Skip to main content
sharethis


แม้ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจะยังไม่ประกาศออกมาอย่างชัดเจน แต่สื่อไทยและสื่อต่างประเทศที่เกาะติดการนับผลคะแนนเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด ทยอยรายงานผลการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการอยู่เป็นระยะๆ และระบุว่าผู้กาบัตรในช่องไม่ประสงค์จะเลือกใครมีจำนวนสูงมากกว่าหรือเทียบเท่ากับคะแนนของผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นผู้สมัครเพียงพรรคเดียวในหลายๆ เขตทั่วประเทศ

 


ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายเขตทั่วจังหวัดกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงหลายจังหวัดในเขตภาคใต้ซึ่งมีบัตรเสียและมีการลงคะแนนในช่องไม่เลือกใครสูงมากเป็นประวัติการณ์ เป็นเหตุให้สื่อต่างประเทศวิพากษ์วิจารณ์ว่าผลการเลือกตั้งในครั้งนี้จะไม่สามารถหยุดวิกฤตทางการเมืองของไทยได้  แต่จะเป็นการผลักดันให้สถานการณ์ในเมืองไทยยุ่งเหยิงมากขึ้น


 


ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นบีบีซี รอยเตอร์ และเอเอฟพี ต่างก็ให้ความสนใจและนำเสนอข่าวต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของไทยครั้งนี้อย่างใกล้ชิด


 


สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษวิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่การเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่อาจนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของพ.ต.ท.ทักษิณได้ และผลการเลือกตั้งก็ไม่ทำให้สถานะของพรรคไทยรักไทยเข้มแข็งขึ้นแต่อย่างใด เพราะการที่พรรคฝ่ายค้านไม่ส่งคนลงเลือกตั้ง ทำให้ผู้สมัครของไทยรักไทยในหลายเขตได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 20 ทั้งที่ปราศจากคู่แข่ง ส่งผลให้ไม่สามารถเปิดประชุมสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีได้ เนื่องจากมีจำนวน ส.ส.ไม่ครบ 500 คน ตามที่กฎหมายกำหนด


 


ขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์ยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะผลักให้ประเทศไทยเข้าสู่ความยุ่งเหยิงในเรื่องของการตีความรัฐธรรมนูญมากขึ้น นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังได้วางการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเดิมพันของตนด้วย เนื่องจากก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณประกาศว่าจะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถ้าหากผู้สมัครเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทยได้คะแนนเสียงน้อยกว่าร้อยละ 50 ของผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง


 


การกระทำดังกล่าวคือการเปิดโอกาสให้ประชาชนลงมติทางการเมืองเกี่ยวกับสถานะผู้นำของประเทศ และประชาชนชาวกรุงเทพและชาวภาคใต้จำนวนมากได้ "ตบหน้า" พ.ต.ท.ทักษิณด้วยการเลือกกาบัตรเลือกตั้งในช่องไม่เลือกใครเป็นจำนวนท่วมท้นล้นหลามเป็นประวัติการณ์


 


อย่างไรก็ตาม การที่พรรคไทยรักไทยจะได้คะแนนต่ำกว่าร้อยละ 50 เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากประชาชนในเขตต่างจังหวัดอื่นๆ ยังนิยมในตัวพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ โดยเฉพาะประชาชนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีแต่จะทำให้วิกฤตการเมืองของไทยยืดเยื้อต่อไปเท่านั้น


 


ทางด้านสำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่าผลการลงคะแนนในเขตกรุงเทพและภาคใต้คือจุดวิกฤตที่ท้าทายที่สุดของพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะผลการลงคะแนนในกรุงเทพฯและภาคใต้ ซึ่งความโกรธเคืองที่มีต่อตัวพ.ต.ท.ทักษิณค่อนข้างรุนแรง ชัยชนะที่พรรคไทยรักไทยได้มาจากการเลือกตั้งครั้งนี้คงไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งกลุ่มต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณมิให้ออกมาเดินขบวนอีกครั้ง


 


ส่วนความเคลื่อนไหวของหัวหน้าพรรคไทยรักไทยในช่วงเวลาเช้าวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้บอกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลว่าอาจจะมีการแถลงข่าวในช่วงเย็น โดยจะมีการประชุมแกนนำพรรคไทยรักไทยกันก่อนในช่วงเที่ยงวัน เพื่อหารือเรื่องผลการเลือกตั้ง


 


นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวจากพรรคไทยรักไทยว่า แกนนำได้คิดจะหยิบยกแนวทางการเตรียมหาบุคคลที่อาจมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนแล้ว ในกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณต้องการเว้นวรรคทางการเมือง โดยรายชื่อบุคคลที่มีแนวโน้มว่าจะมารับตำแหน่ง ได้แก่ นายโภคิน พลกุล นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นต้น แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปหรือคำยืนยันที่แน่ชัด เพราะที่ประชุมพรรคไทยรักไทยจะมีการหารือเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net