เป็นเรื่องที่ไม่บ่อยนักที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะออกมาให้สัมภาษณ์ถึง ประเด็นปัญหาเชิงสังคม เพราะเป็นที่ทราบกันว่า แนวทางหลัก ๆ ของรัฐบาลไทยรักไทยที่โดดเด่นในช่วง 4 ปีแรกคือ เรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาเชิงสังคมเรื่องเดียวที่เน้นคือ การปราบปรามยาเสพติด |
จนถึงรัฐบาลทักษิณ 2 ก็ยังดูเหมือนว่า ภาพรวมในการเอาใจใส่ปัญหาทางด้านสังคมก็ยังเป็นรองปัญหาส่วนอื่น ๆ
แต่ระยะสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวปัญหาเชิงสังคมเป็นประเด็นใหญ่ระดับที่ รายการเล่าข่าวแทบทุกช่องหยิบมานำเสนอจนกลายเป็นกระแสใหญ่ขึ้นมา
เริ่มจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พูดเรื่องที่ได้ดูรายการทีวี. หลุมดำ ของค่ายทีวี.บูรพา ตอนชีวิตเด็กสาวในแก๊งค์มอเตอร์ไซด์ ที่สามารถจะเปลี่ยนคู่นอนกันง่าย ๆ โดยหยิบเอาศัพท์ของน้องอุ๊งอิ๊ง One-night stand มาอธิบาย
เรื่องนี้เป็นข่าวในสื่อระยะวัน-สองวัน
ติดตามมาด้วยไอเดียของ รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) นาย วัฒนา เมืองสุข หลายเรื่องต่อเนื่องกันจนยึดพื้นที่ข่าวได้ตอลดทั้งสัปดาห์ เริ่มจาก การยกถนนให้แก๊งค์ซิ่ง ติดตามมาด้วย การเคอร์ฟิวเด็ก ๆ ต่ำกว่า 18 ปี ไม่ให้ออกจากบ้านหลัง4ทุ่ม ถึงตี 4 และ สุดท้าย
โครงการฝากเลี้ยง หากแม่ไม่พร้อม เพื่อแก้ปัญหาการทิ้งเด็กในที่สาธารณะ
บังเอิญที่ ข่าวฝากเลี้ยงทารกที่กำลังฮือฮาในส่วนกลาง มาตรงกับจังหวะ เด็กสาวอายุแค่ 15 แท้งลูกในห้องน้ำกลางเมืองเชียงใหม่ โชคดีที่เพื่อน ๆ นักเรียนอยู่ในห้องพักด้วยกันผิดสังเกตจึงพังประตูเข้าไปช่วยไว้ทัน
แต่นั่นก็ทำให้ชื่อของ เมืองเชียงใหม่ เป็นประเด็นร้อนให้กับสื่อมวลชนหลายแขนงทำสกู๊ปต่อเนื่อง ระบุว่า
เชียงใหม่มีปัญหาเรื่องวัยรุ่นมั่วเซ็กส์มากขึ้น
สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ทำสกู๊ปข่าวเรื่องนี้ และเลือกภาพอินเสิร์ตประกอบข่าวจาก ซี.ดี.แอบถ่ายชื่อดัง น้ำตกห้วยแก้ว ที่มีเด็กนักเรียนชาย-หญิง พลอดรักกันหลายคู่ และแทบทั้งหมดอยู่ในชุดนักเรียนทั้งม.ต้น ม.ปลาย ซึ่งเคยเป็นข่าวใหญ่มาก่อนหน้านี้
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเสียหน้าของคนเชียงใหม่เลย !
เพราะสังคมนี้รับรู้กันอยู่ตลอดมาว่า สังคมเมืองเชียงใหม่ ที่ว่ากันว่า เจริญด้วยวัตถุแสงสีเป็นอันดับสองของประเทศได้ซ่อนความฟอนเฟะเอาไว้ขนาดไหน
และยิ่งเป็นการดีเสียด้วยซ้ำ ที่คนระดับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี พม. จะออกมาแสดงความเป็นห่วง และ ผุดไอเดียรายวันเพื่อจะแก้ปัญหาเชิงสังคม
นั่นเพราะรัฐบาลไทยรักไทยไม่ค่อยมีภาพลักษณ์ที่เอาจริงจังต่อปัญหาเชิงสังคมเท่ากับปัญหาเศรษฐกิจ-นานๆครั้งพูดออกมาบ้าง ขยับทำบ้างแม้จะเป็นไอเดียที่ถูกสังคมต้าน ก็ยังดีกว่าการเงียบเป็นเป่าสากเฉกเมื่อ 4 ปีแรกของการทำงาน
ปัญหาทุกเรื่องที่กล่าวมา แก๊งค์ซิ่ง, เด็กสาวติดท้ายรถยอมมีเพศสัมพันธ์แบบชั่วคราวกับเด็กหนุ่มที่แข่งชนะ, ปัญหาเด็กสาวท้องในวัยเรียน, ปัญหาการทิ้งทารก, ปัญหาค่านิยมเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศแบบ One-night stand ฯลฯ ทั้งหมดเป็นเรื่องเดียวกัน และไม่ได้เกิดในกรุงเทพฯที่เดียว
กรุงเทพฯ มีอะไร เชียงใหม่มีหมด !!
กรุงเทพฯเลวอย่างไร เชียงใหม่ก็มีเลวอย่างนั้น !!!
เพราะเส้นทางทุนนิยมที่ประเทศไทยเดินอยู่นี้
ไม่ได้มีกระบวนการสร้างเกราะคุ้มครองหรือชะลอปัญหาอันเกิดจากค่านิยมใช้เงิน-วัตถุ ความอยากได้ใคร่มี อย่างจริงจัง
แม้กระทั้งแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงที่ทรงพระราชทานมาก็ไม่ได้ถูกนำไปใช้ปฏิบัติจริง กรอบคิด-นโยบายพัฒนาประเทศและการแก้ปัญหาใหญ่ๆ มักจะจำกัดอยู่ที่การใช้เงินแก้เป็นลำดับแรก เช่น
ปัญหาสามจังหวัดภาคใต้ในช่วงแรกก็บอกว่าเป็นเพราะความยากจนและจะต้องทุ่มเงินเนรมิตสันติสุข
ซึ่งแท้จริงแล้วการใช้เงินหรือเศรษฐกิจนำไม่ได้เป็นยาสารพัดนึกแต่อย่างใด
มีเรื่องราวของชีวิตจริงนับพัน ๆ เรื่องที่เกิดในสังคมเมืองเชียงใหม่ สะท้อนปัญหาเรื่องค่านิยมของเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหาทางเพศ
ซึ่งเรื่องแบบนี้ขายได้ทุกครั้งไปทันทีที่มีเหตุ
เรื่องของไก่ (นามสมมติ) เด็กสาวร่างสูงเพรียว หน้าตาดี จากอำเภอรอบนอกอำเภอหนึ่งของเชียงใหม่ ปัจจุบันศึกษาอยู่ปี 4 สถาบันอุดมศึกษาที่มีชื่อของรัฐ ที่ใช้เวลาแค่ 3 ปีเศษในตัวเมืองในฐานะ พนักงานเชียร์เบียร์ /เหล้าหรือ พีจี. สังกัดค่ายเหล้ายักษ์ใหญ่ เล่าว่า เธอมาจากครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ
แต่วันนี้เธอมีรถยนต์เก๋งมือสองเป็นของตัวเองตั้งแต่ยังไม่จบ แค่ทำงานเชียร์เหล้าทุกคืนหารายได้เรียนโดยไม่ต้องพึ่งเงินทางบ้าน ด้วยเส้นทางสายกลางคืนของเธอทำให้รู้เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นกับเด็กสาววัยใกล้เคียงกับเธอ
พีจี. ที่สามารถทำยอดขายได้ทะลุเป้า จะได้เงินพิเศษ ซึ่งด้วยประสบการณ์ออดอ้อนของเธอ มีลูกค้าหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ขาประจำมากพอที่ทำให้เธอทำยอดทะลุเป้าทุกเดือน - เธอไม่บอกว่าต้องมีอะไรเป็นพิเศษกับลูกค้าหรือไม่ -ไม่จำเป็น สิ่งที่สำคัญกว่าคือเธอกำลังจะจบการศึกษา แต่คงสามารถมากินเงินเดือนปริญญาตรีปกติในอัตราเชียงใหม่ได้ เพราะอย่างเก่งก็แค่หมื่นบาท แต่สำหรับเธอนั้นเงินหมื่นเธอหาได้ตั้งแต่ปีหนึ่ง
เธอบอกว่า เงินรายได้เกือบสองหมื่นบาทของเธอนั้น เป็นแค่ น้ำจิ้ม
เพราะเพื่อนของเธอ ทำอาชีพพิเศษที่เรียกว่า สาวไซด์ไลน์ พูดตรง ๆ ก็คือ โสเภณีในเครื่องแบบทำงานตามใจฉัน สามารถทำเงินได้เดือนละถึง 2 แสนบาท - ตัวเลขนี้คือคนที่ทำเป็นล่ำเป็นสัน ซึ่งรายได้ของคนอื่น ๆ ก็คงจะลดลงมาตามสัดส่วนของความขยัน
เชียงใหม่ เป็นเมืองจุดหมายปลายทางที่ทั้งคนทำงานมาประชุมสัมมนาและนักท่องเที่ยวจำนวนมากในแต่ละปี เธอเชื่อว่า ร้านอาหารที่เป็นร้านเหล้าไม่น้อยกว่า 70% จะต้องมีเบอร์โทรศัพท์พิเศษเพื่อเรียกหาน้อง ๆ ไซด์ไลน์ให้ลูกค้า หรืออย่างน้อยต้องมีคนไปติดต่อให้เบอร์อย่างว่าเอาไว้
ส่วนโรงแรมไม่ต้องพูดถึงเพราะพนักงานโรงแรมจะมีเบอร์พิเศษเหล่านี้เอาไว้พร้อม เธอไม่รู้หรอกว่ามีมากแค่ไหน เอาแค่เพื่อน ๆ และเพื่อนของเพื่อนที่เธอรู้จักก็มีไม่น้อยกว่า 30 คนเข้าไปแล้ว ทั้งหมดยังเรียนอยู่
บ้างอยู่ในสถาบันอุดมศึกษา บ้างเรียนพาณิชย์
ส่วน เอ. คนทำงานหนุ่มน้อยเพิ่งจบบอกว่า เพื่อนมาจากกรุงเทพฯ บอกให้ช่วยหาน้อง ๆ ชั่วคราว เขาก็เลยสอบถามจากรุ่นพี่ เอาเบอร์เอเยนต์ติดต่อให้ แล้วบอกให้ไปรับน้อง ๆ 3 คนที่จุดนัดหมายย่านวัดเกตุ ด้วยราคาชั่วคราว 2,000 บาท /คน
" เชื่อมั้ยครับพี่ ตอนเอารถไปจอดเทียบผมยังตกใจเลย ทำไมเด็กอย่างนี้ เพื่อผมยังแกล้งแซวเลยว่า หย่านมหรือยัง สรุปว่า เพิ่งจบม.3 มา ตอนนี้เรียนพาณิชย์ปีหนึ่ง"
วงการคนกลางคืนเมืองเชียงใหม่รับรู้กันมานานแล้วว่า สาวไซด์ไลน์เมืองเชียงใหม่ไม่มีวันหมด เพราะทุกปีจะมีเด็กสาวหน้าใหม่จากรอบนอกเข้ามาเรียนหนังสือในตัวเมือง และก็พบเห็นสิ่งแวดล้อมใหม่ของเมืองที่มุ่งเติบโตทางวัตถุ
คนที่รู้เรื่องคนหนึ่งบอกว่า เด็กมีหลายแบบ แบบที่มากันเป็นกลุ่มเพื่อให้แขกเลือกที่ร้านอาหาร มานั่งคุยที่โต๊ะอาหารแล้วค่อยไปเที่ยวหรือไปจบกิจกรรม ถ้าแขกไม่พอใจขอแค่ค่าน้ำมันรถกลับหอ แต่บางคนปฏิเสธไม่ออกมานั่งข้างนอก เธอจะไปพบที่ห้องในโรงแรมเท่านั้น
"มีแขกผู้ใหญ่มาที่ร้าน เราก็เรียกมาสี่ห้าคน ยังเรียนกันอยู่ทั้งนั้น แขกผู้ใหญ่คนนี้เรียนวปรอ. มากับคณะ เป็นข้าราชการหน่วยไหนไม่ทราบแต่รวยมาก ทิปเด็ก ๆ ทีเป็นพัน เรียกมาแจกทีละคนเลย" เอื้อง
เจ้าของร้านอาหารกลางคืนย่านห้วยแก้ว เล่าให้ฟัง
สาวไซด์ไลน์ สาวเชียร์เบียร์ และ สาวท้ายรถซิ่ง หรือแม้กระทั่งสาวไซด์ไลน์ จำนวนหนึ่ง/เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวทางเพศที่สังคมมักจะฮือฮาทุกครั้งไปที่มีข่าวขึ้นมา พวกเธอสามารถที่จะอยู่ในข่าวว่าด้วยปัญหา สวิงกิ้ง หรือการเปลี่ยนคู่ชั่วคราว ปัญหาเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่พอใจแค่คืนเดียวแล้วต่างคนต่างไป หรือ one-night stand
อาจเพราะพวกเธอส่วนหนึ่งผ่านการเสียความบริสุทธิ์มาก่อน เห็นว่า สังคมที่แวดล้อมเธออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน สั่งสอนกล่อมเกลา (Socialization) ว่านี่เป็นเรื่องของความพอใจ เป็นเสรีภาพทางเพศของคนยุคใหม่
เธอบางคนต้องทำงานในฐานะสาวไซด์ไลน์ซึ่งเลือกมากไม่ได้ เมื่อมีโอกาสเป็นนักเที่ยวราตรีเพื่อผ่อนคลาย เธอจึงอยากจะเป็นฝ่ายเลือกบ้าง (มิได้เชียวหรือ)
ราตรีเชียงใหม่ในวันนี้ ไม่ได้มีสีสันน้อยกว่าย่านอาร์ซีเอ.ที่โด่งดังของเมืองหลวงเลย บางคืนอาจจะได้พบว่า เด็กสาวมากันสองสามคนเพื่อมาเที่ยวเตร่ผ่อนคลาย และขออนุญาตเพื่อนแยกทางไม่กลับด้วยกันเพราะบังเอิญเจอหนุ่มหน้าตาดีที่ถูกใจ
และวันดีคืนดี เธอบางคน อาจจะเป็นข่าวหน้า 1 ในหนังสือพิมพ์หัวสี และถูกนักเล่าข่าวในรายการทีวี. หยิบมาพูดซ้ำ หากปะเหมาะเคราะห์ร้าย เกิดท้องและแท้งในห้องน้ำ อย่างกรณีเด็กสาว 15 เมื่อไม่กี่วันก่อน
และในวันดีคืนดีนั้น ก็อาจจะได้เห็นข่าวรัฐมนตรีเสนอไอเดีย แก้ปัญหาสังคมฟอนเฟะกันอีกรอบ !
one-night stand
noun {C}
1. a. A performance by a traveling musical or dramatic performer or group in one place on one night only.b. The place at which such a performance is given. 2. Slang A sexual encounter that is limited to only one occasion.
one-night stand เป็นศัพท์แสลงที่ตะวันตกใช้กันมานานแล้ว หมายถึง การจับคู่กันเพื่อมีเพศสัมพันธ์ตามความพอใจแบบชั่วคราว หรือ ชั่วคืน แล้วก็แยกย้ายกันไปโดยไม่มีพันธะผูกพัน เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดเสรีภาพทางเพศของชาวตะวันตก มีที่มาจาก การแสดงโชว์ หรือ คณะตลก/คณะละครในยุคก่อน
ที่มักจะเร่ไปเปิดแสดงตามสถานที่ต่าง ๆ แค่คืนเดียวแล้วก็เดินทางต่อ ศัพท์คำนี้ถูกตอกย้ำให้โลกรับรู้กันมากขึ้นจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง one night stand เมื่อปี 1977 นำแสดงโดย เวสลีย์ สไนป์ และ นาตาสช่า คินสกี้
โครงการความร่วมมือด้านข่าวภูมิภาคพลเมืองเหนือ-ประชาไท
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)