Skip to main content
sharethis


ชาวบ้านยื่นฟ้องสวนส้มธนาธร


ประชาไท- 9 พ.ค.2549     ชาวบ้าน อ.ฝาง นับร้อยบุกโรงพัก แจ้งความเอาผิดสวนส้มธนาธร หลังนายอำเภอฝางเปิดไฟเขียว มอบอำนาจผู้ใหญ่บ้านเข้าแจ้งความเอาผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 กรณีาสวนส้มธนาธรบุกรุกทำลายลำเหมืองสาธารณะ และแอบวางท่อขโมยน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำไว้ใช้ในสวนส้มโดยมิชอบ


เมื่อเวลา 10.30 น.(8 พ.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอฝาง จ.เชียงใหม่ นายจันทร์ หนองหิน ผู้ใหญ่บ้านสันทรายคองน้อย ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ได้นำชาวบ้านเกือบร้อยคนไปชุมนุมกัน พร้อมกับส่งตัวแทนเข้าแจ้งความคดี กับ ด.ต.สรธรณ์ บุญค้ำ, นายนิรุท เอี่ยมสกุล เข้าไปทำการถมดินวางท่อ สร้างกีดขวางและทำการบุกรุกทำลายเหมืองสาธารณะ พร้อมกับมีการวางท่อเพื่อขโมยน้ำจากลำห้วยแม่หลักหมื่นเข้าไปในอ่างเก็บน้ำของบริษัทเชียงใหม่ธนาธร จำกัด หรือสวนส้มธนาธร


รวมทั้งของให้ดำเนินคดีนายอนุพงศ์ ศิริชัยมา และนายนพรัตน์ ขนุนแดง ซึ่งเป็นพนักงานและคนงานของ บริษัท เชียงใหม่ธนาธร ที่เข้าไปทำการวางท่อคอนกรีตขนาด 60 x 1 เมตร จำนวนประมาณ 400 ท่อ ในลำเหมืองก๊อดหอธรรม ซึ่งเป็นลำเหมืองสาธารณะที่ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์กันมานานหลายชั่วอายุคน


การกระทำดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านกลุ่มผู้ใช้น้ำไม่สามารถเข้าไปทำการพัฒนา ปรับปรุงดูแลรักษาตามจารีตประเพณีได้ จนทำให้เกิดผลกระทบอย่างหนักต่อชาวบ้านสันทรายคองน้อย,บ้านใหม่คองน้อย และบ้านปางผึ้ง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่ทำการเกษตรจำนวนเกือบพันไร่ อีกทั้งยังมีการนำรั้วลวดหนามมาปิดกั้นถนนสาธารณะ พร้อมปิดป้ายประกาศว่าเป็นสถานที่ส่วนบุคคล ห้ามเข้า ซึ่งทำให้ชาวบ้านแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก


ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้น ทางตัวแทนชาวบ้านได้เข้าไปเจรจากับทางสวนส้มธนาธร เพื่อขอให้หยุดกระทำการดังกล่าว และขอให้มีการรื้อถอนรั้วที่ปิดกั้นถนนทางเข้าไปยังลำเหมืองสาธารณะของชาวบ้าน และให้มีการรื้อท่อส่งน้ำเข้าไปในอ่างเก็บน้ำนั้นโดยเร็ว ถ้ามิฉะนั้น ชาวบ้านจะทำการรื้อถอน แต่สุดท้าย ทางตัวแทนบริษัทเชียงใหม่ธนาธร ก็ไม่มีการดำเนินการแก้ไขใด ๆ ทั้งสิ้น


จนกระทั่ง ชาวบ้านทนรอต่อไปไม่ไหว เพราะต่างขาดแคลนน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรอย่างหนัก จึงได้พากันเข้าไปจัดการรื้อถอนสิ่งกีดขวางถนนสาธารณะ และรื้อท่อส่งน้ำออกจากลำเหมืองสาธารณะหนองแม่หลักหมื่นนั้นออกไป


อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ฝ่ายสวนส้มธนาธร กลับส่งตัวแทนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.อ.ฝางให้จับกุมดำเนินคดีนายสุทัศน์ ลือชัย ชาวบ้านสันทรายคองน้อย ต.เวียง และเป็นรองประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำฝางในข้อหาบุกรุก และเรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 70,000 กว่าบาท ซึ่งสร้างความไม่พอใจกับชาวบ้านสันทรายคองน้อยเป็นอย่างมาก จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยัง นายบรรลือศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา นายอำเภอฝาง เพื่อขอให้แจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานและคนงานของสวนส้มธนาธร ที่ได้ละเมิดสิทธิในพื้นที่สาธารณะของชาวบ้าน



นายจันทร์ หนองหิน ผู้ใหญ่บ้านสันทรายคองน้อย


นายจันทร์ หนองหิน ผู้ใหญ่บ้านสันทรายคองน้อย เปิดเผยต่อ "ประชาไท" ว่า ที่ตนและชาวบ้านมากันวันนี้ ก็เพื่อมาแจ้งความคดีกับคนของสวนส้มธนาธร หลังจากที่เข้าพบนายอำเภอฝางแล้ว ซึ่งทางนายอำเภอได้บอกกับตนว่า พร้อมจะอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ประชาชน ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้ ดังนั้น จึงได้มอบอำนาจให้ตนในฐานะผู้ใหญ่บ้าน เข้าแจ้งความดำเนินคดีตาม พรบ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 เพื่อเอาผิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวแทน


"ซึ่งชาวบ้านทุกคนต่างมั่นใจว่า พื้นที่ตรงนั้นคือที่สาธารณะของหมู่บ้าน และพนักงานที่ดิน รวมทั้งพนักงานสอบสวนของ สภอ.ฝาง ก็ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่และพบว่าพื้นที่บริเวณลำห้วยแม่หลักหมื่นนั้นเป็นพื้นที่สาธารณะจริง ดังนั้น ชาวบ้านจึงได้แจ้งความ ส่วนการดำเนินการต่อไปจากนี้ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย และเราอยากให้เรื่องนี้มันจบลงเร็ว ๆ และให้ชี้ชัดเลยว่า พื้นที่ตรงไหนเป็นของสวนส้ม พื้นที่ไหนเป็นที่สาธารณะของชาวบ้าน รวมทั้งเรื่องการใช้น้ำ ไม่ใช่ว่าอยากใช้น้ำก็ดึงน้ำไปใช้ ไปเบียดเบียนดึงน้ำไปใช้ในสวนส้ม จนทำให้ชาวบ้านลำบากเดือดร้อนไปทั่ว อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าจะต้องได้รับความเป็นธรรม"


ด้าน มงคล ใจอะโน ผู้นำเหมืองฝายบ้านสันทรายคองน้อย กล่าวว่า พื้นที่ที่ทางสวนส้มเอาท่อไปวาง เอาดินไปถมนั้น เป็นลำเหมืองสาธารณะ ที่ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ มีการพัฒนาทำการลอกเหมือง มีการเลี้ยงผีฝายกันทุกปี แต่ตอนนี้กลับมีการยึดพื้นที่ตรงนั้นไป ซึ่งวันนี้ ตนมาเป็นพยานในการสอบสวนคดี และทางร้อยเวรก็ยืนยันว่าฝ่ายสวนส้มธนาธรนั้นทำผิดจริง เพราะเป็นลำเหมืองสาธารณะอย่างชัดเจน


ในขณะที่ นายสุทัศน์ ลือชัย รองประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำฝางซึ่งเป็นผู้ที่สวนส้มธนาธรแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก กล่าวว่า จริง ๆ แล้ว ทางชาวบ้านไม่เคยสร้างปัญหาความขัดแย้งกับทางสวนส้มก่อนเลย แต่ที่ผ่านมา จะเห็นว่า ฝ่ายสวนส้มเป็นผู้ก่อปัญหากระทบกระทั่งกับชาวบ้านมาโดยตลอด และปัญหานี้ก็เกิดขึ้นมานานนับ 10 ปีแล้ว ไม่ว่าเรื่องการบุกรุกที่ดิน ถนนสาธารณะ การแย่งน้ำชาวบ้าน และปัญหาการแย่งน้ำจากลำห้วยแม่หลักหมื่นนี้ ถือว่าเป็นปัญหาล่าสุด


"เราไม่อยากทะเลาะ ไม่อยากใช้ความรุนแรง แต่ขอให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านกันบ้าง ว่าลำเหมืองและพื้นที่ตรงนั้นเป็นของสาธารณะที่ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันมานาน แต่ที่ผ่านมา ทางสวนส้มไม่ยอมเจรจาทำความเข้าใจสักครั้งเดียวเดียว มีแต่สร้างปัญหา" นายสุทัศน์ กล่าวทิ้งท้าย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net