ชาวตำบลปทุม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เผยผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาซึ่งเกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ้านเป็นที่ต้องการของตลาดสูงขึ้น ด้านคณะวิจัยโครงการวิจัยและพัฒนารูปแบบการจัดการท่องเที่ยวกลุ่มเครื่องปั้นดินเผา ทดลองการท่องเที่ยวเป็นครั้งแรก
ชุมชนตำบลปทุมเป็นชุมชนที่อยู่ชานเมือง มีทั้งหมด 12 หมู่บ้าน กระจายอยู่รอบๆ อ่างเก็บน้ำห้วยวังนอง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีทัศนียภาพสวยงาม ในอดีตชาวบ้านได้นำดินเหนียวซึ่งมีอยู่ในหมู่บ้านมาทำเครื่องปั้นดินเผา และต่อมาได้กลายเป็นอาชีพหลักของคนในชุมชนจำนวนมาก หลายครอบครัวได้หันมาเรียนรู้และประกอบอาชีพนี้มากขึ้น เป็นผลทำให้มีจำนวนเตาเผาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จากการสำรวจเมื่อปี พ.ศ.2540 มีผู้ทำอาชีพดังกล่าวจำนวนถึง 201 ราย ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ล้นตลาด ราคาสินค้าตกต่ำ การผลิตไม่มีคุณภาพ มีการแข่งขันและการตัดราคากัน นำไปสู่การลดลงของอาชีพดังกล่าว ต่อมาในปี พ.ศ. 2541 เหลือจำนวนผู้ประกอบอาชีพนี้เพียง 50 ราย ที่สามารถประคองตัวเองไม่ล้มเลิกกิจการในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจในขณะนั้น และในปี 2544 "โครงการการศึกษาการดำรงอยู่และการล่มสลายของอาชีพเครื่องปั้นดินเผาของชุมชนบ้านปากห้วยวังนอง" นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์เวช หกพันนา ได้ให้ความสนใจและพาคณะวิจัยลงพื้นที่ศึกษาถึงปัญหาของการทำเครื่องปั้นดินเผา จนเกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมแรงงานคนและเกิดการรวมกลุ่มกัน
ล่าสุดได้มีโครงการวิจัยและพัฒนารูปแบบการจัดการท่องเที่ยวกลุ่มเครื่องปั้นดินเผา เข้ามาศึกษาเรียนรู้วีถีชีวิตของชาวชุมชนปทุมเกี่ยวกับการทำเครื่องปั้นดินเผา โดยทำการทดลองใช้รูปแบบการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ตลอดจนส่งเสริมให้เยาวชนหันมาอนุรักษ์และให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากภูมิปัญญาของชุมชนบ้านเกิด
อาจารย์
"จากการสำรวจทำให้ทราบว่าชุมชนตำบลปทุมมีการยึดอาชีพทำเครื่องปั้นดินเผาเป็นอาชีพหลักและเยาวชนในชุมชนยังไม่ให้ความสำคัญและมองอาชีพดังกล่าวเป็นอาชีพที่ไม่ทันสมัย ทำให้ทางคณะวิจัยต้องเข้าไปศึกษาและใช้รูปแบบการท่องเที่ยวเป็นตัวเชื่อมให้ชุมชนได้ร่วมกันสนับสนุนการทำผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา เพื่อให้มีสินค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน ตลอดจนส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น และได้เลือกวันที่ 26 พฤศจิกายน 2548 ทดลองการท่องเที่ยวเป็นครั้งแรกที่ตำบลปทุม โดยฝากให้ทางจังหวัด กลุ่มวิจัย และผู้ที่อยู่ในแวดวงของการท่องเที่ยว ช่วยสนับสนุนและส่งเสริมภูมิปัญญาของชาวบ้าน เนื่องจากศักยภาพของคนในชุมชนไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนหรือทำให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายได้ หากขาดการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ" อาจารย์กาณจญา กล่าว
ด้านนาย
นอกจากนั้นนายบวร ยังได้กล่าวต่อไปว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ทางคณะวิจัยได้เข้ามาทดลองการท่องเที่ยวที่ตำบลปทุม ซึ่งในอนาคตคาดว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาของชาวบ้านจะเป็นที่รู้จัดเพิ่มขึ้น