Skip to main content
sharethis

29 มิ.ย. 2549 ห้องพิจารณาคดี 701 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลสืบพยานโจทก์ปากแรกในคดีฆ่า นายเจริญ วัดอักษร แกนนำคนสำคัญคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบ่อนอก และประธานกลุ่มอนุรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเสน่ห์ เหล็กล้วน และ นายประจวบ หินแก้ว สองมือปืน เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน นายธนู หินแก้ว ทนายความ, นายมาโนช หินแก้ว สจ.ประจวบคีรีขันธ์ และ นายเจือ หินแก้ว อดีตกำนัน ต.บ่อนอก เป็นจำเลยที่ 3 - 5 ในความผิดฐานร่วมกันใช้จ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน


 


นางกรณ์อุมา พงษ์น้อย ภรรยาของนายเจริญ เข้าเบิกความว่า พยานรู้จักกับจำเลยที่ 1 และ 2 โดยสนิทสนมกันมาก แต่หลังจากมีเรื่องการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบ่อนอก ทำให้เกิดความบาดหมางกัน ซึ่งก่อนหน้านี้จำเลยที่ 3 เป็นแกนนำของกลุ่มชาวบ้านไปร่วมกันต่อต้านโรงไฟฟ้า ต่อมาเกิดความเคลือบแคลงว่าจำเลยที่ 3 เข้าไปพัวพันเกี่ยวกับผลประโยชน์ของโรงไฟฟ้าหรือไม่ ผู้ตายจึงได้เข้ามาเป็นแกนนำแทน


 


ในส่วนของจำเลยที่ 5 ซึ่งมีอำนาจให้เช่าที่สาธารณะ ซึ่งบริษัทก๊าซพาวเวอร์ต้องการสร้างโรงไฟฟ้า จำนวน 931 ไร่ ด้านหน้าโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า แต่ชาวบ้านได้ร่วมกันคัดค้านโดยมีผู้ตายเป็นแกนนำ ทำหนังสือร้องเรียนต่อกรรมาธิการของรัฐสภา ภายหลังผู้ตายต้องไปให้ข้อมูลในวันที่ 21 มิ.ย.กระทั่งเดินกลับแล้วถูกยิงเสียชีวิตขณะลงจากรถทัวร์ พยานยังระบุด้วย การก่อสร้างโรงงานไฟฟ้า หากทำสำเร็จจะส่งผลต่อชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ โดยผู้ได้รับประโยชน์คือบริษัทก๊าซพาวเวอร์ กับนายหน้าค้าที่ดิน ซึ่งจำเลยที่ 5 จะได้รับผลประโยชน์จากกองทุนของบริษัทปีละ 4 ล้านบาททุกปี


 


ทั้งนี้ บริษัทก๊าซเพาเวอร์ซึ่งเป็นผู้เช่าพื้นที่ การก่อสร้าง เป็นสนับสนุนเงินดังกล่าว ซึ่งจำเลยที่ 5 เป็นประธานมีสิทธิ์ลงนามใช้จ่ายเงิน แต่แท้ที่จริงกลับนำเงินนั้นมาพัฒนาพื้นที่ทำถนนเพียงส่วนน้อย ส่วนเงินที่เหลือไม่ทราบว่านำไปใช้ประโยชน์อย่างไร ทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่พอใจ สุดท้ายจึงไม่สนับสนุน ส่งผลให้ปั้มน้ำมันที่จำเลยที่ 5 เป็นเจ้าของต้องปิดกิจการลง เพราะไม่มีใครมาใช้บริการ


 


พยานโจทก์เบิกความต่อไปอีกว่า ภายหลังจากเกิดเหตุ ชาวบ้านต่อต้านกลุ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าอย่างรุนแรง จนถูกดำเนินคดีฟ้องร้อง ต่อมาปรากฏว่า รัฐบาลได้มีมติให้ย้ายโครงการออกจากพื้นที่ แต่หากจะทำการก่อสร้างต่อไปให้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านเพื่อให้โรงไฟฟ้าเข้ากับชุมชนได้ จำเลยที่ 5 จึงเสนอเงื่อนไขว่า จะถอนฟ้องคดีทำร้ายร่างกาย แต่ต้องให้แกนนำชาวบ้านเซ็นหนังสือทำนองว่าโรงไฟฟ้าเข้ากับชุมชนได้ ซึ่งพวกพยานและชาวบ้านปฏิเสธ


 


พยานเบิกความเรื่องอื่นๆ แล้ว ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดต่อไปในวันที่ 30 มิ.ย. 49 เวลา 9.30 น.


 


.....................................


ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net