"สมบัติ - นิด้า" วาดภาพการเมืองหลัง 2 เม.ย. "เผด็จการสมบูรณ์แบบ"

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้เผยแพร่บทความทางสำนักข่าวหลายแห่ง วาดภาพการเมืองไทยหลังการเลือกตั้ง 2 เม.ย. ว่าจะเข้าสู่ระบอบเผด็จการสมบูรณืแบบ ในชื่อบทความว่า "โฉมหน้ารัฐบาลหลังการเลือกตั้ง 2 เมษา" ประชาไท ขอนำมาถ่ายทอดต่อโดยมีเนื้อหาดังนี้


 

ถ้าการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน 2549 เป็นไปตามกำหนดโดยเรียบร้อยตามกติกาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำหนดไว้ และสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ตามเจตจำนงของ พ.ต.ท.ทักษิณ และพวก ปรากฏการณ์นี้จะเป็นปรากฏการณ์ประวัติศาสตร์ของการเมืองไทยที่กระบวนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยจะก่อให้เกิด "รัฐบาลเผด็จการสมบูรณ์แบบ" และจะเป็น "รัฐบาลเผด็จการ" ที่น่ากลัวมากกว่ารัฐบาลเผด็จการที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร ทั้งนี้เพราะรัฐบาลเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้งจะ "อวดอ้าง" ได้เต็มปากเต็มคำว่าได้รับ "ฉันทานุมัติเบ็ดเสร็จ" มาจากประชาชน ซึ่งโดยเนื้อแท้ของหลักการ "ประชาธิปไตย" การเลือกตั้งเป็นแต่เพียง "องค์ประกอบหนึ่ง" เท่านั้น มิได้หมายความว่า "การเลือกตั้ง" คือ "ประชาธิปไตย" ที่พึงปรารถนา

 

คำถามเบื้องต้นที่คนทั่วไปอาจจะไม่เข้าใจก็คือ รัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชนจะเป็น "รัฐบาลเผด็จการ" ได้อย่างไร ?

 

คำตอบที่เป็นรูปธรรมอาจพิจารณาได้จากสภาพที่เกิดขึ้นดังนี้

 

1. สภาเผด็จการ สภาจะเป็นสภาของพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียว คือ พรรคไทยรักไทย (ถึงแม้พรรคไทยรับไทยจะยอมให้พรรคดอกไม้ประดับได้รับเลือกตั้งเข้ามาบ้าง เพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียด แต่ก็จะไม่มีความหมายในทางการเมืองแต่อย่างใด) ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทยจะมีอำนาจสิทธิขาดเหนือสภาผู้แทนราษฎร และจะสามารถบงการให้สภาผ่านกฎหมายตามความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ทุกกรณี โดยไม่มีการคัดค้าน เพราะไม่มีฝ่ายค้านในสภา อำนาจนิติบัญญัติ จึงอยู่ใน "อุ้งมือ" ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่เพียงผู้เดียว และ "คำสั่ง" ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะกลายเป็น "กฎหมายแห่งแผ่นดิน"

 

2. รัฐบาลเผด็จการ เมื่อสภาอยู่ภายใต้อาณัติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างเด็ดขาด สภาก็จะเลือกตั้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็น นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจสูงสุด โดยจะมีอำนาจสั่งการคณะรัฐมนตรี และข้าราชการทุกกระทรวง ทบวงกรม ทั้งข้าราชการพลเรือน ทหาร และตำรวจ การที่รัฐบาลมีอำนาจเบ็ดเสร็จเช่นนี้แม้การสั่งการที่มิชอบด้วยกฎหมาย ก็จะไม่มีข้าราชการคนใดกล้าท้วงติงหรือคัดค้าน

 

3. ผู้นำเผด็จการ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเป็นผู้นำประเทศที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทั้งทางบริหาร และทางนิติบัญญัติ โดยอ้างความชอบธรรมได้อย่างเต็มที่ว่าเป็นการใช้อำนาจโดยฉันทานุมัติจากประชาชน เพราะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน

 

4. การบริหารโดยปราศจากการตรวจสอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะบริหารประเทศโดยปราศจากการตรวจสอบของฝ่ายค้าน เพราะไม่มีฝ่ายค้านในสภา ในอดีตที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีฝ่ายค้าน แต่ก็ปรากฏให้เห็นอย่างดาษดื่นว่า ทั้งนักการเมืองและข้าราชการได้สมคบกันกระทำการทุจริตอย่างกว้างขวางดังที่ประจักษ์อยู่โดยทั่วไป ดังนั้น การบริหารประเทศที่ปราศจากการตรวจสอบจะยิ่งทำให้รัฐบาลทักษิณ สามารถใช้อำนาจกระทำการทุจริต และประพฤติมิชอบได้ตามอำเภอใจ นั่นคือ "หายนะ" ของชาติ

 

5. การครอบงำวุฒิสภา เป็นที่ประจักษ์ชัดว่ารัฐบาลทักษิณ ได้เข้าแทรกแซงและครอบงำวุฒิสภา จนกระทั่งวุฒิสภาไม่หลงเหลือ "ความเป็นกลาง" ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และเป็นที่ปรากฏชัดว่าการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกในวันที่ 19 เมษายน 2549 สมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่จะเป็นวุฒิสมาชิกสายไทยรักไทย รัฐบาลทักษิณจึงมีอำนาจครอบงำทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เมื่อวุฒิสภาถูกครอบงำโดยรัฐบาลและไม่มีความเป็นกลาง การใช้อำนาจของวุฒิสภาก็จะใช้เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลทักษิณจะกระทำผิดอย่างไร ก็ไม่มีโอกาสจะถูกถอดถอนจากวุฒิสภา

 

6. การครอบงำองค์กรอิสระ เมื่อรัฐบาลทักษิณ สามารถครอบงำวุฒิสภาได้แล้ว การคัดเลือกกรรมการองค์กรอิสระทุกองค์กรก็จะอยู่ภายใต้การบงการของรัฐบาลทักษิณ จึงเชื่อได้ว่ากรรมการองค์กรอิสระเสียงข้างมากทุกองค์กรจะเป็นคนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น องค์กรอิสระจึงไม่มีโอกาสที่จะใช้อำนาจอย่างเที่ยงตรง และโปร่งใส ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แต่จะใช้อำนาจตามคำบงการของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น

 

7. การทุจริตเชิงนโยบายจะขยายตัวเต็มบ้านเต็มเมือง ประชาชนจะได้สัมผัสกับโครงการต่าง ๆ มากมายที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อประโยชน์ของทักษิณ และพวกประชาชนที่หากินโดยสุจริตจะผจญกับความคับข้องใจสูงสุดนอกจากนี้การอนุมัติงบประมาณและการใช้งบประมาณโดยปราศจากการตรวจสอบ จะยิ่งส่งเสริมให้การทุจริตคอรัปชั่นขยายตัวเต็มบ้านเต็มเมือง

 

8. รัฐบาลจะใช้เงินจากภาษีอากรของประชาชนเพื่อซื้อความนิยมจากประชาชนชาวรากหญ้า เพื่อใช้เป็นฐานค้ำจุนอำนาจของตน คนรากหญ้าจะกลายเป็นเหยื่อที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดีของรัฐบาลทักษิณ ในขณะที่ความยากจนจะดำรงอยู่ต่อไป

 

ทั้งนี้สภาพดังกล่าวนี้ คือ "รัฐบาลเผด็จการสมบูรณ์แบบ" ที่เป็นผลผลิตของการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยในวันที่ 2 เมษายน 2549

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท