กลุ่มประชาชนและนักเรียนไทยในต่างประเทศ ออกจดหมายเปิดผนึกคัดค้านการตัดสินใจยุบสภาผู้แทนราษฎรของนายกรัฐมนตรีและคัดค้านการกำหนดการเลือกตั้ง ส.ส.นอกราชอาณาจักร ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีเนื้อความ ดังนี้
0 0 0
จดหมายเปิดผนึก ถึง ประชาชนชาวไทย
คัดค้านการตัดสินใจยุบสภาผู้แทนราษฎรของนายกรัฐมนตรี
และคัดค้านการกำหนดการเลือกตั้ง ส.ส.นอกราชอาณาจักร
ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
โดย กลุ่มประชาชนและนักเรียนไทยในต่างประเทศ
1 มีนาคม 2549
ภายหลังจากที่ ฯพณฯ พ.ต.ท.
- การกำหนดการเลือกตั้งดังกล่าวส่งผลให้ ชาวไทยนอกราชอาณาจักร ซึ่งมิได้ขอลงทะเบียนเป็นผู้ใช้สิทธิ เลือกตั้ง ส.ส. นอกราชอาณาจักรในปี 2548 ภายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2549 ถูกตัดสิทธิจากการเลือกตั้ง สส. นอกราชอาณาจักร
ในทางปฏิบัติการเลือกตั้งจะต้องเปิดโอกาสให้ชาวไทยในต่างประเทศมีเวลาในการเตรียมตัวใช้สิทธิอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ และต้องมีการประกาศกำหนดการวันสุดท้ายของ การขอใช้สิทธิให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และโดยหลักการทางการปกครองแล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่สามารถออกคำสั่งให้มีผลบังคับย้อนหลังได้
ดังนั้นข้าพเจ้าและผู้ที่ไม่ได้ใช้สิทธิเลือกตั้งจะต้องเสียสิทธิทางการเมืองในด้านต่าง ๆ เช่น ไม่มีสิทธิลงชื่อถอดถอนผู้แทน, ไม่มีสิทธิลงสมัครเป็นผู้แทนทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ เป็นเวลาอย่างน้อยสี่ปี ซึ่งย่อมไม่เป็นธรรม เพราะพวกข้าพเจ้ามิได้มีความประสงค์เช่นนั้น และมิใช่ความผิดของประชาชน
- การกำหนดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ระหว่าง วันที่ 17 - 26 มีนาคม 2549 ซึ่งเป็นระยะเวลา 20 วัน หลังการประกาศยุบสภา และ 7 วันหลังวันปิดประกาศรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ส่งผลทำให้ประชาชนไทย นอกราชอาณาจักรมีเวลาเพียง 7 วัน ในการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลของผู้สมัคร นโยบาย และลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
โดยการกำหนดเวลาซึ่งกระชั้นชิดดังกล่าวยังส่งผลโดยตรงต่อ การจัดเลือกตั้งทางไปรษณีย์ ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควรในการจัดการประชาสัมพันธ์และการระยะเวลาในการติดต่อ สื่อสารทางไปรษณีย์โดยเฉพาะสำหรับชาวไทยที่อาศัยอยู่ในเมืองซึ่งห่างไกลจากที่ตั้งของสถานทูตไทย ในประเทศดังกล่าว
นอกจากนั้นการกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 2 เมษายน โดยผ่านความเห็นชอบของประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งเพียงคนเดียวโดยมิได้ผ่านการประชุมของคณะกรรมการยังส่งผลต่อความชอบธรรมของการเลือกตั้ง ความชอบธรรมของการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งและประสิทธิภาพการจัดการเลือกตั้ง
จึงขอเสนอให้ทบทวนกำหนดวันเลือกตั้ง โดยอาจกำหนดให้เป็นในวันที่ 23 เดือนเมษายน 2549
3. กลุ่มประชาชนและนักเรียนไทยในต่างประเทศ เห็นว่าการประกาศยุบสภาของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีเป็นการกระทำมิชอบ ทั้งนี้เพราะสาเหตุของความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นนั้น เป็นผลมาจากความประพฤติที่ไม่โปร่งใสและผลประโยชน์ทับซ้อนของนายกรัฐมนตรีในฐานะนายกรัฐมนตรีและเจ้าของกิจการโทรคมนาคมที่ต้องการขายหุ้นเพื่อผลกำไรสูงสุด อีกทั้งยังถูกกล่าวหาในเรื่องการใช้ช่องว่างทางกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีให้รัฐ ซึ่งปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น สามารถแก้ไขได้ง่ายโดยการลาออกของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการผ่านกระบวนการยุติธรรมในการแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าวและสามารถกลับมาบริหารประเทศได้อย่างสง่างาม แทนที่จะและผลักภาระให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยที่รัฐต้องเสียเงินจำนวนมหาศาลในการจัดการเลือกตั้งกล่าว
4. กลุ่มประชาชนและนักเรียนไทยในต่างประเทศ จึงขอเรียกร้องให้ ฯพณฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และขอยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ถึงการตัดสินใจและการทำงานอันไม่เป็นกลางของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งส่งผลต่อสิทธิในการเลือกตั้งของชาวไทยนอกราชอาณาจักรและประสิทธิภาพต่อการดำเนินการเลือกตั้ง
ชื่อ-สกุล |
ที่อยู่ |
ประเทศ |
1. ศราวุฒิ ประทุมราช |
Permata Senayan Apt.Jl.Palmerah Selatan No.20A-21, |
|
2. กนกรัตน์ เลิศชูสกุล Kanokrat Lertchoosakul |
||
3. นฤมล ทับจุมพล |
||
4.ปริยากร ปุสวิโร |
Digital Media in Education
Center for Computing Technologies (TZI)
Informatik, |
|
5. |
|
|
จากจดหมายปิดผนึกฉบันนี้จึงขอเชิญชวนผู้สนับสนุนการคัดค้านการตัดสินใจยุบสภาผู้แทนราษฎรของนายกรัฐมนตรีและคัดค้านการกำหนดการเลือกตั้ง ส.ส.นอกราชอาณาจักร ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมลงรายชื่อได้ตั้งแต่วันที่ 1 - 9 มีนาคม 2549 ผ่านอีเมล์ของผู้ประสานงานชั่วคราวดังรายชื่อด้านล่าง เพื่อเสนอยื่นฟ้องต่อ ศาลปกครอง ในวันที่ 10 มีนาคม 2548
โดยในวันที่ 10 มีนาคม 2549 ตัวแทนชาวไทยในต่างประเทศจะยื่นฟ้องการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งต่อศาลปกครองที่ประเทศไทย พร้อมกับตัวแทนชาวไทยในสหราชอาณาจักรจะนำเสนอชื่อที่รวบรวมได้เบื้องต้นยื่นผ่านสถานทูตไทยในสหราชอาณาจักร
คณะผู้ประสานงานชั่วคราว
1. นฤมล ทับจุมพล, PhD Candidate,
2. กนกรัตน์ เลิศชูสกุล, PhD Candidate, London School of Economics and
3. ศราวุฒิ ประทุมราช, Lawyer /Human Rights Activist, Senior API Fellow, Asian Public Intellectual ,
4. Sirote Klampaiboon, PhD Candidate,
5. ปริยากร ปุสวิโร, PhD Candidate,