1 เมษายน 2549 องค์กรเครือข่ายสื่อประกอบด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิม์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าวเศรษฐกิจ สภานักวิชาการสื่อสารมวลชน สมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ไทยและสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้ประชุมหารือกรณีการคุกคามสื่อจากกรณีที่คาราวานคนจนปิดล้อมเครือเนชั่น

นายภัทระ คำพิทักษ์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย แถลงมติที่ประชุมภายหลังการหารือนานกว่า 4 ชั่วโมงว่า องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนได้ประกาศ 10 มาตรการเพื่อป้องกันการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนดังนี้

1. ประกาศจุดยืนการทำงานของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนอิสระ ที่ต้องนำเสนอข่าวรอบด้านเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนใช้ในการตัดสินใจ โดยจะชี้ให้เห็นว่าการคุกคามสื่อเป็นการลดทอนข้อมูลข่าวสาร นอกจากนี้ยังมีความพยายามของฝ่ายไม่ประสงค์ดีเพื่อบีบให้สื่อมวลชนต้องเลือกข้าง ทั้งที่ความเป็นจริงสื่อมวลชนยืนอยู่ข้างความถูกต้องของประชาชน

2.ในวันที่ 5 เมษายน เวลา 13.00 น.จะมีการรวมพลังเพื่อแสดงถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของวิชาชีพสื่อมวลชน โดยการสวมเสื้อที่มีสัญลักษณ์ต่อต้านการคุกคามสื่อ ซึ่งมีข้อความว่า "คุมคามสื่อ คือคุกคามประชาชน" เพื่อส่งสัญญาณไปยังผู้ที่ไม่หวังดี

3.สภานักวิชาการสื่อสารมวลชนจะจัดทีมงานเพื่อชี้แจงต่อสาธารณชนถึงความพยายามในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน แต่รัฐบาลมีทัศนคติคับแคบเพื่อบิดเบือนทำให้เกิดความเสียหายกับสื่อมวลชนโดยรวม โดยเฉพาะการตอบคำถามของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกฯ ถึงกรณีการคุมคามเครือเนชั่นว่า "ผมถูกคุกคามมาตั้งหลายปี" แสดงให้เห็นถึงการปฏิเสธที่จะตรวจสอบและให้ท้ายความรุนแรง

4.จะมีการจัดทำรายงานสภาพการคุกคามสื่อในประเทศออกไปสู่สังคมโลก

5.สมาคมนักข่าวจะประชุมบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ต่างๆเพื่อขอความร่วมมือในการเคลื่อนไหวและออกมาตรการที่เป็นเอกภาพ

6.จะใช้ศูนย์ข่าวอิศรา เป็นศูนย์กลางการให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการคุกคามสื่อ ซึ่งมีผู้บงการและถูกถ่ายภาพไว้ด้วย

7.จะทำสติ๊กเกอร์คุกคามสื่อติดที่เทปบันทึกเสียง และไมโครโฟนในการสัมภาษณ์เพื่อให้ปรากฏออกไปสู่สายตาสาธารณชน

8.จะจัดสัมมนารวบรวมรูปแบบการคุกคามสื่อเพราะ 5 ปีของรัฐบาล "ทักษิณ"การคุกคามสื่อได้เปลี่ยนรูปแบบมีความรุนแรงมากขึ้น

9.ร่วมกันทำข่าวเปิดโปงความไม่ถูกต้องของกลุ่มเคลื่อนไหวที่มีพฤติกรรมเป็นอันธพาลและไม่นำเสนอกิจกรรมของคนเหล่านั้น เนื่องจากขาดความชัดเจนว่าเป็นตัวแทนของประชาชนจริง ๆ หรือไม่เพราะไม่มีคุณค่าทางข่าว

10.จะมีการประสานงานไปยังเครือข่ายต่าง ๆ อาทิ ทนายความ อัยการ เพื่อทำงานร่วมกันในการปกป้องสิทธิเสรีภาพประชาชน นอกจากนี้ ควรจะมีมาตรการเพื่อเป็นหลักประกันในความปลอดภัยการทำงานของสื่อในวันเลือกตั้ง 2 เมษายนนี้ โดยเฉพาะในคูหาเลือกตั้งของบางจังหวัดที่จะมีการเผชิญหน้าทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้าน