ประกาศ เสรีไทย "49 "กูไม่เอาพันธนาการ FTA"

"ม.เที่ยงคืน" เปลื้องพันธนาการ FTA สู่เสรีชน เสนอคำประกาศเริ่ม "ขบวนการเสรีไทย 2549" ต่อสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยและสาธารณะ ในเวทีเสวนา "มองข้ามช็อต FTA ไทย-สหรัฐ แง่มุมที่ถูกละเลย" วันนี้ (13 ม.ค.)

 

ผศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ถือฤกษ์ดุศุกร์ 13 ตัดสัมพันธ์และไม่ยอมรับความชอบธรรมของรัฐในการเป็นตัวแทนประชาชนไปเจรจาเอฟทีเอ และประกาศจัดตั้งขบวนการเสรีไทย 2549 เสนอให้ประชาชนร่วมกันลงนามปฏิเสธสถานะความเป็นตัวแทนของรัฐบาลไทยในการทำข้อตกลงกับสหรัฐ เช่นเดียวกับที่ขบวนการเสรีไทยเคยปฏิเสธการประกาศสงครามต่อฝ่ายสัมพันธมิตรของรัฐบาลไทยที่นำโดย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เมื่อ พ.ศ.2488 และหากมีการลงนามเกิดขึ้น ประชาชนไทยก็จะไม่ยอมรับผลผูกพันในข้อตกลงดังกล่าว

 

ผศ.สมชาย กล่าวอีกว่า การแสดงเจตนารมณ์ไม่ยอมรับการเป็นตัวแทนของรัฐไทยดังกล่าว สามารถทำได้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเสรีไทยเกษตรกร เสรีไทยเรื่องยา หรือเสรีไทยอื่นๆ และค่อยมารวมกันในภายหลัง ส่วนทาง มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจะเปิดหน้าเว็บไซต์ให้ลงชื่อ ที่ www.midnightuniv.org

 

นอกจากนี้ ควรมีมาตรการตอบโต้กลุ่มนายทุนและนักการเมืองที่หาประโยชน์จากการทำเอฟทีเอ ด้วยการเลิกซื้อหรือใช้บริการสินค้าโดยเฉพาะของ 4 กลุ่มทุนหลักคือ กลุ่มทุนบริษัทมือถือดาวเทียม กลุ่มทุนอุตสาหกรรมเกษตร กลุ่มทุนอุตสาหกรรมรถยนต์ กลุ่มทุนสัมปทานโทรทัศน์

 

"คือประมาณว่า กูไม่เอามึงแล้ว เราต้องตอบโต้กลุ่มผู้ได้ผลประโยชน์ก่อน เช่น การไม่ซื้อสินค้าจาก 4 กลุ่มทุน ต้องตัด คือไม่เอามัน ไม่น่าจะยากในความเป็นจริง เช่น คนใช้ AIS ก็เลิกใช้ AIS แต่ก็ไม่รู้ว่าจะลำบากขนาดไหน เราต้องร่วมมือร่วมใจกัน"

 

ส่วนเหตุผลที่ทำให้ ผศ.สมชาย ออกมาปฏิเสธความเป็นตัวแทนของรัฐในการทำเอฟทีเอนั้นมาจากการที่รัฐปฏิเสธอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ 2540 ในมาตราที่ 224 รวมทั้งไม่ฟังความเห็นจากประชาชน ไม่มีการให้ข้อมูลแก่สาธารณะ ขาดความโปร่งใสและเจรจาไปด้วยท่าทีที่ลุกลี้ลุกลน ลับๆ ล่อๆ ไม่กล้าเผชิญคำถามของสาธารณะชนเหมือนคนที่กำลังทำความผิด

 

ในด้านเนื้อหา หากพิจารณาการทำเอฟทีเอกับออสเตรเลีย จีน นิวซีแลนด์ จะพบว่ามีกลุ่มทุน 4 กลุ่มดังที่กล่าวข้างต้นเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ แต่คนตัวเล็กๆ เช่น เกษตรกรปลูกหอม พืชผักเมืองหนาว โคนม โคเนื้อ กลุ่มผู้ติดเชื้อ กลับได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

 

ส่วนตอนนี้มีความพยายามเร่งรัดการทำเอฟทีเอกับสหรัฐด้านต่างๆ ที่กระทบกับประชาชนวงกว้าง แต่สำหรับธุรกิจโทรคมนาคมที่สถาบันทางวิชาการหลายแห่งสนับสนุนให้มีการเปิดเสรี นายกรัฐมนตรีกลับไม่นำมาเจรจาโดยไม่ให้เหตุผล คงรู้กันว่ากระทบกับนักการเมืองคนไหน

 

"จะเห็นว่าการกระทำในลักษณะนี้ คือการเอาประชาชนในระดับล่างของสังคมไปเซ่นสังเวยเพื่อแลกความร่ำรวยของกลุ่มนายทุนนักการเมืองที่ยึดครองอำนาจอยู่ การทำเอฟทีเอถือเป็น "อภิมหาโกงเชิงนโยบาย" ที่เลวร้าย เพราะเป็นการหาประโยชน์ใส่ตัวและพวกพ้องบนหายนะของคนยากคนจน" ผศ.สมชาย กล่าว  

 

ด้านนายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ จาก "FTA  WATCH" กล่าวในเชิงเห็นด้วยว่า ประกาศที่ไม่ขอผูกพันโดยประชาชนลงชื่อร่วมกัน หมายความว่า เรายินดีที่จะไม่รับผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการเจรจา ในขณะเดียวกันอย่าเอาข้อผูกมัดในการเจรจามาผูกมัดกับเรา ตรงนี้ไม่ใช่การประกาศตัดสัมพันธ์กับสหรัฐแต่เป็นการประกาศว่า ไม่อยู่ภายใต้ข้อผูกพันของเอฟทีเอที่รัฐบาลจะเซ็นสัญญา

 

ด้านนายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนแนวร่วมภาคประชาชนจาก 11 เครือข่ายที่ไปชุมนุมต่อต้านการเจรจาเอฟทีเอก็แสดงความเห็นด้วยและตอบรับแนวคิดดังกล่าวนี้เช่นกัน

 

"เราขอเรียกร้องให้หยุดการเจรจา FTA ที่ทางมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้เสนอประเด็นขึ้นมา คิดว่าน่าสนับสนุน คนไทยทุกคนควรแสดงจุดยืนที่จะไม่ยอมรับข้อผูกพันหรือผลกระทบใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการทำเขตการค้าเสรีไทยอเมริกา พี่น้องคนไทยน่าจะศึกษาเรื่องนี้และประกาศตัวตนออกมาว่าจะไม่ยอมรับการทำสัญญาที่จะมีผกระทบกับประชาชนแล้วไม่ผ่านกระบวนการทางกฎหมาย ไม่ฟังเสียงของภาคประชาชน"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท