Skip to main content
sharethis

จับเพิ่มอีก 2 คดีฆ่านาวิกฯ "แม่ทัพ 4" เผยพรุ่งนี้ออกหมายจับเพิ่มอย่างน้อย 4 คน "ธรรมรักษ์" เบรกมาเลย์ดึงอาเซียนแก้ปัญหาชายแดนใต้ พูดเสียงดังฟังชัด เรื่องภายในของไทย ชาติอื่นห้ามยุ่ง จับน้องชายกำนันคนดังเมืองยะลา ยิงรถพ่อค้าลองกอง


 


จับเพิ่มอีก2คดีตันหยงลิมอ


 


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 กันยายน 2548 ที่ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส พล.ท.ขวัญชาติ กล้าหาญ แม่ทัพภาค 4 พร้อมกับพล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้แถลงความคืบหน้าคดีฆ่า 2 นาวิกโยธิน ที่บ้านตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาสว่า เมื่อคืนวันที่ 25 กันยายน 2548 จับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ได้อีก 2 คน คือ นายมะกอเซ็ง อาแวกาจิ และนายการีมา ต่วนปูละ รวมผู้ต้องหาที่จับกุมได้แล้ว 4 คน จากที่ออกหมายจับไป 18 คน โดยในวันที่ 27 กันยายน 2548 จะรวบรวมพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากคุณหญิงแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ คาดว่าจะออกหมายจับได้อีกไม่ต่ำกว่า 4  คน เป็นผู้ชายล้วน


 


พล.ท.ขวัญชาติ กล่าวว่า ส่วนข่าวลือจากฝ่ายตรงข้าม มีเจ้าหน้าที่เข้าไปจะทำร้ายชาวบ้านตันหยงลิมอนั้น ไม่เป็นความจริง เป็นการเข้าไปทำงานและติดตามการเคลื่อนไหว แกะรอยกลุ่มคนตามหมายจับ และป้องกันมือที่สามฉวยโอกาสก่อเหตุ แล้วโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ใช่เข้าไปแก้แค้น


 


ต่อมา พล.ท.ขวัญชาติกับพล.ต.ท.อดุลย์ ได้เดินทางไปเป็นประธานการเข้ารายงานตัวของชาวบ้านจากอำเภอสุไหงโก-ลก 13 คน อำเภอรือเสาะ 15 คน อำเภอจะแนะ 1 คน อำเภอศรีสาคร 11 คน อำเภอสุไหงปาดี 16 คน อำเภอบาเจาะ 6 คน รวม 62 คน หนึ่งในจำนวนนี้ คือ นายนูรดีน บาโด มีคดียิงภารโรง โรงเรียนบ้านปารี และลอบวางระเบิดในอำเภอจะแนะหลายครั้ง จึงควบคุมตัวดำเนินคดี โดยจะพิจารณาให้ประกันตัวในภายหลัง


 


เช้าวันเดียวกัน พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก่อนเข้าร่วมประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติว่า กรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีท่าทีแข็งกร้าวต่อการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ให้เฉยๆ ไว้ดีกว่า คนติงก็ติงตลอดทั้งปี จะพูดอะไรก็ติง และเป็นไปได้ที่ผู้ต้องหาคดีทำร้าย 2 ทหารนาวิกโยธินจนเสียชีวิต ที่บ้านตันหยงลิมอบางส่วน อาจจะลักลอบข้ามชายแดนหลบหนีไปได้  เพราะชายแดนมันยาว แต่ก็พยายามดูแลการเข้าออกชายแดนอยู่แล้ว ส่วนสถิติการก่อเหตุในเดือนรอมฎอน ให้ถามเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงได้ เพราะมีการสรุปสถิติและความเคลื่อนไหวต่างๆ อยู่แล้ว สำหรับมาตรการต่างๆ จะปรับไปเรื่อยๆ ถ้าพูดตอนนี้ก็รู้กันหมด


 


เรื่องภายในชาติอื่นห้ามยุ่ง


 


พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวถึงข้อเสนอของมาเลเซียให้อาเซียนมาช่วยแก้ปัญหาภาคใต้ว่า ตนยืนยันมาตลอดเป็นเรื่องภายในของไทย ประเทศอื่นไม่ควรมายุ่ง ส่วนกรณีแกนนำกลุ่มพูโลออกมาเตือนว่า หากรัฐบาลไทยไม่เร่งเจรจาสันติภาพ เหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นนั้น ตนไม่สนใจอยู่แล้ว


 


พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมหน่วยงานด้ายความมั่นคงว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานกรณีนายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส มีคำสั่งปลดผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านตันหยงลิมอ ตำบลตันหยงลิมอ เพราะไม่ให้ข้อมูลกับทางราชการ เท่าที่รายงานเข้ามามีเพียงว่ากำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ให้ความร่วมมือดีเยี่ยม


 


นายสุจริต ปัจฉิมนันท์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เป็นอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดทำได้ หากพบว่าบุคคลผู้นั้นไม่ให้ความร่วมมือกับฝ่ายปกครอง ที่ผ่านมา เคยทำมาแล้ว เมื่อตอนปราบปรามยาเสพติด แต่ต้องดูกาละเทศะ ความเหมาะสม และพิจารณาให้รอบคอบเป็นรายกรณี เพราะอยู่ดีๆ ไปปลดคงทำไม่ได้ และคงไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่มากนัก เพราะส่วนใหญ่ชาวบ้านให้ความร่วมมือกับทางการอยู่แล้ว


 


จับน้องชายกำนันยะลา


 


เมื่อเวลา 7.30 น. วันที่ 26 กันยายน 2548 พ.ต.ท.สุคน สุฉันทบุตร รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอรามัน จังหวัดยะลา พร้อมกับชุดสายตรวจ ได้ตรวจค้นและจับกุมนายอับดุลเลาะ สะมะอิ อายุ 31 ปี ชาวบ้านบ้านกาลูปัง ตำบลกาลูปัง อำเภอรามัน น้องชายของกำนันในจังหวัดยะลา โดยแจ้งข้อหาพยายามฆ่า นายดุลรอหะ ดือราแม อายุ 43 อยู่บ้านเลขที่ 146 หมู่ที่ 7 ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส และนายสายุตี ฮาเร๊ะ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ที่ 10 ตำบลจะแนะ


 


เนื่องจาก เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 25 กันยายน 2548 ขณะนายดุลรอหะ และนายสายุตี กำลังขับรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า สีแดง ทะเบียน บค. 8124 ปัตตานี กลับจากขายลองกองที่ตลาดกลางคืนบ้านมลายูบางกอก ในเขตเทศบาลนครยะลา มาตามถนนสายรามัน - ยะลา มาถึงบริเวณโค้งแม่ชี หมู่ที่ 3 ตำบลกายูบอเกาะ อำเภอรามัน มีชาย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ โดยคนซ้อนท้ายถือปืนยาว นายดุลรอหะจึงเร่งความเร็วรถหนี ขณะเดียวกันคนซ้อนท้ายได้ใช้ปืนยิงมายังรถ 1 นัด กระสุนถูกบริเวณกันชนหน้า


 


นายดุลรอหะ จึงขับรถเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอรามัน ต่อมา ตำรวจได้จับกุมนายอับดุลเลาะ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ยิงเพราะเห็นว่ารถคันดังกล่าว เจตนาขับมาชนตน จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตัว


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net