Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis


ประชาไท- ระบบสาธารณสุขฟิลิปปินส์อาจถึงขั้นล่มสลายภายในไม่กี่ปีนี้ เพราะไม่เพียงแต่แพทย์และพยาบาลจะยังคงหลั่งไหลออกนอกประเทศเป็นจำนวนมหาศาลแล้วจนโรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มขาดแคลนแพทย์และพยาบาลแล้ว เมื่อไม่นานมนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังคงเตรียมที่จะปลดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจำนวน 240,000 คน และตัดลดงบประมาณสนับสนุนโรงพยาบาลของรัฐลงไปอีกซึ่งยิ่งจะส่งผลกระทบด้านบริการสาธารณสุขมากยิ่งขึ้น

 


พันธมิตรด้านสุขภาพเพื่อประชาธิปไตย ( The Health Alliance for Democracy- HEAD) ซึ่งเป็นองค์กรของ แพทย์ พยาบาลและนักวิชีพสาธารณสุขกล่าวว่าทางกรมอนามัยได้มีคำสั่งผู้บริหาร ฉบับที่ 366 ว่าจะมีการปรับลดขนาดขององค์กรลงเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ


 


ดร.จีน นิสเปโรส์ เลขาธิการ HEAD กล่าวว่า การปลดพนักงาน (layoff) ในครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อโรงพยาบาลหลักๆของรัฐซึ่งเดิมก็มีปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์อยู่แล้วเนื่องจากปัญหาการขาดงบประมาณ


 


"ตัวอย่าง เช่น ศูนย์โรคกระดูกฟิลิปปินส์ ที่ควรจะต้องมีพนักงานจำนวน 1,100 คน ขณะขาดอยู่ถึง 99 คน ศูนย์สุขภาพจิตแห่งชาติ และ โรงพยาบาล ซาน ลาซาโร ซึ่งเป็นสถานให้บริการการรักษาแก่ผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าของรัฐ ก็กำลังขาดแคลนบุคลากร" นิสเปโรส์กล่าว


 


ทั้งนี้ ศูนย์สุขภาพจิตฯมีบุคลากรเพียง 1,570 คน ในขณะที่ ซานลาซาโรนั้นมีเพียง 825 คน ทั้งๆที่จำนวนที่ควรจะมีนั้นอยู่ที่ 1,870 และ 890 คนตามลำดับ


 


โรงพยาบาลของรัฐที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ   โฮเซ เรเยส เมมโมเรียล เซ็นเตอร์ ในมนิลา ที่สามารถรองรับคนไข้ได้ 450 เตียง แต่ว่ารับผู้ป่วยในถึง 60 คนต่อวัน ยังไม่รวมถึงผู้ป่วยนอกอีก วันละ 1,400 ราย


 


"อะไรคือราคาที่แท้จริงของบรรดาบุคลากรทางการแพทย์ผู้ที่ถูกคาดหวังว่าจะให้บริการด้านสาธารณสุขที่มีคุณภาพกันแน่" นิสเปโรส์ตั้งคำถาม


 


พันธมิตรคนทำงานด้านสุขภาพ ออกมาระบุเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ( 16 กย.) ว่า ระบบงานดูแลสุขภาพของประเทศจะต้องล่มสลายภายใน 2-3 ปี นี้ หากบรรดาแพทย์และพยาบาลยังคงเดินทางไปหางานในต่างประเทศที่มีรายได้ดีกว่าอย่างต่อเนื่องแบบนี้


 


"จากปี 2000 ถึง 2003 เท่านั้น ประเทศเราก็สูญเสีย พยาบาลไปถึง 51,850 คน ส่วนแพทย์วิชาชีพในรอบ 4 ปีที่ผ่านมานั้นก็มีประมาณ 5,000 คนที่ออกจากประเทศไป โดยมีประมาณ 4,000 คน ไปทำงานเป็นพยาบาล" ทางกลุ่มกล่าว


 


นิสเปโรส์ กล่าวว่า ประธานาธิบดี กลอเรีย มาคาปากาล อโรโย ไม่ได้ทำงานในเรื่องนี้มากพอในการแก้ปัญหาระบบสาธารณสุขซึ่งกำลังเป็นปัญหาหนักอยู่ในขณะนี้


 


"เธอยังคงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ต่อความเสื่อมโทรมของโรงพยาบาลของรัฐ และยังคงไม่ได้ยินเสียงวิงวอนของคนทำงานด้านสาธารณสุขที่ร้องขอค่าจ้างและเงื่อนไขการทำงานที่ดีขึ้น" เขากล่าว


 


ทางกลุ่มของนิสเปโรส์รู้สึกสิ้นหวังเมื่อรัฐบาลอโรโยได้ตัดลดงบประมาณของศูนย์การแพทย์ตอนโดลงให้เหลือเพียงเดือนละ 20 ล้านเปโซเมื่อปีที่ผ่านมาเปรียบเทียบกับที่เคยได้รับปี 2002 ประมาณเกือบ 28 ล้านเปโซต่อเดือน


 


ล่าสุดทางองค์การอนามัยโลก ( WHO) ได้ออกมาเตือนว่าประเทศฟิลิปปินส์ยังจะต้องสูญเสียแพทย์และพยาบาลที่จะไปหางานทำเพื่อรายได้ที่ดีกว่าในต่างประเทศเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อยๆหากรัฐบาลยังไม่ยอมแก้ปัญหานี้ทั้งระบบอย่างเร่งด่วน


 


ฌอง มาร์ค โอลีฟ ผู้แทน WHO ประจำประเทศฟิลิปปินส์กล่าวว่า ในอีก 15 ปี ข้างหน้า ทางสหรัฐฯนั้นจะเปิดรับพบาบาลถึงกว่า 1 ล้านคน และนี่ก็จะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะดึงดูดบุคลากรสาธารณสุขให้ออกไปได้


 


" แคนาดา และยุโรปนั้นซึ่งเป็นเป้าหมายที่เป็นที่นิยมของพยาบาลฟิลิปปินส์อยู่แล้วนั้นก้คาดว่าจะมีความต้องการอีกจำนวนเป็นแสน เพื่อบรรจุในตำปหน่งว่ารองกับระบบประกันสุขภาพของแต่ละประเทศ" โอลีฟกล่าว  


 


----------------------------


ที่มา :  http://www.asianewsnet.net/level3_template1.php?l3sec=10&news_id=45619&key_word=


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net