ประชาไท - 8 มิ.ย. 49 พล.ต.อ. ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าววันที่ 7 มิ.ย. ว่า ยังไม่ได้อ่านรายงานของคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.)ที่เสนอมาตรการสมานฉันท์เพื่อแก้ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ เนื่องจากต้องทำงานทั้งวันยังไม่มีเวลา แต่ยืนยันว่าให้ความสำคัญกับมาตรการแก้ปัญหา โดยจะจัดคณะทำงานอิสระเพื่ออำนวยความยุติธรรมและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าไปดูรายละเอียดทั้งหมด
พล.ต.อ.ชิดชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่ปัญญาชนมุสลิมไม่เห็นด้วยกับการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีตั้งเงินรางวัลจูงใจให้กับบุคคลที่ยิงต่อสู้กับกลุ่มก่อความไม่สงบ คือหากคนร้ายบาดเจ็บจะได้รางวัล 50,000 บาท หากคนร้ายเสียชีวิตจะได้รางวัล 100,000 บาท ว่า จะต้องพิจารณาข้อดีข้อเสียและที่มาอย่างชัดเจนอีกครั้ง แต่ไม่ได้เปิดช่องให้มีการใช้ความรุนแรง หรือวิสามัญฆาตกรรม
กรณีดังกล่าวมาจากการที่กลุ่มปัญญาชนมุสลิมให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการอิสระเพื่ออำนวยความยุติธรรมและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอยส.) ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ ตั้งรางวัลให้กับบุคคลที่สามารถยิงต่อสู้คนร้าย ซึ่งทางกลุ่มปัญญาชนมุสลิมมองว่าเป็นนโยบายที่ไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม เมื่อ วันที่ 6 มิ.ย. นาย
ด้านนาย
นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นประมวลกฎหมายอาญา และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพราะไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไปหรือเจ้าหน้าที่รัฐก็มีสิทธิป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่ใช่ทำแล้วได้เงินรางวัล ยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หากกระทำวิสามัญฆาตกรรม จะต้องมีการชันสูตรศพและไต่สวนต่อศาลเป็นกรณีพิเศษด้วย ดังนั้นคงต้องตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป
สำหรับ พล.อ.อ.
ความเห็นต่อข้อเสนอของกอส.จากคนในพื้นที่สามจังหวัด ศูนย์ข่าวอิศรารายงานว่า นาย
นายมาหะหมัดอามีน ซาริคาน เลขาชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จ.นราธิวาส กล่าวเช่นกันว่า พ.ร.บ.ดับไฟใต้ ของ กอส. ที่เสนอต่อรัฐบาลถือเป็นแนวทางดีมาก เพื่อรัฐบาลจะได้มีแนวทางที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ แต่การแก้ปัญหาต้องเพิ่มความจริงใจและตั้งใจ โดยเฉพาะในระดับผู้ปฏิบัติด้วย โดยองค์กรต่างๆที่จะตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.ดับไฟใต้ ต้องให้คนพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อกระจายการทำงานไปสู่รากหญ้าเพื่อแก้ไขปัญหา และสร้างความเข้าใจต่อประชาชน
ด้านนาย
ส่วนการจัดตั้งศูนย์อำนวยการยุทธศาสตร์สันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศยส.) เป็นตัวหลักในการแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั้นต้องพิจารณาเต็มรูปแบบจากข้อเสนอของ กอส. เช่น ปัญหาขั้นพื้นฐาน 4 อย่างคือ ปัญหาความยากจน การพัฒนาด้านการศึกษา การยอมรับในความแตกต่าง และการพัฒนากระบวนการยุติธรรม รูปแบบทั้งหมดนี้จะต้องไปหลอมรวมกันเพื่อจะนำไปให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นหน่วยงานที่รองรับข้อมูลทั้งหมด
ส่วนข้อเสนอแนะให้ปรับระบบกฎหมายอิสลามเพื่อนำมาใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านมาก็มีดาโต๊ะยุติธรรม (ผู้ตัดสินคดีตามหลักการศาสนาอิสลาม) ประจำศาลจังหวัด แต่เพียงตัดสินในเรื่องมรดกเท่านั้นเอง ส่วนการจะนำกฎหมายอิสลามมาบูรณาการในการบริหารปกครอง เช่นจะนำกฎหมายชารีอะห์ ไปใช้ก็ต้องมีการพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องงอย่างรอบคอบอีกครั้งก่อนที่จะนำมาใช้จริง
นาย
นายอิสมาแอ สาและ รองเลขาธิการสมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย(ยมท.) กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวทางของกอส.ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมายชารีอะห์ การเยียวยา แต่ไม่มั่นใจว่าที่กอส.เสนอทั้งหมดนี้รัฐบาลจะสามารถปฏิบัติได้มากน้อยเพียงใด และมีความจริงในในการแก้ไขปัญหาหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาปัญหาอยู่ที่ผู้บังคับใช้กฎหมายไม่ได้ปฏิบัติจริงจัง ดังนั้นแม้จะมีกฎหมายอีกกี่ฉบับขึ้นมาก็ไม่มีความหมาย
ส่วน พระมหาชรัส อุชุจาโร รองเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ข้อเสนอของกอส.ที่เสนอให้ตรา พ.ร.บ.ดับไฟ และมีการจัดตั้ง 3 องค์กรเพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาความรุนแรงนั้นเป็นเรื่องที่ดีและมีความเป็นไปได้สูง หากมองจากปัจจัยของพื้นที่เนื่องจากภาคประชาชนเองมีความเข้มแข็งอยู่แล้ว และมีอำนาจในการต่อรองกับรัฐบาลสูง
รองเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดตั้งองค์กรแต่ละองค์กรนั้น ควรรวมคนทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ ไม่ใช่เปิดโอกาสให้แต่คนกลุ่มใหญ่ เพราะผู้บริสุทธิ์มีอยู่ทุกกลุ่ม คนแต่ละกลุ่มก็สามารถให้ความรู้และคำปรึกษาหรือข้อเสนอแนะได้ทุกคน อย่าคิดไปเองว่าคนกลุ่มเล็กๆจะไม่มีความรู้ที่สามารถเข้ามาร่วมแก้ปัญหาได้
ด้าน พล.อ.
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงข้อเสนอของ กอส.ว่า อันใดที่เป็นข้อยุติแล้วมีการสรุปออกมา ทางกองทัพรับทำได้หมด จะนำมาปรับทำเป็นแผนปฏิบัติการ ซึ่งทางกองทัพจะต้องไปขอดูในรายละเอียดอีกครั้ง แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุย เมื่อกลับไปจะมีการนัดพบกับ นาย
สำหรับความคืบหน้ากรณีศพนิรนาม พล.ต.อ.
โดยให้นำข้อมูลมารายงานต่อที่ประชุมในวันที่ 19 มิ.ย. จากนั้นที่ประชุมจะนำรายงานดังกล่าวไปตรวจสอบเปรียบเทียบกับคำพูดของนายไกรศักดิ์ซึ่งถอดเทปคำพูดไว้แบบคำต่อคำ เพื่อดูว่าตรงกันหรือไม่ หากไม่ตรงกันก็จะพิจารณาเหตุผลทางวิชาการของคุณหญิงพรทิพย์ เนื่องจากประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อย่างไรก็ตามเมื่อที่ประชุมสรุปข้อมูลทั้งหมดจะแถลงข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบ
วันเดียวกันที่ห้องประชุมกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต) มีการแถลงข่าวผลการปฏิบัติงานรับมอบตัวผู้ร่วมก่อเหตุและแนวร่วมกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ จ.นราธิวาส และความคืบหน้าคดีสำคัญต่างๆในห้วงเวลาที่ผ่านมา
พล.ท.