นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
จากกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้อำนวยการโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวจะมีการชุมนุมคัดค้านในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่เชียงใหม่นั้น
โดยนายปลอดประสพ กล่าวว่า ถามว่าค้านเพราะอะไร ทั้งนี้ไม่เห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีเหตุผลอะไรที่จะคัดค้านเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันประชุมคณะรัฐมนตรีจะไม่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม โดยต้องได้รับอนุญาตก่อนเท่านั้นจึงจะเข้าไปได้ หากมีการบุกรุกก็จะดำเนินการตามกฎหมาย
ด้าน นายชัยพันธ์ ประภาสะวัติ ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อสิทธิชุมชน และภาคีคนฮักเจียงใหม่ ได้เปิดเผยต่อ "ประชาไท" ว่า อยากจะบอกว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไม่ใช่เป็นของนายปลอดประสพ หรือเป็นของ พ.ต.ท.
"อีกทั้ง ในวันประชุม ครม.สัญจร ที่ไนท์ซาฟารี นั้น อาจจะมีทั้งคนที่อยากจะคัดค้าน ที่ได้รับผลกระทบต่อโครงการต่างๆ จากรัฐทั่วประเทศ รวมทั้งอาจจะมีคนที่สนับสนุนรัฐบาล หรือแม้กระทั่งคนที่จะเข้าไปขอเงินกับนายกรัฐมนตรี ที่มาจากที่ต่างๆ ซึ่งอาจไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มภาคีคนฮักเจียงใหม่ เพราะฉะนั้น คุณไม่มีสิทธิที่จะมาบอกว่า จะแจ้งจับประชาชนที่เข้าไปบุกรุกไนท์ซาฟารี แต่จริงๆ แล้ว ชาวบ้านน่าจะเป็นฝ่ายพูดมากกว่า"
นายชัยพันธ์ กล่าวอีกว่า รู้สึกเป็นห่วงรัฐบาลชุดนี้จะมีอายุสั้น หากยังมีผู้ช่วยรัฐมนตรีที่มีความคิดอย่างนี้อยู่ และเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้คงอยู่ไม่ได้นาน และที่สำคัญ ตนมองว่า การดำเนินงานของโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีนั้น ได้ทำถูกต้องหรือไม่ หรือเข้าข่ายผิดกฎหมายของอุทยานแห่งชาติที่เข้าไปใช้พื้นที่ป่าตรงนั้น โดยมีการทำลาย เพิกถอน และปลูกสิ่งก่อสร้างอย่างผิดขั้นตอนหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ตนกำลังเตรียมรวบรวมข้อมูลกันอยู่ เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง หากมีความผิดจริง ก็ถือว่า การประชุม ครม.สัญจร ในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีในครั้งนี้ เป็นการประชุมครม. ที่ผิดกฏหมาย" นายชัยพันธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายชัยพันธ์ ยังกล่าวถึงการเลือกปฏิบัติ ในกรณีที่มีการแจ้งจับชาวบ้านเจ้าของปางช้างซึ่งอยู่ติดกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ในข้อหาบุกรุกป่า แต่ไม่มีการดำเนินการเอาผิดโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ทั้งๆ ที่ ถือว่าเป็นบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เป็นจำนวนมากถึง 800 ไร่
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นับตั้งแต่เปิดให้เข้าชมจนถึงขณะนี้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไนท์ซาฟารีกว่า 1 ล้าน 3 แสนคน ร้อยละ 90 มีความชื่นชอบ โดยได้เริ่มเก็บบัตรค่าเข้าชมในนักท่องเที่ยวที่จองมาแล้ว 2 สัปดาห์ ได้เงินกว่า 4 ล้านบาท โดยจะเริ่มเก็บเงินค่าเข้าชมจริงตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2549 เป็นต้นไป ในขณะที่ทางกลุ่มภาคีคนฮักเจียงใหม่ กลับมีความเห็นกันว่า ข้อมูลตัวเลขที่นำมาเสนอนั้น เป็นเพียงการโปรโมตในช่วงเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมฟรีเท่านั้นเอง แต่หากมีการเก็บค่าเข้าชมจริง เชื่อว่า ยอดตัวเลขจะลดฮวบอย่างแน่นอน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)