Skip to main content
sharethis


ประชาไท - 13 ตุลาคม 48 กลุ่มคนร้ายกว่า 150 คน บุกโจมตีอาคารสำนักงานในเมืองนาลชิคของรัฐปกครองตนเองคาบาร์ดิโน-บัลคาเรีย ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศรัสเซีย ส่งผลให้กลุ่มมือปืนเสียชีวิต 50 คน ผู้บริสุทธิ์ถูกลูกหลงตายไปในที่เกิดเหตุอีกหลายสิบคน ขณะที่กลุ่มติดอาวุธเชเชนออกมาอ้างรับผิดชอบการโจมตีครั้งนี้


 


สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานว่า กลุ่มคนร้ายเริ่มปฏิบัติการโจมตีอาคารสำนักงานของรัฐหลายแห่งในเวลาเดียวกัน โดยเริ่มจากย่านเบลายา เรชกาในช่วงเช้าตรู่และพุ่งเป้าไปที่สำนักงานทางด้านความมั่นคง รวมถึงท่าอากาศยาน


 


อาร์เซน คานาโคฟผู้ว่าการสาธารณรัฐปกครองตนเองคาบาร์ดิโน-บัลคาเรีย ซึ่งเมืองนาลชิคที่เป็นจุดเกิดเหตุตั้งอยู่ เปิดเผยว่ากลุ่มคนร้ายพร้อมอาวุธประมาณ 150 คนได้โจมตีอาคารสำนักงานของรัฐฯในวันนี้ (13) ตำรวจและทหารระดมกำลังปราบปรามทำให้คนร้ายตาย 50 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกประมาณ 50 คนซึ่งถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว ขณะที่กลุ่มติดอาวุธเชเชนออกแถลงการณ์ทางเวบไซต์ว่าเป็นผู้รับผิดชอบในการโจมตีครั้งนี้ มีรายงานของทูตพิเศษจากส่วนกลางเผยด้วยว่า มีคนถูกจับเป็นตัวประกัน


         


 แหล่งข่าวทางด้านความั่นคงในพื้นที่ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิตาร์ทาสส์ด้วยว่า คนร้ายเตรียมวางแผนการปฏิบัติการครั้งนี้มาเป็นอย่างดีและบุกโจมตีป้อมตำรวจ สถานีตำรวจ และสำนักงานปราบปรามยาเสพย์ติดของรัฐทั่วทั้งเมือง และเกรงว่าอาจจะมีประชาชนถูกจับเป็นตัวประกัน


      


 เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้รถตระเวนไปทั่วทั้งบริเวณที่คาดว่าจะมีคนร้ายซ่อนอยู่ พร้อมทั้งประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ หรือให้หลบอยู่ในที่ปลอดภัย ในเบื้องต้นมีรายงานตำรวจเสียชีวิตจากการปะทะ 2 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลท้องถิ่นให้สัมภาษณ์วิทยุมอสโกว่าผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นคนในเครื่องแบบ


      


อนึ่งกลุ่มเชเชนนั้นเคยบุกยึดโรงเรียนหมายเลข 1 ในเมืองเบสลัน สาธารณรัฐนอร์ธ ออสเซเตีย ทางตอนใต้ของรัสเซีย เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2004 ซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรก โดยได้กวาดต้อนเด็กนักเรียนและผู้ปกครองราว 1,100 คนไปอยู่ในโรงยิมของโรงเรียน เพื่อใช้เป็นข้อต่อรองขอให้ทางการรัสเซียถอนทหารออกจากสาธารณรัฐเชชเนีย


      


 เหตุการณ์นี้สิ้นสุดลงด้วยการนองเลือดในอีก 2 วันถัดมา เมื่อเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องจากโรงยิม ทำให้กองกำลังพิเศษของรัสเซียตัดสินใจจู่โจมเข้าไปจนมีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 331 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ซึ่งตายไปจากระเบิด ลูกกระสุนปืน ขณะที่บางรายตายไปเพราะอดน้ำและอาหาร


 


.................................


เรียบเรียงจาก : ผู้จัดการออนไลน์ 13 ตุลาคม 2548

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net