นาย
สำหรับประเด็นที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษากระบวนการสรรหา กสช.ไม่ชอบด้วยกฎหมายและให้เพิกถอนทั้งกระบวนการนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ยังมีบางประเด็นที่ศาลปกครองกลางยังไม่ได้หยิบยกขึ้นมา จำเป็นต้องมีการวินิจฉัยให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ จึงต้องมีการอุทธรณ์ต่อไป และเมื่ออุทธรณ์แล้วจะมีกระบวนการสรรหาใหม่หรือไม่นั้น ในชั้นนี้ยังไม่จำเป็น แต่หากกระบวนการพิจารณาของศาลยืดยาว ก็อาจจะมีการเตรียมการสรรหาเพิ่มเติม
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า "ถ้ารัฐบาลไปชิงพูดตอนแรกว่า สำนักปลัดฯ จะอุทธรณ์ แล้วเกิดว่า คณะกรรมการสรรหาไม่อุทธรณ์ ก็จะทำให้เกิดความล่าช้า เหมือนกับว่าบอลอยู่ในเท้าคณะกรรมการสรรหาแล้วก็ต้องให้เขาเป็นคนคิดดู และไม่จำเป็นต้องมาคิดแทนรัฐบาล แต่สาเหตุที่รัฐบาลอุทธรณ์ เพราะได้เห็นคำวินิจฉัยเต็มฉบับของศาลปกครองที่ระบุว่า สำนักปลัดฯผิด รัฐบาลจึงจะไม่นิ่งเฉย"
ด้านการแก้ไขกฎหมายมาตรา 80 นั้น ที่นาย
อย่างไรก็ตาม นาย
นอกจากนี้ยังเปิดเผยด้วยว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเรื่องเคเบิลทีวีที่มีอยู่จำนวนมาก จึงขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนปัญหาวิทยุชุมชนวันนี้ไม่ได้มาขึ้นทะเบียนและติดป้ายว่า บ้านนี้มีวิทยุชุมชน การเข้าไปจับกุมก็เข้าไปยากลำบาก เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในชนบท
"ในวันนี้มีวิทยุชุมชนอีก 2,800 สถานี เคเบิลทีวี 700-800 สถานีไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเดือนละ 75 ราย ถือว่าเดือนละ 1 จังหวัด รัฐบาลจะใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าไปดูแล ซึ่งในการเข้าไปดูแลและจัดการนั้น ไม่ใช่เป็นการไล่จับดะ และปล่อยดะ โดยเราจะใช้หลักที่ว่า ถ้าเป็นการทำผิดในส่วนของเนื้อหาที่ไปทำให้เอกชนเสียหาย ละเมิดทรัพย์สินทางปัญหา หมิ่นประมาท ดูหมิ่น โฆษณาสินค้า ลามก อนาจารไม่ถูกกฎหมาย ถ้าความผิดที่กระทำเกี่ยวข้องกับกฎหมายใด ก็จะใช้กฎหมายนั้นลงโทษ ซึ่งขณะนี้ได้หารือกับ พล.ต.อ.
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)