ประชาไท21 มิ.ย. 2549 นาย
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ในการอภิปรายของคณะตุลาการ ที่ประชุมได้พิจารณาใน 2 ประเด็นคือ 1.ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย ตามมาตรา 266 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ และเป็นกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ เกิดขึ้นตามมาตรา 266 หรือไม่
2.ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจที่จะรับคำร้องนี้ไว้วินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 142 ที่ระบุให้ส.ส. ส.ว. หรือทั้ง 2 สภารวมกัน มีจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ มีสิทธิยื่นคำร้องต่อประธานรัฐสภา ว่ากกต.ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 137 หรือกระทำการอันต้อห้าม ตามมาตรา 139 แล้วให้ประธานรัฐสภาส่งคำร้องนั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้วินิจฉัยหรือไม่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวมีรายละเอียดพอสมควร รวมถึงต้องพิจารณาว่า ส.ว.รักษาการมีสิทธิยื่นคำร้องหรือไม่
โดยที่ประชุมได้ข้อยุติในทั้ง 2 ประเด็นนี้แล้ว แต่เนื่องจากตุลาการแต่ละคน เห็นว่าคำร้องดังกล่าวมีความสำคัญ และจะต้องทำคำวินิจฉัยส่วนตนให้แล้วเสร็จ จึงนัดให้ลงมติในครั้งต่อไป
ด้านนายผัน จันทรปาน ตุลาการผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ประเด็นคำร้องที่ยื่นมาเข้าตามช่องทางมาตรา 266 ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ เท่าที่รับฟังการอภิปรายแล้ว มีแนวโน้มว่าคำร้องดังกล่าว ไม่น่าจะเข้าตามช่อง 266 ส่วนในมาตรา 142 คงจะต้องรอดูในวันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายนนี้อีกครั้ง ว่าที่ประชุมจะมีผลการลงมติว่าเห็นเป็นอย่างไร
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)