Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2548 น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมร่วมอย่างไม่เป็นทางการระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย กับ นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยให้นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยว 2 ประเทศ เป็นแพ็คเกจเดียวกัน เช่น นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเที่ยวไทย ก็ส่งเสริมให้ไปเที่ยวต่อสิงคโปร์ด้วย และจะตรวจวีซ่าร่วมกัน เมื่อขอวีซ่าของประเทศหนึ่ง ก็สามารถเดินทางต่อไปยังอีกประเทศได้ รวมทั้งจะใช้เครือข่ายการออกวีซ่าประเทศต่างๆ ร่วมกัน นอกจากนี้ มีการหารือถึงความร่วมมือด้านการศึกษา เพื่อแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีทางการศึกษาและองค์ความรู้ระหว่างกันด้วย


 


น.พ.สุรพงษ์ แถลงต่อไปว่า นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันถึงการดูแลความปลอดภัยและความมั่นคงในช่องแคบมะละกา ซึ่งในส่วนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ได้เห็นชอบในหลักการ ส่วนรายละเอียดจะมีการเจรจากันต่อไป โดยทั้ง 2 ประเทศ ได้ลงนามร่วมกันในข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อต่อต้านการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธในเอเชีย มีนายกันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ลงนามในฐานะรัฐบาลไทย ข้อตกลงนี้จะมีเรื่องของศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็น sharing information centre ซึ่งจะจัดตั้งที่สิงคโปร์ด้วย


 


น.พ.สุรพงษ์ แถลงด้วยว่า ในส่วนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ มีแนวคิดว่า ถ้าประเทศใดมีความพร้อมก็สามารถเริ่มต้นได้ก่อน โดยเรียกว่า "2+x" เช่น ถ้ามีความพร้อมในเรื่องของตลาดหลักทรัพย์ สามารถให้นักลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของทั้ง 2 ประเทศ โดยสั่งซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 2 แห่งได้ ซึ่งจะทำให้ตลาดหลักทรัพย์ของทั้ง 2 ประเทศขยายใหญ่ขึ้น นอกจากนี้หากประเทศอื่นๆ ในอาเซียนเห็นชอบที่จะทำเรื่องนี้ด้วย ก็จะสามารถขยายต่อไปได้


 


น.พ.สุรพงษ์ แถลงอีกว่า ส่วนระดับภูมิภาคมีการพูดคุยถึงเรื่อง "อีส เอเชีย ซัมมิท" ซึ่งเป็นความร่วมมือของกลุ่มประเทศทางด้านเอเชียตะวันออก ที่ขยายวงใหญ่กว่าความร่วมมืออาเซียน แต่เล็กกว่าระดับเอเปค โดยหารือกันว่า ทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์และไม่ซ้ำซ้อนกับสิ่งที่ได้คุยกันในอาเซียน แต่ขณะเดียวกันสามารถสร้างความร่วมมือกับประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกได้ด้วย ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นว่า เศรษฐกิจโลกยังเป็นไปด้วยดี ถึงแม้ว่าจะมีผลกระทบจากราคาน้ำมันอยู่บ้าง โดยทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันผลักดันให้ประเทศในอาเซียนแบ่งปันการใช้พลังงานร่วมกัน


 


"ในประเทศบางประเทศอาจมีแหล่งพลังงาน แต่ไม่มีเงินลงทุน สามารถมาร่วมกันนำเอาพลังงานที่มีอยู่ในแต่ละแหล่งของแต่ละประเทศ ขึ้นมาใช้ประโยชน์ เช่น กรณีไทยร่วมมือกับพม่าเรื่องขุดแก๊สขึ้นมาใช้ ไทยร่วมมือกับลาวเรื่องพลังงานน้ำ ต่อไปอาจจะเป็นไปได้ว่า บางเรื่องอาจจะเป็นความร่วมมือไตรภาคี ไทยกับสิงคโปร์อาจจะไปร่วมกับประเทศที่สามในเรื่องพลังงาน หรือการค้าขาย ขณะนี้ไทย - สิงคโปร์ พร้อมจะไปคุยกับประเทศที่สาม เช่น อินเดีย" น.พ.สุรพงษ์ กล่าว


 


นายสุรพงษ์ แถลงด้วยว่า พร้อมกันนี้ ทั้ง 2 ประเทศ ยังตกลงความร่วมมือด้านสาธารณสุขเกี่ยวกับระบบคลังวัคซีนกลาง เพื่อช่วยให้การบริหารจัดการเรื่องไข้หวัดนก ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net