Skip to main content
sharethis

ประชาไท--2 เม.ย. 2549 นายธนบูลย์  จิรานุวัฒน์ อาจารย์วิชากฎหมายระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่าการตั้งคูหาเลือกตั้งแบบหันให้เห็นด้านหลังผู้มาเลือกตั้งไม่ใช่การลงคะแนนลับและมีความผิดตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ของสหประชาชาติ ค.ศ. 1948 มีผลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ โดยสหประชาชาติสามารถเข้ามาดำเนินการสอบสวนได้ใน 48 ชั่วโมง


 


ทั้งนี้ปฏิญญาดังกล่าว ระบุไว้ในมาตราที่ 21(1)ว่า ที่จะมีส่วนในรัฐบาลของประเทศตนจะเป็นโดยตรงหรือผ่านทางผู้แทนซึ่งได้เลือกตั้งโดยอิสระ (3)เจตจำนงของประชาชนจะต้องเป็นมูลฐานอำนาจของรัฐบาล เจตจำนงนี้จะต้องแสดงออกทางการเลือกตั้งตามกำหนดเวลาและอย่างแท้จริง ซึ่งอาศัยการออกเสียงโดยทั่วไป และเสมอภาค และการลงคะแนนลับ


 


นอกจากนี้ ในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิในทางการเมืองข้อที่ 25 ระบุว่าพลเมืองทุกคนย่อมมีสิทธิและโอกาสโดยปราศจากความแตกต่าง และโดยปราศจากข้อจำกัดอันไม่สมควร (1)ในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารรัฐกิจโดยตรงหรือผ่านทางผู้แทนซึ่งรับเลือกมาอย่างเสรี (2) ในการที่จะออกเสียงเลือกตั้งหรือได้รับเลือกตั้งในการเลือกตั้งแท้จริงตามวาระ ซึ่งมีการออกเสียงโดยทั่วไป เสมอภาคและโดยการลงคะแนนลับ เพื่อประกันการแสดงเจตนาโดยเสรีของผู้เลือก


 


นายธนบูลย์ อธิบายว่า การลงคะแนนลับเป็นหลักการใหญ่ ดังนั้นการหันคูหาเลือกตั้งมาให้ผู้อื่นเห็นด้านหลังขณะลงคะแนนจึงเป็นการฝ่าฝืนกติกาสากลอันเป็นส่วนที่แยกขยายออกมาจากปฏิญญาสากลฯ โดยประเทศไทยลงนามไว้เมื่อ พ.ศ. 2539 และให้สัตยาบรรณไว้ มีผลบังคับใช้ในพ.ศ. 2540


 


"เวลานี้สหประชาชาติมีสภาสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถสั่งดำเนินการโดยอิสระได้ทันที และสภาอาจมีมติให้ส่งเรื่องนี้ไปยังศาล International Criminal Court (ICC) เพราะเป็นความผิดทางอาญาระหว่างประเทศ ตามสนธิสัญญาว่าด้วยการขจัดคอรัปชั่นทุกรูปแบบ"


 


นอกจากนี้การวางคูหาในลักษณะดังกล่าวก็อาจผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งของไทยเองที่ระบุว่าต้องให้เป็นการลงคะแนนเสียงโดยลับ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่คูหาเลือกตั้งนั้นเองอาจกระทำผิดกฎหมายตามมาตรา 157 ด้วย เพราะเป็นผู้ต้องช่วยเจ้าพนักงาน และรู้อยู่แล้วว่าคำสั่งเจ้าพนักงานไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ฝืนทำตาม


 


นายธนบูลย์กล่าวอีกว่า "หลักฐานการเลือกตั้งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายครั้งนี้มันชัดเจนเหลือเกิน เคยไปพูดที่จังหวัดอุดรธานีไว้ว่าจากนี้ไปจะเข้าสู่สภาพบ้านเมืองไร้ขื่อแป คือไม่มีกฎหมาย พรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. จะไปที่สหปะชาชาติ เพื่อหา Yanin Pox ผู้แทนข้าหลวงใหญ่สหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชนซึ่งมีหน้าที่ดูแลเรื่องการเลือกตั้ง พร้อมด้วยหลักฐาน "


 


ทั้งนี้ การเลือกตั้งถือว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานเป็นสิทธิมนุษยชนแบบหนึ่งที่สหประชาชาติปฏิเสธไม่ดำเนินการไม่ได้เมื่อมีหลักฐาน จากนั้นข้าหลวงใหญ่จะต้องส่งเรื่องต่อไปยังผู้ชำนาญพิเศษที่จะต้องทำเรื่องภายใน 48 ชั่วโมงสอบถามมาทางเมืองไทยเพื่อนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมสภาสิทธิมนุษยชนต่อไป


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net