สถานีวิทยุบีบีซีภาคภาษาไทย รายงานข่าวภาคเช้า วันที่ 22 กันยายน 2548 ว่า เหตุการณ์ 2 ทหารถูกฆ่าที่บ้านตันหยงลิมอร์ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ทำให้กระทรวงการต่างประเทศรีบทำสรุปถ้อยแถลงของคณะกรรมการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกมาเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งแสดงชัดเจนว่า ทางการเห็นความจำเป็นที่จะต้องทำความกระจ่างในเรื่องนี้กับชาวต่างชาติ

กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้สรุปว่า เหตุการณ์นี้เป็นการสร้างสถานการณ์ ข้อมูลที่ออกมาทำให้คนจำนวนไม่น้อยเห็นว่า กรณีนี้มีการวางแผนไว้ก่อน

ผู้ใกล้ชิดกับนายทหารที่เสียชีวิตบอกกับบีบีซีว่า พวกเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับหมู่บ้านตันหยงลิมอร์ เพราะทำงานมวลชนสัมพันธ์มานาน ชาวบ้านน่าจะรู้ได้ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงใส่ร้านน้ำชา

นายเจ๊ะอามิง โต๊ะตันหยง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ บอกบีบีซีว่า ผู้เกี่ยวข้องต้องตั้งสติ ไม่เอาเหตุการณ์สองกรณีนี้มาปนกัน

"เรื่องแต่ละเรื่องต้องแก้แต่ละเรื่องไป และหาคำตอบให้กับสังคม ให้กับประชาชนให้ได้ว่าจริงหรือไม่อย่างไร ถ้าหากไม่จริงก็ต้องมีคำตอบให้ได้ว่า ไม่จริงอย่างไร การผูกพันประเด็นไปเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด ไม่สามารถที่จะนำแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้" นายเจ๊ะอามิงกล่าว

ด้านอาจารย์ชิดชนก ราฮิมมูลา นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า บรรยากาศความไม่ไว้วางใจของชาวบ้านต่อทางการ ทำให้ในหมู่บ้านเองก็มองเหตุการณ์นี้สองด้าน

อาจารย์ชิดชนก บอกบีบีซีว่า ชาวบ้านบางกลุ่มมองนายทหารทั้งสองต้องเกี่ยวข้องกับการทำร้ายประชาชน เพราะถ้าไม่เกี่ยวข้อง ทำไมถึงไปอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ชาวบ้านอีกฝ่ายก็มองว่า ไม่เกี่ยวข้อง การไปอยู่ในที่เกิดเหตุเป็นเพียงเหตุบังเอิญเท่านั้น

อาจารย์ชิดชนกบอกว่า เหตุการณ์ตันหยงลิมอร์ แสดงว่าความพยายามแก้ปัญหาภาคใต้โดยสันติ ยังไม่ได้ผลเท่าที่ทุกคนคาดหวัง

"สันติวิธียังเป็นเรื่องที่ห่างไกลมากเล ยในเหตุการณ์เฉพาะหน้าของทุกฝ่าย ไม่แต่เฉพาะฝ่ายรัฐฝ่ายเดียวที่ใช้ความรุนแรง และไม่เอาสันติวิธีมาใช้ เมื่อเผชิญเหตุการณ์เฉพาะหน้า ในหมู่ของประชาชนก็มีปฏิกิริยาตอบโต้ที่ออกมาค่อนข้างรุนแรงเช่นกัน"

นักวิชาการผู้นี้บอกว่า เหตุการณ์นี้แม้อาจจะไม่ทำให้ชาวมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องอยู่โดดเดี่ยวในหมู่ตนเอง แต่สังคมไทยทั่วไปที่อยู่นอก 3 จังหวัดนี้ จะมอง 3 จังหวัดภาคใต้ในทางที่ไม่ดี

ที่มา : http://www.bbc.co.uk/thai/news/story/2005/09/050922_2330g210905.shtml