ใครไม่เป็นคนหายยา ไม่มีทางซึ้งและเข้าใจ ว่าการที่ต้องทนนอนดมกลิ่นเน่าเหม็นของขยะกองโตจากทั่วทุกสารทิศในตัวเมืองเชียงใหม่ทุกค่ำคืน จะเป็นความทรมานสักแค่ไหน ?
ที่สำคัญปัญหานี้มิใช่ครั้งแรก ได้เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกปี แต่ไม่มีทีท่าว่าผู้รับผิดชอบคือเทศบาลนครเชียงใหม่จะจริงจังแก้ไขหรือมีวิธีการที่ดีกว่าการผลัดวันประกันพรุ่ง
ที่สุด ! ชาวชุมชนหายยาเลือกที่จะรวมตัวกันประท้วงเรียกร้อง ยื่นข้อเสนอให้เทศบาลแก้ไขเร่งด่วน ก่อนจะรวมกลุ่มประท้วงใหญ่ขึ้นอีกรอบหลังสงกรานต์
โดยเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2549 ราว 10.30 น. ชาวบ้านหายยาและชุมชนใกล้เคียงคือชุมชนทิพยเนตร ชุมชนพวกเปีย ชุมชนศรีสุวรรณ ชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนนันทารามและศูนย์วัฒนธรรม รวมตัวประท้วงการจัดการขยะของเทศบาลบริเวณที่พักขยะภายในสุสานหายยา ซึ่งได้สร้างเหม็นคละคลุ้งไปทั่วรัศมีกว่า 4 กิโลเมตร โดยชาวบ้านได้ปิดทางเข้าออกโรงพักขยะและได้เรียกร้องข้อเสนอกับทางเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยได้ออกแถลงการณ์ถึงปัญหาที่ได้รับผลกระทบมาโดยตลอดจากที่อดทนสูดกลิ่นขยะที่เน่าเหม็นมาหลายปี จึงทนต่อไปไม่ไหวในการที่จะอยู่อาศัยต่อไป ทำคนในชุมชนเสียสุขภาพกายและสุขภาพจิต
วรรณา อิงคะระวะ เจ้าของร้านเสริมสวยกล่าวว่ากำลังจะย้ายออกจากชุมชนแห่งนี้แล้ว หลังจากอยู่ในชุมชนนี้ 8 ปี เพราะทนความเหม็นของขยะที่ส่งกลิ่นไม่ไหว
"ลูกค้าที่มาทำผมที่ร้านก็หายหน้าหายตาไปหมด จนไม่มีรายได้ เพราะทนกลิ่นขยะไม่ไหว เราต้องเสียเวลา สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายทั้งๆที่มีร้านของตัวเอง สำหรับตัวเองต้องสูดดมกลิ่นทุกวัน เสียสุขภาพจิต "
อำภร อินทร เปิดกิจการร้านอาหารในชุมชนหายยา เผยว่า ได้รับผลกระทบมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2548 ตอนนี้สุขภาพเสียมาก นอนก็นอนไม่ได้ ต้องไปนอนที่บ้าน อ.สันทราย ปวดหัว หงุดหงิด ลูกค้าที่เคยมากินข้าวที่ร้านจากที่มาทุกวัน ตอนนี้เปิดประตูรถมาแล้วได้กลิ่นขยะ ก็รีบขับรถออกไปทันที รายได้จากวันละ 2,000 - 3,000 บาท ก็เหลือวันละ 1,000 บาท ซึ่งไม่พอกับค่าเช่าที่
"คนที่มางานศพที่สุสานใกล้ๆกับที่พักขยะ ก็มาได้ไม่นานพิธียังไม่เสร็จก็กลับกัน อยู่ได้ไม่นาน นานๆเห็นเอาน้ำยามาราดดับกลิ่นเหม็นของขยะ แต่ก็ทำได้ไม่นาน ก็มีกลิ่นกลับมาอีก และเวลาขนขยะออกก็จะทำขยะตกเกลื่อนถนน ปลิวเข้าบ้าน เข้าร้านที่อยู่ตรงข้าม โดยไม่มีใครดูแลเก็บกวาด"
ชาวบ้านคนหนึ่ง ที่เปิดร้านขายของอยู่ในชุมชนหายยา ซึ่งเอ่ยถึงรายได้ที่ตกลงและกิจวัตรที่ต้องเปลี่ยนไปตามสิ่งแวดล้อม
"ขยะได้ถูกลำเลียงมารวมตรงนี้ได้ 4 - 5 ที่แล้ว รถขนขยะเวลานำขยะมาจะส่งกลิ่นโชยไปไกลถึงโรงชุมชนทิพเนตร วัวลาย พยาบาลสวนปรุง เดี๋ยวนี้ช่วงบ่ายต้องปิดร้านนอนเลยเมื่อก่อนลูกค้ามากินเหล้าที่ร้าน ก็จะนั่งนานแล้วกลับ แต่ตอนนี้มานั่งได้พักเดียวก็ไปกันหมด
ตอนที่รถขยะเข้ามา แล้วเอาขยะออก เวลาเขี่ยขยะกลิ่นจะกระจายเหม็นมาก ถ้าขยะเกินก็จะขับเข้าออกหลายรอบแล้วมันส่งกลิ่นไม่หยุด จนทุกวันนี้กินข้าว ต้องนำจานข้าวเก็บไว้ในล็อคใต้โต๊ะ เพราะกลัวกลิ่นขยะ แมลงวัน
สุทัศน์ แดงติ๊บ ชาวบ้านชุมชนหายยากล่าวว่า คนที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรง แล้วฝ่ายบริหารของเทศบาลได้คำนึงถึงชาวบ้านที่สูดอากาศเสียบ้างหรือไม่ มาหาแนวทางแก้ปัญหาหรือไม่ เวลามาคัดค้านทางเทศบาลก็ส่งผู้รับผิดชอบมารับเรื่อง แล้วสัญญาว่าจะแก้ไขปัญหาให้แต่เหมือนพูดลอยลม พอเลิกประท้วงก็ไม่ได้มาแก้ไขตามที่ได้พูดไว้ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้คนในชุมชนออกมาเรียกร้อง แล้ววันนี้เขาบอกว่าจะมีการแก้ไขปัญหาให้จบในวันที่ 17 เมษายน แต่ถ้าถึงวันนั้นจะรอดูว่าทำได้อย่างที่รับปากได้หรือไม่ อย่างไร
"ขยะเป็นภูเขา ในสุสานหายยา เคยมีการประท้วงมาแล้วครั้งหนึ่งแล้วก็มีการจัดการไปเสร็จเรียบร้อย แต่ถึงวันนี้ปัญหาได้เกิดขึ้นอีกครั้ง แล้วมาในลักษณะที่เป็นโรงเก็บ ดูเหมือนว่าการมีโรงเก็บการจัดการจะเรียบร้อย ในสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ เรื่องกลิ่นขยะ น้ำขยะที่กลายเป็นน้ำเสีย ถ้าฝนตกมาแล้วก็เลาะไปทั่วเชื้อโรค แมลงวันที่มาจากกองขยะ แล้วแขวงอื่นๆก็ไม่รู้ว่าชุมชนแห่งนี้ได้รับผลเสียมากขนาดไหน แล้วตอนนี้ขยะของเมืองทั้งหมดมารวมอยู่ตรงนี้"
ชาวบ้านบอกด้วยว่าเมื่อครั้งแรกการจัดตั้งที่เก็บขยะแห่งนี้ ทางเทศบาลได้ประกาศและประกวดราคาเรื่องการสร้าง แต่ชาวบ้านไม่เคยทราบ พอหลังจากที่ทำเสร็จจึงติดป้ายอย่างชัดเจนว่าเป็นสถานที่พักขยะชั่วคราว
ข้อยุติการประท้วงวันนั้นคือข้อเสนอจากทางเทศบาลว่าจะแก้ไขปัญหาให้เรียบร้อยภายในวันที่ 17 เมษายน แต่ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขตามที่ได้ตกลง ก็จะทำการปิดถนนหน้าสถานที่เก็บขยะอีกครั้งโดยก่อนถึงวันที่ 17 เมษายน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนจะมีการจับตาการทำงานของเทศบาล และในวันที่ 18 เมษายน จะกลับมาชุมนุมอีกครั้งเพื่อดูผลการแก้ไขของทางเทศบาล
นายพูลสวัสดิ์ วรวัลย์ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ อธิบายกับกลุ่มผู้มาประท้วงว่า เรื่องนี้เทศบาลเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง เพราะพื้นที่ที่ใช้เก็บขยะเป็นของเทศบาล และอากาศมีกลิ่นเหม็นจริง แต่ ที่ลงมาแก้ไขให้เพราะอยากจะเห็นความคิดเห็นของคนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบ แล้วใกล้จะถึงเทศกาลสงกรานต์ แล้วจะมีคนเข้ามาในพื้นที่มาก
"เราต้องมาพูดกันว่า สิ่งไหนที่จะยืดหยุ่นให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ ที่ผ่านมามีการพูดกันบ่อยในปัญหาที่เกิดขึ้นและก็ไม่มีข้อสรุปให้กับชุมชน โดยก่อนที่จะมาตกลงกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ได้พูดกับ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ว่า ถ้ามีการตกลงเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของชาวบ้าน ถือว่าเป็นการตัดสินใจเด็ดขาดโดยตัวเอง ถ้ารับปากแล้วไม่ทำตามที่รับปากก็ไม่ได้เรื่อง ถ้าในการตกลงแก้ไขปัญหาได้แนวทางอย่างไร ก็ทำการแก้ไขตามข้อเรียกร้อง แต่ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็จะทำการปิดสถานีขนถ่ายขยะ แต่ต้องขอคนชุมชนให้เวลาทางเทศบาลในการศึกษาปัญหาว่าเกิดจากอะไร"
ในช่วงหลังวันที่ 17เมษายนทางเทศบาลจะนำขยะไปทิ้งที่ไหนก็เป็นดุลพินิจของเทศบาล หมายความว่าจะไม่ใช้สถานที่นี้อีก ขยะที่อยู่บนลานเก็บขยะนี้ไม่ใช่ของพื้นที่เดียว เป็นขยะอีก 3 แขวง คือแขวงศรีวิชัย แขวงนครพิงค์ แขวงเม็งราย ที่นำมาจัดเก็บในพื้นที่ ถ้ามีปัญหาต่อไป จะแยกให้มีการจัดเก็บในความรับผิดชอบของแต่ละพื้นที่ มีที่เก็บขยะของตัวเอง จะมีการทำโครงการด่วนและจะมีการขนออกไปให้หมด โดยขอเวลาแก้ไขปัญหาการจัดเก็บขยะและข้อเรียกร้องที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านและรับปากว่าจะแก้ไขให้ได้ในวันที่ 17 เมษายน ถ้าปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข ก็จะยินยอมยืนใส่หน้ากากประท้วงร่วมกับชาวบ้าน
เป็นอีกครั้งที่ผู้บริหารเทศบาลนครเชียงใหม่รับปากกับปัญหากลิ่นขยะที่ย่านหายยานี้ แต่จะทำได้จริงหรือไม่ ก่อนหน้านี้ไม่นานนาย
ปัญหาขยะที่เป็นวิกฤตของเมืองที่น่าอับอาย และรอฝีมือการบริหารของเทศบาลนครเชียงใหม่มาเนิ่นนาน กำลังถูกท้าทายอีกครั้ง และจะชี้วัดกันในวันหลังสงกรานต์ว่าจะสามารถดับไฟได้สำเร็จ หรือจะปล่อยให้เป็นเสมือนระเบิดเวลาที่เตรียมจะปะทะขึ้นมาเพราะความละเลย!