ประชาไท—20 เม.ย. 2549 ศูนย์จับตาการเลือกตั้ง ส.ว. 49 รายงานว่า ภายหลังปิดหีบการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ในวันที่ 19 เม.ย. ที่ จ.นครราชสีมามีโทรศัพท์ร้องเรียนแจ้งมายังศูนย์จับตาเลือกตั้ง ส.ว. มากที่สุด โดยเฉพากเรื่องการซื้อเสียงซึ่งมีเกือบทุกเขต โดยระบุว่าจ่ายเงินซื้อในราคาตั้งแต่ 50 บาท - 500 บาท ส่วนหมายเลขที่ประชาชนโทรศัพท์แจ้งว่ามีการซื้อเสียง ได้แก่ 5 , 12, 20, 23, 25, 32, 34

ทั้งนี้ ผู้แจ้งเหตุระบุว่า หัวคะแนนใช้วิธีการซื้อเสียงโดยการนำเงินแนบไปกับบัตรแนะนำตัวของผู้สมัคร ในบางรายมีการยึดบัตรประชาชนไว้เป็นเครื่องประกัน หรือมีการสัญญาว่าจะให้ เงินหลังเลือกตั้งผ่านไปแล้ว เบื้องต้นมีการขอจดชื่อของผู้ขายเสียงไว้ก่อน

นอกจากปัญหาซื้อสิทธิ์ขายเสียงแล้ว ยังพบว่ามีการร้องเรียนในปัญหาเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งปฏิบัติหน้าที่ไม่เคร่งครัดด้วย เช่นที่ อำเภอเมือง ราชบุรี อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตบางเขน กทม. ซึ่งแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้งไม่จดหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลักของผู้ไปใช้สิทธิ์

ในบางพื้นที่ก็ไม่เตรียมปากกาไว้ในคูหาเลือกตั้ง เช่นที่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม  และอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี หรือในบางพื้นที่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งหลายจังหวัดไม่ได้ติดเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครไว้ที่หน่วยเลือกตั้ง จึงทำให้ประชาชนผู้ใช้สิทธิ์ตรวจสอบผู้รับสมัครได้ยากลำบาก

นอกจากนี้หลังการปิดหีบเวลา 15.00น. มีการร้องเรียนว่า หน่วยเลือกตั้งเขตบางนา และบางเขน มีการนับคะแนนแบบปิดและไม่มีการขานจำนวนบัตรเลือกตั้งและจำนวนผู้มาใช้สิทธิ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 69,17,101

หรือบางหน่วยการเลือกตั้ง แม้กกต.กลางจะมีคำสั่งให้ตั้งคูหาลงคะแนน โดยให้หันหน้าเข้ากำแพง ก็ยังคงพบว่ามีบางหน่วยตั้งคูหาโดยหันหลังเข้ากำแพงทำให้การลงคะแนนไม่เป็นความลับ เช่นที่อำเภอเมือง อุดรธานี

อีกกรณีหนึ่งคือการร้องเรียนในเรื่องการเลือกปฏิบัติ ในหน่วยเลือกตั้งบางหน่วยไม่ติดเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครบางราย เช่น น.ส.รสนา โตสิตระกูล หมายเลข 241และนายกล้านรงค์ จันทิก หมายเลข 238