เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2548 ที่โรงแรมเจ.บี.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีการสัมมนาเรื่อง สงขลา : ศูนย์กลางยางพาราโลก จัดโดยจังหวัดสงขลาร่วมกับศูนย์วิจัยยางสงขลา มีนาย
นาย
นายเยี่ยม กล่าวว่า สภาพดังกล่าวเกิดขึ้น ในขณะที่ความต้องการใช้ยางพาราของจีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับราคายางสังเคราะห์ซึ่งเป็นผลผลิตจากน้ำมัน ยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากราคาน้ำมันยังปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ขณะนี้ราคายางพาราในตลาดโลกอยู่ที่กิโลกรัมละ 1.62 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ขณะที่ราคายางสังเคราะห์อยู่ที่กิโลกรัมละ 1.61 ดอลล่าร์สหรัฐ
"ยกเว้นราคาน้ำมันปรับตัวสูงจนส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว ถึงจะทำให้ราคายางพาราตกอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้บริษัทร่วมทุนฯ เอง จึงไม่ต้องการให้ราคายางพาราสูงเกินไป เพราะจะทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อน ขณะนี้ผู้บริโภคยางพาราในกลุ่มประเทศยุโรป กำลังศึกษาวิจัยและพัฒนายางยังเคราะห์อยู่ด้วย ถ้าราคายาง
พาราสูงเกินไป ผู้บริโภคจะหันไปใช้ยางสังเคราะห์แทน" นายเยี่ยม กล่าว
นาย
นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ประการต่อมา คือ เครื่องจักรเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยางพารารุ่นใหม่ รองรับยางแท่งมากกว่ายางแผ่นรมควัน เพราะฉะนั้น ความต้องการยางแผ่นรมควันจึงลดลงไปด้วย ประการสุดท้าย คือ วิถีชีวิตของเกษตรกรที่ไม่นิยมทำยางแผ่น แต่นิยมขายน้ำยางข้นมากขึ้น เพื่อความคุ้มค่าในการใช้แรงงาน ส่วนความคุ้มค่าระหว่างการปลูกปาล์มน้ำมันกับยางพารานั้น ปาล์มน้ำมันต้องการน้ำมากกว่ายางพารา และต้องทำสวนขนาดใหญ่จึงจะคุ้มทุน
นายสมพร บรรยายพิเศษเรื่องจังหวัดสงขลาเอื้อต่อธุรกิจยางพาราอย่างไรว่า ขณะนี้สำนักงานวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 จังหวัดสงขลา กำลังจัดตั้งศูนย์ข้อมูลยางพารา มีภารกิจรวบรวม วิเคราะห์ วิจัย และจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับยางพาราทุกด้าน เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์การเป็นศูนย์กลางยางพาราโลกของจังหวัดสงขลา เพราะฐานข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญที่นักลงทุนต้องใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุน รวมทั้งเป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนายางพารา
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)