Skip to main content
sharethis

ประชาไท—9 มิ.ย. 2549 "สมช." เต้นข่าวพบศพนิรนามชายแดนใต้ หวั่นพูโลนำไปขยายผล สั่ง "หมอพรทิพย์" เปิดกรมประชาสัมพันธ์ นัดแถลงข่าวด่วน "กรรมการสิทธิฯ" รุกต่อ ขอ "จุฬาราชมนตรี" ขุดศพไร้ญาติในกุโบร์ ขึ้นมาตรวจพิสูจน์ด้วย นราฯ ป่วนไม่เลิก ลอบวางระเบิดตำรวจชุดคุ้มกันครู ตาย 4 เจ็บอีก 3


 


"สมช."สั่ง"หมอพรทิพย์"แจงข้อมูลศพนิรนาม


วันที่ 8 มิถุนายน 2549 ที่กรมประชาสัมพันธ์ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แถลงว่า กรมประชาสัมพันธ์ และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ขอให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีพบหลุมศพนิรนามที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีที่ฝังศพนิรนาม 2 ส่วน คือ กุโบร์และสุสาน สำหรับข้อมูลช่วงปลายปี 2547 ในจังหวัดยะลา ยังไม่พบศพนิรนาม จังหวัดนราธิวาส มีประมาณ 20 - 30 ศพ ส่วนจังหวัดปัตตานีมีประมาณ 300 ศพ ในจำนวนนี้ประมาณ 200 ศพ ถูกฆาตกรรมแล้วนำศพไปทิ้งน้ำ


 


 พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ แถลงต่อไปว่า หลังจากทราบจำนวนเบื้องต้น จึงทำโครงการเสนอพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เมื่อปี 2548 และได้รับอนุมัติโครงการตามหาคนหายจากร่างนิรนามใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้มีการตั้งอนุกรรมการตามหานายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความนักสิทธิมนุษยชน ซึ่งตนเป็นหนึ่งในอนุกรรมการฯ ชุดนี้ เมื่อกรรมการสิทธิมนุษยชนทราบเรื่องหลุมศพนิรนาม จึงขอเข้าไปดูข้อมูล นี่คือ ที่มาว่าทำไมกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้ามาร่วมงานด้วย


 


"ส่วนข้อมูลที่นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รักษาการสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครราชสีมา นำไปพูด เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพราะทราบจากที่นายวสันต์ พานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นำไปพูดในที่สัมมนากฎหมายอาญาระหว่างประเทศ แต่คงฟังคลาดเคลื่อนแล้วนำไปอภิปรายในอีกเวทีหนึ่ง ข้อมูลจึงออกมาในลักษณะของการฆ่าหมู่ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่" พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว


 


 พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ เปิดเผยว่า ในส่วนการดำเนินการจะเลือกศพที่ถูกฆาตกรรม มาตรวจพิสูจน์บุคคล ขณะนี้เตรียมสถานที่ทำงานไว้ที่สุสานในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ส่วนศพที่เป็นโครงกระดูก ถ้าทำความสะอาดแล้ว คงนำขึ้นมาพิสูจน์ที่กรุงเทพมหานครได้เลย โครงการนี้ของบประมาณไปแล้ว แต่ยังไม่อนุมัติ ขณะนี้ได้ขอความช่วยเหลือทางวิชาการจากต่างประเทศ เพราะการพิสูจน์ว่าเป็นคนประเทศไหนจากโครงกระดูก จะต้องใช้ดีเอ็นเอ ซึ่งเทคโนโลยีนี้เป็นของต่างชาติ


 


 พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ เปิดเผยอีกว่า ในเมืองไทยมีผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูก หรือนักนิติมานุษวิทยา เพียงคนเดียว ขณะนี้ติดงานวิจัย จึงจำเป็นต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเข้ามา เนื่องจากศพทั้งหมด มีสภาพเป็นโครงกระดูก ในส่วนของผู้เชี่ยวชาญไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ จะมาช่วยทำให้ฟรี โดยจะเข้ามาประมาณเดือนสิงหาคม 2549


 


 พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ เปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของกุโบร์ เดิมทีเดียวทางผู้นำศาสนาไม่ให้ขุด แต่กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติประสานกับจุฬาราชมนตรีแล้ว สามารถขุดศพขึ้นมาดำเนินการภายใต้กระบวนการยุติธรรมได้ ศพในกุโบร์คงต้องขุดขึ้นมาแน่ๆ เพื่อจะได้ตอบปัญหาผู้ร้องเรียนว่า มีคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้หายไป 30 คน ตนอยากให้เรื่องนี้จบ ไม่เช่นนั้นจะมีข่าวลืออีกว่า มีคนหายเป็นพันศพ ศพที่ขุดขึ้นมาแต่ละหลุมจะมีเบอร์หลุมชัดเจน ส่วนศพที่ฝังรวมเป็นหลุมเดียวกัน จะยังไม่ขุด ส่วนจะตรวจพิสูจน์หรือไม่ยังไม่ทราบ ตอนนี้อยากจัดการศพที่ฝังแยกแต่ละหลุมก่อน เพราะมีข้อมูลชัดเจนแล้ว


"ขอย้ำว่า เป็นศพนิรนามเหมือนกับที่มีอยู่ทั่วประเทศ กระทรวงยุติธรรมเพียงต้องการวางระบบให้การจัดการดีขึ้น ที่เน้นตรวจพิสูจน์ในภาคใต้ก่อน เพราะอยากให้เกิดความสงบสุขโดยเร็ว ดิฉันยืนยันว่า ศพนิรนามที่พบไม่ได้เป็นการฝังศพหมู่ ที่เกิดจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่เป็นการเก็บรักษาศพนิรนาม" พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว


 


 พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ เปิดเผยว่า เป็นการทำงานจากข้อจำกัด เริ่มต้นจากบันทึกของสุสานว่า เป็นศพนิรนามแต่ละศพบอกชัดเจนว่า ลอยตามน้ำ ถูกแทง หลังจากทราบตัวเลขแล้ว ก็มาทำสถิติว่า ใน 300 ศพ มีการฆาตกรรม 200 กว่าศพ ที่เหลือป่วยตาย หากจะมาถามว่าศพนิรนามดังกล่าว เกิดจากเหตุการณ์ความไม่สงบหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ ตามรูปคดีส่วนใหญ่ตายจากถูกทำร้ายด้วยอาวุธของมีคม ซึ่งคดีในภาคใต้ส่วนใหญ่ ผู้ตายจะถูกตัดคอหรือถูกยิง แต่ศพที่พบตายเพราะถูกแทง และยังไม่พบศพที่ถูกยิง


 


"ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติขอให้ดิฉันมาให้ออกมาชี้แจง เพราะไม่อยากให้ขบวนการพูโลนำข้อมูลนี้ไปโจมตีรัฐบาล อันที่จริงวันนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จเรตำรวจแห่งชาติ จะมาร่วมแถลงด้วย แต่ไม่ทราบว่าไม่มาเพราะเหตุอะไร" พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว


 


ยุชาวบ้านดันรัฐใช้แนวทาง "กอส."


ผศ.ดร.วรวิทย์ บารู ผู้อำนวยการสถาบันสมุทรรัฐเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐจะยึดตามแนวทางของคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) หรือไม่ว่า เป็นเรื่องของภาครัฐ คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องคงทำอะไรไม่ได้ ตนในฐานะนักวิชาการในพื้นที่ คงทำในบทบาทการให้ความเห็นผ่านสื่อ หรือในเวทีให้คำปรึกษาต่างๆ เพื่อกระตุ้นรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน่วยสันติเสนา การใช้ภาษามลายู การใช้ศาลซารีฮะ ถ้ารัฐบาลไม่รับไปทำ ภาคประชาชน หรือเอ็นจีโอ ก็ต้องกดดันให้ทำ เพื่อสร้างสันติสุขให้ได้ ตนเป็นห่วงว่า ถ้าฝ่ายที่ที่เห็นด้วย แปลความหมายเป็นอย่างอื่น จะเกิดการปะทะกัน กลายเป็นอีกปัญหาหนึ่งในอนาคต


 


นายอัฮหมัดสมบูรณ์ บัวหลวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปูยุด อำเภอเมืองปัตตานี กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยถึงรายละเอียดการผลักดันให้ใช้แนวทางสันติวิธีแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะต่างคนต่างทำงานในบทบาทของตนเอง เช่น บทบาทของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ก็นำเอาสันติวิธีไปแทรกในกระบวนการศึกษา ไปพูดคุยกับประชาชนในเวทีต่างๆ ในระดับพื้นที่ คงจะต้องมานั่งคุยกันว่าจะทำอย่างไร


 


นายอัฮหมัดสมบูรณ์ กล่าวต่อไปว่า ในคณะทำงานของคณะกรรมการิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ มีนายทหารอยู่หลายคน ทั้งระดับแม่ทัพ ปลัดกระทรวง จนถึงระดับผู้บัญชาการ ทุกคนเห็นด้วยกับแนวทางของคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ ถึงแม้ผู้บัญชาการทหารบกเห็นด้วย แต่ถ้ายังไม่เป็นนโยบายรัฐบาล บางทีกลไกของรัฐก็ไม่สามารถนำไปไปปฏิบัติได้


 


"ในสถานการณ์แบบนี้ อย่าให้ชาวบ้านต้องออกมาแสดงมากนัก สำคัญที่สุดกลไกที่เข้าทำงานในพื้นที่ต้องสร้างความมั่นใจกับประชาชนว่า เรากำลังจะเดินหน้าแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี" นายอัฮหมัดสมบูรณ์ กล่าว


 


บึ้มชุดรปภ.ครูตาย5เจ็บ2


เมื่อเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน ขณะที่ตำรวจ 7 นาย เดินทางไปรักษาความปลอดภัยให้กับครูโรงเรียนบ้านรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส มาตามถนนสายบาเละ - รือเสาะ ถึงบริเวณบ้านเจาะบือซา หมู่ 10 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่ง 2 ข้างทางเป็นสวนยางรกทึบ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน แอบวางระเบิดแล้วดักซุ่มรอ เมื่อตำรวจทั้ง 7 นาย มาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้กดชนวนระเบิด มีตำรวจเสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บ 3 นาย


 


ตำรวจที่เสียชีวิต ประกอบด้วย ด.ต.อาทิตย์ จันทร์พล จ.ส.ต.ธนิตย์ ศรีนคร จ.ส.ต.สุเทพ ทับทิม ส.ต.อ.หลีหมัด หมัดอะด้ำ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลรือเสาะอีก 1 นาย คือ ส.ต.ต.นิรันด์ หานนท์ ส่วนทหารที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย คือ ส.ต.ต.วรรณะ มณเฑียรทอง ส.ต.ต.พรรษา เทียมเท่าเกิด ด.ต.ทิพรส แซ่อึ้ง ทั้งหมดถูกนำส่งไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา


 


จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะอีซูซุ สีแดงเลือดหมู ตราโล่ ถูกแรงระเบิดเข้ากลางตัวรถ ตัวถังทะลุอยู่ในสภาพพังยับเยิน แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมกว้างประมาณ 3 เมตร ลึก 1 เมตร และในรัศมี 50 เมตร พบชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิดเหล็กหุนตัดยาว 1 นิ้ว ตกอยู่จำนวนมาก รวมทั้งเศษถังเคมีดับเพลิงกระจายเกลื่อน และพบสายไฟยาวประมาณ 150 เมตร ลากเข้าไปในสวนยาง ทั้งหมดเป็นชิ้นส่วนวัตถุระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังดับเพลิงน้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยสายไฟต่อเข้ากับแบตเตอรี่ 12 โวลต์


 


"แม่ทัพภาค 4" ยันพรก.ฉุกเฉินยังจำเป็น


พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ฝ่ายตรงข้ามพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว โดยอาศัยลักษณะภูมิประเทศที่คนร้ายได้เปรียบลงมือปฏิบัติการ หลังจากนี้ จะต้องหามาตรการมาแก้กันต่อไป สถานการณ์ขณะนี้ยังจำเป็นต้องใช้พระราชกำหนดการปฏิบัติราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป แม้ว่าหลายฝ่ายจะไม่เห็นด้วย โดยพยายามให้ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองใช้พระราชกำหนดฯ อย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนส่วนใหญ่


 


แม่ทัพภาค ที่ 4 กล่าวถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยครูว่า ในภาพรวมครูพอใจกับมาตรการที่ร่วมกันกำหนด แต่จะมีการปรับแผนให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ โดยให้แต่ละหน่วยเฉพาะกิจตรวจสอบภูมิประเทศอย่างละเอียด เพื่อนำมาปรับแผนให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น และหากหน่วยใดต้องการสนับสนุนเรื่องใด ก็พร้อมที่จะดำเนินการให้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการปฏิบัติงาน


 


ลูกศิษย์เยี่ยม "ครูจูหลิง"


วันเดียวกัน พล.ท.องค์กร พร้อมด้วยพล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้นำนักเรียนบ้านกูจิงลือปะ ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส 40 คน และครูเข้าเยี่ยมครูจูหลิง ปงกันมูล ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โดยผลัดเปลี่ยนกันให้นักเรียนทั้งหมด เข้าเยี่ยมในห้องไอซียู มีนักเรียนหลายคนร่ำให้ เมื่อเห็นครูจูหลิงนอนไม่รู้สึกตัว


 


พล.ต.ท.อดุลย์ เปิดเผยความคืบหน้าคดีทำร้ายครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะว่า มีผู้ร่วมทำร้าย43 คน ออกหมายจับแล้ว 29 หมายจับ จับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 15 คน ในจำนวนนี้มีผู้ที่ทำร้ายครูรวมอยู่ด้วย โดยสอบสวนพยานแวดล้อมไปแล้ว 39 ปาก ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่เหลือต่อไป คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ คดีจะคืบหน้าชัดเจนมากขึ้น สำหรับเหตุการณ์ที่บ้านกูจิงลือปะ แสดงให้เห็นว่ามีการจัดตั้งเป็นระบบ ทั้งในส่วนผู้ปลุกระดม ผู้จับตัวครู ผู้ทำหน้าที่ขัดขวางเจ้าหน้าที่ และผู้บงการอยู่เบื้องหลัง


 


"ครูจูหลิง" อาการเหมือนเดิม


แถลงการณ์ของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ระบุอาการครูจูหลิงว่ายังคงไม่รู้สึกตัวเหมือนเดิม สมองยังไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้น สัญญาณชีพคงที่ ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์เกือบปกติ แต่ยังไม่สามารถหายใจได้ด้วยตนเอง จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจควบคุมการหายใจทั้งหมด สามารถรับอาหารทางสายยางได้ดี แพทย์ยังคงให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาการติดเชื้อจากการบาดเจ็บ และอาการปอดติดเชื้อ รวมทั้งให้ยาร่วมกับเครื่องป้องกันเลือดในหลอดเลือดดำส่วนขาแข็งตัว โดยแพทย์พยายามประคับประคองสัญญาณชีพของผู้ป่วยให้อยู่ในภาวะปกติ เพื่อรอดูการตอบสนองของสมองและแกนสมอง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net