บรรยากาศการสัมมนาของเครือข่ายพันธมิตรฯ ภาพจากผู้จัดการออนไลน์

24 มิถุนายน 2549 สมัชชาเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต วางกรอบการเคลื่อนไหว 7 ประการ ภายใต้เป้าหมาย "ล้มระบอบทักษิณก่อน แล้วปฏิรูปการเมือง" โดยได้ออกประกาศสมัชชาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ครั้งที่ 1 แถลงโดยสุริยใส กตะศิลา มีใจความว่า

นับแต่พันธมิตรฯ ได้ประกาศยุติการชุมนุมชั่วคราว เพื่อให้วิกฤติระบอบทักษิณถูกคลี่คลายโดยอำนาจฝ่ายตุลาการจนถึงบัดนี้เป็นเวลา 54 วัน แต่วิกฤติทางการเมืองก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย พันธมิตรฯ จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ ได้หารือและมีข้อสรุปว่า

1.ท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และบริวาร ยังไม่สำนึกต่อความผิด ที่ตัวเองได้ก่อไว้ กลับยังดึงดันอยู่ในตำแหน่งต่อไป อีกทั้งยังแผ่อำนาจไปยังองค์กรอิสระต่างๆ ไม่ยอมรับแนวทางคลี่คลายวิกฤติการของศาล แทรกแซงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคน เพื่อตัดตอนไม่ให้เกิดการวินิจฉัย คำร้องที่ ส.ว.ยื่นต่อศาล ท่าทีดื้อด้านของ กกต. และ พรรคไทยรักไทย ถือเป็นอาการติดต่อของโรคบกพร่องทางจริยธรรม จึงเป็นภารกิจเร่งด่วน ที่พันธมิตรประชาชนฯ จะต้องร่วมกันรื้อถอนระบอบทักษิณ และขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากตำแหน่ง ซึ่งหากพ.ต.ท.ทักษิณยังอยู่ การปฏิรูปการเมืองจะเกิดขึ้นไม่ได้

2.พันธมิตรประชาชนฯ ได้ประเมินวิกฤติการณ์ในอนาคตว่า จะมีปมเงื่อนสำคัญอยู่ที่การพิจารณายุบพรรคไทยรักไทย เนื่องจากมีข้อมูลหลักฐานปรากฎว่า พรรคไทยรักไทย จ้างพรรคเล็กให้ลงรับเลือกตั้ง และศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำสั่งยุบพรรคเล็กซึ่งเป็นฝ่ายรับจ้างแล้ว แต่การดำเนินการกับฝ่ายผู้จ้าง คือพรรคไทยรักไทย กกต.กลับไม่ดำเนินการโดยเร็ว และแตะถ่วงให้เรื่องยืดเยื้อเสมือนต้องการช่วยพรรคไทยรักไทย

ดังนั้น พันธมิตรฯ จึงจำเป็นต้องติดตามกรณีนี้  และหากมีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าโดยการบิดเบือนข้อมูล เพื่อปลุกระดมสมาชิกพรรคไทยรักไทย ให้ต่อต้านการทำหน้าที่ของ 3 ศาล หรือวิธีการใด ๆ พันธมิตรฯพร้อมจะชุมนุมใหญ่ได้ตลอดเวลา

3. สมัชชาพันธมิตรฯ ตระหนักว่า การต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากตำแหน่ง แล้วให้นักการเมืองคนใหม่เข้ามาสูบเลือดประชาชน เราจะผนึกกำลัง เพื่อผลักดันการปฏิรูปการเมือง ที่มีเป้าหมายในการลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน และให้ประชาธิปไตยมีความเข้มแข็ง ดังนั้นพันธมิตรฯจะผนึกกำลังเพื่อขับไล่ระบอบทักษิณ และปฏิรูปการเมืองอย่างเข้มแข็ง โดยจะยึดมั่นพันธกิจกู้ชาติและแนวทางสันติวิธี ตามข้อเสนอของที่ประชุมใหญ่ ดังนี้

1.เตรียมพร้อมชุมนุมใหญ่ตลอดเวลา หากพบว่ามีกระบวนการดื้อดึงและต่อต้านอำนาจศาล ทั้งนี้มีข้อเสนอจากที่ประชุมสมัชชาให้แกนนำประเมินความเป็นไปได้ในการชุมนุมใหญ่ ราวต้นเดือนกรกฎาคม 

2. ตีแผ่เปิดโปง ความฉ้อฉลและกลลวงของนโยบายประชานิยมที่มุ่งหวังคะแนนเสียงมากกว่า การแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน รวมทั้งรณรงค์พัฒนาประเทศ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

3.เดินหน้าจัดเวทีพันธมิตรฯสัญจร ทั้งในระดับภาคและระดับจังหวัด

4. ตั้งศูนย์ข้อมูลระดับท้องถิ่น เพื่อชี้ให้เห็นถึงภัยคุกคามจากระบอบทักษิณ

5.จัดตั้งกรรมการพันธมิตรฯ ในระดับภาคและจังหวัด รวมทั้งคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ต่าง ๆ เช่นการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปสื่อ หรือการต่อต้านการขายรัฐวิสาหกิจ

6.ยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวระดับจังหวัด หรือระดับเครือข่าย โดยไม่จำเป็นต้องผูกติดกับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรเสมอไป และ

7.จัดตั้งคณะประสานงานระดับภาค ภาคละ 3 - 5 คน จำนวน 6 ภาค เพื่อร่วมประชุมกับแกนนำพันธมิตรของส่วนกลาง