องให้สมาชิกร่วมใจกันหยุดงานเพื่อประท้วงการเจรจาครั้งนี้ด้วย
การเจรจาเอฟทีเอครั้งนี้ สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ตั้งเป้าบรรลุข้อตกลงไว้ในเดือนมีนาคม 2550 ทว่าข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้เกาหลีเปิดเสรีภาคการเกษตรมากขึ้น น่าจะเป็นประเด็นใหญ่ที่ทำให้ข้อตกลงนี้เป็นไปได้ยาก
คิม หัวหน้าคณะของเกาหลีใต้ เปิดเผยก่อนการเจรจาจะเริ่มขึ้นว่า
"จุดยืนพื้นฐานของรัฐบาลเกาหลีใต้คือ หากข้อเสนอของสหรัฐฯไม่สามารถเป็นที่ยอมรับได้ ก็จะไม่มีการทำข้อตกลงอะไรทั้งสิ้น"
"และถ้าหากประชาชนเกาหลีใต้ไม่ยอมรับข้อตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐฯ รัฐสภาเกาหลีก็จะไม่อนุมัติข้อตกลงนี้เช่นกัน"
ด้าน คัทเลอร์ หัวหน้าคณะเจรจาองสหรัฐ กลับเชื่อว่า การเจรจาที่เกิดขึ้นไม่น่าที่จะประสบความล้มเหลว โดยหวังว่า เกาหลีใต้จะเปิดเสรีตลาดให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งรวมถึงตลาดข้าวที่เป็นสินค้าที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง อีกทั้งยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อเสนอของคู่เจรจาซึ่งต้องการให้สินค้าของบริษัทเกาหลีใต้ที่ผลิตในเขตอุตสาหกรรมเกาหลีเหนือ รวมอยู่ในข้อตกลงการค้าเสรีครั้งนี้ด้วย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)