ประชาไท6 ก.ย. 48 ครม.มีมติร่วมมือกับศูนย์เตรียมรับภัยพิบัติเอเชีย และแผนดำเนินการจัดตั้งหอเตือนภัยริมชายหาด สร้างเครือข่ายวิทยุครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง เชื่อทันครบรอบ 1 ปี 26 ธ.ค.นี้
หลังประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีในการอนุมัติตามข้อเสนอของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โดยนายสุรนันทร์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องนี้ และความตกลงเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนสำหรับการจัดการเตือนภัยซึนามิ
น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า นอกเหนือจัดตั้งหอเตือนภัยบริเวณริมชายหาด และหอกระจายข่าวในชุมชนแล้ว จะมีอีกหน่วยงานหนึ่ง ชื่อว่า
"สำหรับเรื่องเกี่ยวกับกองทุนที่เรียกว่า Tsunami Regional Truss Fund กองทุนเพื่อจัดตั้งระบบเตือนภัยซึนามิในมหาสมุทรอินเดีย และเอเชียตะวันออก ซึ่งวันนี้ทางคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบร่างความตกลงระหว่างคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก หรือ UNS Cap กับรัฐบาลไทย เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนโดยสมัครใจสำหรับการจัดการเตือนภัยซึนามิล่วงหน้าในมหาสมุทรอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" น.พ.สุรพงษ์ กล่าว
นอกจากนี้ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้จะมีการลงนามเรื่องร่างความตกลงระหว่าง UNS Cap กับรัฐบาลไทย ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 410 ล้านบาท จากงบกลาง เพื่อเป็นเงินในส่วนของประเทศไทยที่ใช้สมทบเป็นเงินตั้งต้นของกองทุน
ทั้งนี้ ในร่างความตกลงดังกล่าวมีรายละเอียดที่สำคัญๆ เช่น ในฐานะที่ไทยเป็นผู้บริจาคเงินตั้งต้นกองทุน จะทำให้ไทยมีสถานะเป็นสมาชิกตลอดไป และส่วนของ ADPC มีสถานที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ถือว่าเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ไทยสนับสนุนให้มีบทบาทนำในการจัดตั้งระบบเตือนภัยซึนามิในมหาสมุทรอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะเดียวกันในส่วนของประเทศไทยคือ ศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ นาย
ทั้งนี้ ครม.ได้มีมติอนุมัติงบประมาณ เป็นงบกลางประจำปี 2549 ตามแผนปฏิบัติการประจำปี 2549 ของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ในวงเงินทั้งสิ้นกว่า 229 ล้านบาท
นายดนุพร กล่าวต่อไปว่า "รัฐบาลให้ความสำคัญมากกับการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่เคยประสบภัย นั่นคือ เรื่องการเตือนภัยจะแจ้งให้เขาทราบอย่างไร โดยท่าน
สุรนันทน์ ได้เสนอให้สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเชื่อมต่อสัญญาณกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติและให้สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเป็นแม่ข่ายในการเตือนภัยทางระบบวิทยุกระ
จายเสียงและระบบทีวีพูล ให้ดำเนินการครอบคลุมสถานีโทรทัศน์ทุกแห่ง โดยเฉพาะทีวีช่อง 11 และระบบเคเบิลทีวีทั้งหมด"
นอกจากนี้รัฐบาลยังเร่งการประชาสัมพันธ์ การจัดทำป้ายสื่อความหมายและจัดหลักสูตรฝึกอบรมและมีการดูงานให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงให้มีเรื่องซึนามิบรรจุไปในหลักสูตรของโรงเรียนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้เสนอว่าโครงการต่างๆ ควรจัดทำให้เสร็จก่อนวันที่ 26 ธ.ค.นี้ เนื่องจากจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมงานรำลึกเหตุการณ์ครบรอบ 1 ปีซึนามิ ซึ่งประเทศไทยต้องแสดงความพร้อมในจุดนี้
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า น่าจะมีการจัดตั้งระบบความสัมพันธ์ในท้องถิ่น หรือหอกระจายข่าวตามจุดต่างๆ เพราะหากว่า ระะบบเตือนภัยได้แจ้งให้คนชายหาดทราบ ก็ต้องมีระบบในท้องถิ่นเพื่อให้ชาวบ้านสามารถรู้ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)