ประชาไท-10 ต.ค. 48       "กอส." เปิดแนวรุกด้านข่าว ผนึกกำลัง ศูนย์ข่าวอิศรา และทีวีกีตอ หวังสร้างความจริงหลายมิติเพื่อเพิ่มความเข้าใจของคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายพิภพ ธงไชย หนึ่งในคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) กล่าวว่า ทางกอส. สนใจที่จะสื่อกับสังคมมากขึ้น โดยหลังจากได้รับความร่วมมือกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จนเกิดเป็นศูนย์ข่าวอิศราขึ้นมาแล้ว ตอนนี้กำลังออกแบบวิธีการสื่อสารกับสังคมขั้นต่อไป

นายพิภพ กล่าวต่อว่า ขั้นต่อไป กอส.จะเริ่มสร้างวัตถุดิบที่จะสามารถสื่อสารกับในพื้นที่ให้ได้มากขึ้น โดยอาจนำสิ่งที่ได้จากศูนย์ข่าวอิศรา หรือข้อมูลต่างๆ ของ กอส.ที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ มาแปลเป็นภาษามลายูและภาษาอังกฤษ เพื่อลงในเว็บไซต์ของ กอส. ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มต้นทำแล้ว

"ที่ต้องมีการแปลเป็นภาษามลายู เพราะคาดหวังว่า หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่เสนอข่าวเป็นภาษามลายูจะได้นำไปใช้ เพื่อที่จะทำให้คนในพื้นที่รู้ว่า สิ่งที่นักข่าวไปสัมภาษณ์เขานั้นถูกนำเสนอไปอย่างไร เพราะตอนนี้เขายังไม่รู้ ส่วนที่แปลเป็นภาษาอังกฤษด้วยก็เพราะต้องการสื่อสารให้ชาวต่างชาติได้รู้ข้อมูลที่รอบด้านมากขึ้นด้วย" นายพิภพ กล่าว

นายพิภพ กล่าวถึงโครงสร้างการสื่อสารกับสังคมของ กอส. ที่จะพัฒนาต่อไปว่า หลังจากการแปลข้อมูลที่มีเป็น 2 ภาษาดังกล่าวแล้ว จะพัฒนาให้เป็นวิทยุในลักษณะเดียวกับ บีบีซี และอาจมีการจัดเวทีสาธารณะตามมา ต่อไปหากมีศักยภาพเพียงพอ อาจพัฒนาไปสู่การตั้งช่องโทรทัศน์ด้วย

นายพิภพ บอกถึงความจำเป็นที่ กอส.จะต้องสื่อสารกับสังคมมากขึ้นว่า เป็นหน้าที่ที่ต้องทำความจริงทุกๆ ด้านให้ปรากฏ เพราะเชื่อว่า การที่สังคมสามารถรู้ข่าวจริงได้จะเป็นการเปลี่ยนทัศนคติ และนำไปสู่การปรับนโยบายการแก้ปัญหาที่ตรงกับความจริง

"ยกตัวอย่างจากประเทศญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวญี่ปุ่นจะรับรู้ข่าวเพียงด้านเดียวจากทางทหารหรือจักรพรรดิ ซึ่งเสนอข่าวดังกล่าวทำให้คิดว่ากองทัพเกรียงไกรมาตลอด แต่เมื่อรู้ความจริงในภายหลัง ก็ทำให้สาธารณะชนเคลื่อนตัวผลักดันจนรัฐบาลต้องปรับนโยบายตาม หากคนยังไม่รับรู้และเปลี่ยนทัศนคติในตอนนั้น รัฐบาลก็จะผลักนโยบายด้านเดียวต่อไป"

เมื่อถามว่ารัฐบาลกำลังทำ "ทีวีกีตอ"  ทาง กอส.วางแผนการทำงานด้านการสื่อร่วมกันหรือไม่ อย่างไร นายพิภพ ตอบว่า จะใช้โครงสร้างเดียวกับที่ศูนย์ข่างอิศราทำ คือจะประสานงานจากข้างนอก คืออาจจะมีข่าวหรือข้อมูลไปให้ ซึ่งผู้สื่อข่าวข้างในก็คงร่วมมือ เพราะบางอย่าง ทีมจาก "ทีวีกีตอ" อาจจะออกมาทำอะไรเองไม่สะดวก