เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ 17 ตุลาคม 2548 เวลา 17:58 น. รายงานว่า "บอร์ดบีโอไอ" อนุมัติลงทุน 15 โครงการใหญ่ มูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท พร้อมตั้ง "บุญคลี ปลั่งศิริ" นั่งประธานคณะอนุกรรมการฯ พิจารณาสิ่งจูงใจ เพื่อดึงนักลงทุนจากต่างประเทศให้มาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น โดยมีรายละเอียดว่า

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาสิ่งจูงใจในการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มเติม โดยให้นายบุญคลี ปลั่งศิริ ประธานกรรมการ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นประธาน ซึ่งคณะอนุกรรมการดังกล่าวจะพิจารณาสิ่งจูงใจที่จะดึงนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มเติม

จากปัจจุบันการส่งเสริมลดภาษีเครื่องจักรและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อาจจะไม่เป็นสิ่งจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมแปรรูปทางการเกษตร และอุตสาหกรรมแฟชั่น โดยคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวจะกลับไปพิจารณาสิ่งจูงใจภายใน 1 เดือนก่อนนำเสนอที่ประชุมบอร์ดบีโอไอชุดใหญ่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม จากการเดินทางไปโรดโชว์กับคณะนายกรัฐมนตรีในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มนักธุรกิจจากฝรั่งเศส อังกฤษ รัสเซีย และอีกหลายประเทศต่างให้ความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น แต่เห็นว่ามาตรการส่งเสริมการลงทุนของไทยยังไม่จูงใจเพียงพอ

จึงต้องมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาเพิ่มเติม และเชื่อว่าเมื่อแนวทางส่งเสริมการลงทุนมีสิ่งจูงใจเพิ่มเติม ก็เชื่อว่าภายใน 4-5 ปีข้างหน้าจะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนหลายแสนล้านบาทในประเทศไทยแน่นอน และประเทศไทยจะเป็นประตูการค้าและการลงทุนในกลุ่มภูมิภาคนี้อย่างไม่มีปัญหา

นายสมคิด กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนและได้รับการส่งเสริมการลงทุนเป็นเงินกว่า 561,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 50 ซึ่งในช่วงปี 2547 ใน 9 เดือน มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในไทยและได้รับการส่งเสริมเป็นเงิน 377,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังได้ให้บีโอไอไปสำรวจบุคลากรของบีโอไอในต่างประเทศที่มีความจำเป็นที่ต้องเพิ่มบุคลากรในต่างประเทศเพื่อช่วยส่งเสริมประชาสัมพันธ์นักลงทุนจากต่างประเทศที่สนใจมาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น เพราะเมื่อบุคลากรของบีโอไอมีเพียงพอ ก็จะสามารถให้ข้อมูลกับนักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนได้อย่างแน่นอน

นายสาธิต ศิริรังคมานนท์ เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า ทางบอร์ดบีโอไออนุมัติการส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้นจำนวน 15 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 40,580.4 ล้านบาท เช่น 1. กิจการผลิต FUEL INJECTION PUMP ของบริษัทสยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ได้รับส่งเสริมเพื่อขยายกิจการในการผลิตชิ้นส่วนในระบบ COMMON RAIL เงินลงทุน 932 ล้านบาท

 2. กิจการผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์สำหรับยานพาหนะ ของบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เงินลงทุน 1,819.6 ล้านบาท 3. กิจการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ (SOLAR CELLS) และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ (SOLAR CELL MODULES) ของบริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) เงินลงทุน 1,380 ล้านบาท โดยจะตั้งโรงงานอยู่ที่ จ. นครราชสีมา

4. กิจการผลิตเม็ดพลาสติกกรีไซเคิล ของบริษัท พี.อี.ที. พลัส จำกัด เงินลงทุน 983 ล้านบาท โดยจะทำการผลิตเม็ดพลาสติกกรีไซเคิล กำลังการผลิตปีละประมาณ 10,300 ตัน และจะจำหน่ายภายในประเทศทั้งสิ้น ตั้งโรงงานอยู่ที่เขตอุตสาหกรรม จ.ฉะเชิงเทรา 5. กิจการผลิตเม็ดพลาสติก ของบริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เงินลงทุน 4,484 ล้านบาท ตั้งโรงงานอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง 6. กิจการผลิต FATTY ALCOHOL ETHOXYLATE ของบริษัท ไทย อีทอกวีเลท จำกัด เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท ตั้งโรงงานอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมตะวันออก จ.ระยอง

7. กิจการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซหุงต้ม ของบริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เงินลงทุน 10,000 ล้านบาท ขอรับส่งเสริมขยายกิจการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดต่างๆ 28,500 บาร์เรล/วัน และก๊าซหุงต้ม 18,450 ตัน/วัน โดยจะตั้งโรงงานอยู่ที่เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ตามโครงการ จะจำหน่ายในประเทศทั้งสิ้น

8. กิจการผลิตกระดาษคราฟท์ ของบริษัท เอลีทคราฟท์เปเปอร์ จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนในประเภทกิจการผลิตกระดาษ เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,970 ล้านบาท ตั้งโรงงานที่ จ.สระแก้ว 9. กิจการผลิตผ้าถัก ของบริษัท รวยไทย ไฟเบอร์อินดัสทรี (ไทยแลนด์) จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 495 ล้านบาท 10. กิจการโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เงินลงทุนทั้งสิ้น 9,739 ล้านบาท 11. กิจการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ ของบริษัท ไฟฟ้าสุรินทร์ จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 995 ล้านบาท

12. กิจการขนส่งทางเรือ ของบริษัท ทอร์ เอนเนอร์ยี ชิปปิ้ง จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนประเภทกิจการขนส่งมวลชนและสินค้าขนาดใหญ่ในกิจการขนส่งทางเรือ เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท 13. กิจการขนส่งทางเรือ จำนวน 2 โครงการ ของบริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) ได้รับส่งเสริมการลงทุนในกิจการขนส่งมวลชนและสินค้าขนาดใหญ่ในกิจการขนส่งทางเรือ เงินลงทุนรวม 2โครงการ 2,303.4 ล้านบาท

14. กิจการส่งเสริม (ขยายกิจการ) ขนส่งทางอากาศ ของบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส) ได้รับส่งเสริมขยายกิจการ ในการเช่าเครื่องบินใหม่จากประเทศฝรั่งเศสเป็นเครื่องไอพ่นแบบ Airbus 320 ขนาด 164-200 ที่นั่ง จำนวน 2 ลำ หรือเครื่อง Boeing จากสหรัฐอเมริกา ในระยะเวลาเช่า 7 ปี เงินลงทุนทั้งสิ้น 3,479.4 ล้านบาท