ข่าวลือหนาหูในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า "อะควาเรียม" มูลค่า 900 ล้านบาท ในสวนสัตว์เชียงใหม่ ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง "ถล่ม" พร้อมกับการออกมาให้ข่าวของนาย
นายยงยุทธ ระบุด้วยว่า โดยเฉพาะในเรื่องสเปกของเหล็กและวัสดุที่นำมาใช้มีการรับน้ำหนักได้ตามเกณฑ์หรือไม่ เพราะอะควาเรียมแห่งนี้ต้องรองรับน้ำมากถึง 5,000 ตัน ถ้าโครงสร้างไม่แข็งแรงจะทำให้เกิดอันตรายอย่างมาก และยิ่งการพังระหว่างการก่อสร้าง ก็แสดงให้เห็นว่าโครงการนี้น่าเป็นห่วงมาก และเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติที่ต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด
ขณะที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันนี้ว่า ประเด็นในการสอบสวนเรื่องอะควาเรียม ในสวนสัตว์เชียงใหม่ถล่ม ตนได้ตั้งพิรุธไว้ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ความไม่โปร่งใสในการดำเนินการก่อสร้าง 2.การก่อสร้างไม่ถูกเทคนิค 3.ไม่ถูกนโยบาย เพราะโครงการนี้ ครม.อนุมัติงบให้ไป 300 ล้านบาท ทำไปทำมามีการเสนอของบมาเพิ่มเป็น 600 ล้านบาท ท้ายสุดของบมาอีกเป็น 800 ล้านบาท และจะเอาต่างประเทศมาร่วมลงทุน
"การกระทำแบบนี้แสดงให้เห็นว่าการทำโครงการแบบนี้ไม่มีอนาคตแน่นอน ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการสั่งให้หยุดก่อสร้างไปแล้วก่อนที่อาคารจะถล่ม เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องดึงต่างประเทศมาลงทุน แต่องค์การสวนสัตว์ดื้อ โดยอ้างว่านึกว่าให้ยกเลิกเรื่องการลงทุนกับต่างประเทศ แต่ให้ทางองค์การสวนสัตว์ลงทุนต่อไป จนท้ายสุดทำไปทำมาอาคารที่สร้างไปกว่า 40% ก็พัง สูญเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะจะสร้างต่อก็ไม่ได้ นอกจากทำใหม่ การที่ผมเข้ามารับทราบว่า โครงการนี้พังถล่มลงมา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เนื่องจากได้เดินทางไปตรวจงานในสวนสัตว์เชียงใหม่ ผ่านจุดที่ก่อสร้าง เห็นว่ามีการกั้นฉากปิดเอาไว้ จึงสงสัยว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ จึงเดินลงไปดู ก็พบว่าโครงการนี้มีปัญหาจริงๆ แต่ที่ผ่านมาทางสวนสัตว์เชียงใหม่ปกปิดปัญหาไว้" นายปลอดประสพ กล่าว
ทั้งนี้ ในรายละเอียดของข่าวนายปลอดประสพ ยังบอกด้วยว่า ไม่เพียงแต่การเข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริงเท่านั้น โครงการนี้จะต้องยุติการก่อสร้างทั้งหมดด้วย และจะมีการเปลี่ยนสถานที่ก่อสร้างไปไว้ที่บริเวณเชิงดอยสุเทพแทน และตนจะเป็นผู้เข้ามาบริหารจัดการโครงการนี้ทั้งหมด โดยจะเสนอขอใช้งบที่รัฐบาลอนุมัติให้องค์การสวนสัตว์ไว้เดิม 300 ล้านบาท เพื่อทำให้โครงการนี้เป็นอีกจุดขายหนึ่งของโครงการเชียงใหม่เวิลด์ ที่จะพัฒนาเชียงใหม่ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ที่จะมีการเชื่อมโยงจุดที่มีทั้งไนท์ซาฟารี และภายในบริเวณไม่ไกลก็มีจุดขายเรื่องอะควาเรียม
"พลเมืองเหนือ" สอบถามไปยังนายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2548 ซึ่งได้รับคำตอบว่า อะควาเรียมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ ไม่ได้ถล่มลงมาแต่อย่างใด แต่ขณะนี้ได้หยุดเรื่องงานก่อสร้างไว้ก่อน โดยขณะนี้มีคณะทำงานเข้ามาตรวจสอบรายละเอียดการก่อสร้างของโครงการทั้งหมด หลังจากที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างอะควาเรียมดังกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ และเห็นว่ารูปแบบการก่อสร้างหลาย ๆ ส่วนไม่มีความเหมาะสมและไม่ได้มาตรฐานเพียงพอ ซึ่งคณะทำงานชุดดังกล่าวจะเข้ามาดูว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแบบในส่วนใดบ้าง และอยากให้ทำให้ดีมีมาตรฐาน เช่นอาจจะต้องมีถ้ำขนาดใหญ่ด้วยหรือไม่
"ขณะนี้ผมยังไม่สามารถให้คำตอบได้ชัดเจนว่า โครงการก่อสร้างอะควาเรียมในสวนสัตว์จะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ รู้แต่ว่าผู้ใหญ่ต้องการให้เปลี่ยน แต่จะเปลี่ยนแบบใหม่แล้วเดินหน้าก่อสร้างต่อไป หรือเปลี่ยนไปทำที่อื่นผมก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ ตอนนี้การก่อสร้างคงหยุดไปก่อน เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับเปลี่ยนแบบ และไม่รู้ว่าโครงการจะทำต่อได้เมื่อไร แต่ยืนยันว่าอะควาเรียมไม่ได้ถล่ม" นายธนภัทร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นาย
ต้องยอมรับว่าหากอะควาเรียมภายในสวนสัตว์เชียงใหม่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมจริง ก็จะยิ่งเพิ่มจุดขายให้กับสวนสัตว์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันปัจจุบันสวนสัตว์เชียงใหม่ก็กำลังเร่งยกเครื่องครั้งใหญ่ เพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทั้งการจุดกระแสแพนด้ากับงาน "ปิติปรีดา แพนด้าคู่ขวัญ" ที่หวังดึงยอดเข้าชมช่วงไฮซีซั่น ขณะที่แผนในปี 2549 เตรียมเสริมทัพสัตว์ชนิดใหม่เพียบทั้งแกะภูเขา นกกระเรียนหงอนคู่ โคอาล่า พร้อมเปิดโฉมบริการโมโนเรลเต็มระบบ
ณ เวลานี้ ไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่ชัดเจนที่จะคลายความแคลงใจประชาชนได้ว่า เพราะเหตุใดจึงต้องมีคำสั่งให้หยุดการก่อสร้างอะควาเรียมในสวนสัตว์เชียงใหม่ ทั้งๆ ที่โครงการได้ดำเนินการไปแล้ว 20 - 30 % ยืนยันจากปากของ ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ ว่า อะควาเรียมไม่ได้ถล่ม แต่เรื่องมาตรฐานการก่อสร้างที่ไม่เหมาะสม ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร ก็ยากที่จะรู้ได้ โครงการนี้ใช่ว่าจู่ ๆ จะทำขึ้นมาง่าย ๆ เพราะรายละเอียดของโครงการต้องได้มีการพิจารณาอย่างครบถ้วนแล้วจากรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดของแบบก่อสร้าง บริษัทคู่สัญญาที่รับดำเนินการก่อสร้างเป็นใคร มีศักยภาพและความพร้อมแค่ไหน ไม่เช่นนั้นโครงการจะได้รับอนุมัติงบประมาณ 300 ล้านบาท ในเบื้องต้นของการเริ่มต้นก่อสร้างได้อย่างไร ขณะเดียวกันก็กำลังขอเงินเพิ่มเติมอีก 600 ล้านบาท เป็น 900 บาทสำหรับการดำเนินการก่อสร้างให้เป็นอะควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรัฐบาลเห็นชอบด้วย
เมื่อต้องหยุดก่อสร้างก็เท่ากับว่างบประมาณที่ดำเนินการไปแล้ว 20 - 30 % ต้องสูญเปล่า ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการนี้จะทำอย่างไรต่อไปเมื่อถูกยกเลิกสัญญา?
เหตุผลที่ว่าการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ทำให้โครงการต้องยุติ โดยจะเปลี่ยนสถานที่ก่อสร้างไปอยู่ในแถบเชิงดอยสุเทพแทน ให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับหลาย ๆ โครงการในโครงการเชียงใหม่เวิลด์ ในพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ ที่รัฐบาลต้องการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ขนาดใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งอะควาเรียมจะเป็นจุดขายหนึ่งของโครงการเชียงใหม่เวิลด์...เป็นถ้อยแถลงที่นายปลอดประสพ ลั่นวาจาไว้
และนี่คือเกมการเมืองบทแรกในการช่วงชิงอะควาเรียมมูลค่า 900 ล้านบาท เพื่อนำไปถมอภิมหาโปรเจ็กต์เชียงใหม่เวิลด์ เป็นการทึ้งจุดขายการท่องเที่ยวของโครงการเชียงใหม่เวิลด์ ที่กำลังเริ่มต้นและรุกคืบอย่างน่ากลัว และเกมต่อไปจะเป็นอะไร คงต้องเฝ้าติดตามดูแบบห้ามกระพริบตา
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)