อย่างไรก็ตาม โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิเสธว่า ไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะฟ้องร้องนสพ.เดอะเนชั่นหากไม่เปิดเผยแหล่งข่าว จึงไม่ทราบว่านสพ.เดอะเนชั่น นำข้อมูลส่วนนี้มาจากไหนจึงนำมาเขียนเป็นรายงาน

น.พ.สรุพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำนักโฆษกรัฐบาลและสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักโฆษกฯ ไปยื่นหนังสือต่อตัวแทน นสพ.เดอะเนชั่น เพื่อให้แจ้งถึงความคลาดเคลื่อนในการลงข่าวดังกล่าว โดยในหนังสือนั้นได้ระบุให้นสพ.เดอะเนชั่นแสดงความรับผิดชอบ ส่วนอีกฉบับได้ส่งถึงประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เพื่อให้สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติพิจารณาเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของนสพ.เดอะเนชั่น  โดยรัฐบาลเชื่อว่าหากมีการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง มีการตรวจทานข้อมูลกับแหล่งข่าวอย่างรอบคอบจะนำไปสู่การนำเสนอข้อมูลที่เป็นจริงและเชื่อถือได้ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการรับข้อมูลข่าวสารของประชาชน

"เนชั่นต้องยืนยันว่ามาจากไหน เพราะไม่มีการประชุมเรื่องนี้ในที่ประชุมองคมนตรี รัฐบาลยังไม่ถึงขั้นต้องการให้เปิดเผยแหล่งข่าว แต่ต้องการให้เกิดความชัดเจนเรื่องนี้ หากเนชั่นยังยืนยันว่าแหล่งข่าวตนเองถูกต้อง ก็จะเกิดปัญหาว่าความจริงคืออะไร ดังนั้นสภาการหนังสือพิมพ์ ซึ่งดูแลการเสนอข้อมูลข่าวสาร โดยมีจรรยาบรรณกำกับ ก็ต้องดูแลว่าทำไมจึงมีความจริง 2 อย่างเกิดขึ้น ความจริงอย่างที่รัฐบาลและเลขาธิการคณะองคมนตรียืนยันเป็นแหล่งข่าวที่ชัดเจน ส่วนเนชั่นยังไม่ทราบว่าแหล่งข่าวคือใคร แต่ได้ทำให้เกิดความจริงสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง" น.พ.สุรพงษ์ กล่าว

ขณะที่เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า เวลา 15.30 น. ได้มีกลุ่มบุคคลซึ่งอ้างว่าเป็นแม่ค้าและผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จำนวนประมาณ 200 คน เดินทางไปชุมนุมประท้วงที่อาคารเนชั่น เลขที่ 44 หมู่ 10 ริมถนนบางนา-ตราด แขวงและเขตบางนา กรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า พวกเขาซึ่งเป็นชาวรากหญ้าและไม่ได้รับจ้างใครมา รู้สึกรับไม่ได้ที่หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นบิดเบือนข่าวสาร เสนอข่าวไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยผู้ชุมนุมได้นำพวงหรีดและป้ายผ้าเขียนข้อความว่า "หยุดใส่ร้ายป้ายสี และบิดเบือนข่าว" มาชูที่หน้าบริษัทด้วย ท่ามกลางความสนใจของพนักงานและประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา

จากนั้นผู้บริหารสื่อในเครือเนชั่น นำโดย นายประณต วิเลปสุวรรณ บรรณาธิการบริหารเนชั่นทีวี ได้ลงมาเจรจากับผู้ชุมนุม และรับหนังสือจากแกนนำคือ นายวรชัย เหมะ อายุ 50 ปี ก่อนที่ผู้ชุมนุมทั้งหมดจะทยอยกันเดินทางกลับ โดยมีรถบัส 2 ชั้นปรับอากาศมารอรับ อย่างไรก็ดี จากการสอบถามผู้ร่วมชุมนุม กลับตอบไม่ได้ว่าข่าวใดของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นที่เห็นว่าบิดเบือน นอกจากนั้น ที่โทรโข่งของแกนนำรายหนึ่ง ยังติดสติกเกอร์สัญลักษณ์ของพรรคไทยรักไทยด้วย

ด้านนายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี เลขาธิการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าวว่า สภาการหนังสือพิมพ์ได้เตรียมพิจารณาเรื่องร้องเรียนการนำเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์แนวหน้า กรณีการเสนอภาพข่าวว่า กลุ่มรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้าคิวรับเงินค่าจ้างให้มาร่วมชุมนุมสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ และกรณีของหนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น ที่นำเสนอข่าวการเปลี่ยนตัวประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีแล้ว โดยสภาการหนังสือพิมพ์จะเร่งพิจารณาเรื่องร้องเรียนทั้ง 2 เรื่องโดยเร็ว และเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือในการสอบสวนข้อเท็จจริงจากทั้งหนังสือพิมพ์แนวหน้า และเดอะ เนชั่น