Skip to main content
sharethis

 ประชาไท - 24 ส.ค.48      "ขอยืนยันว่าเราดำเนินการด้วยความตั้งใจเต็มที่และตรงไปตรงมา แต่คดีจะไปถึงเป้าหมายหรือไม่นั้น ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ จะไม่มีการจับแพะ แต่ผมต้องชี้แจงให้ได้ทั้งหมดว่าได้อย่างไร ไม่ได้อย่างไร เพราะพยานหลักฐานเท่าที่มีมันน้อย ขอให้เปิดใจกว้างไว้"


 


นายชาติชาย โทสินธิติ หัวหน้าพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงคดีฆาตรกรรมพระสุพจน์ สุวโจ พระกลุ่มเสขิยธรรม ณ สถานปฏิบัติธรรมสวนเมตตาธรรม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.48


 


ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการสิทธิในการจัดการที่ดินและป่า ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  โดยนางสุนี ไชยรส เป็นประธาน ได้เชิญเจ้าหน้าที่จากดีเอสไอ มาให้ข้อมูลความคืบหน้าในคดีดังกล่าว และเชิญพระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ ประธานกลุ่มเสขิยธรรม ร่วมรับฟัง


 


นายชาติชายกล่าวว่า ดีเอสไอพยายามหาข้อมูลเชิงลึก โดยใช้การสืบสวนนำการสอบสวน เพราะสถาน การณ์ในพื้นที่ตอนนี้คนไม่กล้าให้ข้อมูล อย่างไรก็ตาม มีการวางแผนไว้แล้วว่าจะต้องคุยกับบุคคลใดบ้าง ส่วนข้อมูลการสืบสวนสอบสวนนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ และหลังจากโอนคดีมาตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.นั้นดีเอสไอยังไม่มีการขอให้ตำรวจในพื้นที่เข้ามาช่วยในคดีแต่อย่างใด


 


หัวหน้าพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ กล่าวว่า ในด้านสำนวนการสอบสวนที่ได้รับโอนมาจากสภ.อ.ฝางเจ้าของพื้นที่นั้น สภ.อ.ฝางไม่ได้ตัดประเด็นใดออกไป ขณะที่ทางดีเอสไอก็วางประเด็นกว้างๆ ไว้ 2 ประเด็นคือ การพิพาทเรื่องที่ดิน และการลักทรัพย์ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนทั้ง 2 ประเด็น เพราะพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุมีน้อยมาก


 


"ส่วนข้อมูลที่ท่านกิตติศักดิ์เอ่ยถึงนั้น เรามีอยู่ในมือแล้ว และมีมากกว่านั้นอีก เพียงแต่จะได้ข้อเท็จจริงอย่างไร เพราะถึงที่สุดเราต้องดำเนินการตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ พยานบางปากเราสอบได้ที่นั่น บางคนต้องนำมาสอบนอกพื้นที่ และบางคนต้องเข้ามาตรการคุ้มครองพยาน" นายชาติชายกล่าว


 


ทั้งนี้ ข้อมูลที่พระกิตติศักดิ์ได้ยกขึ้นมาเพื่อยืนยันถึงความกังวลนั้น มีหลายประการ อาทิ การที่ตำรวจให้พื้นที่เข้าไปเก็บเลนส์แว่นตาข้างซ้ายของพระสุพจน์ในที่เกิดเหตุ หลังจากเกิดเหตุหลายวัน โดยอ้างว่างานยุ่ง ส่วนเครื่องนุ่งห่มที่มีการร้องขอให้ตรวจพิสูจน์คราบเลือด ตำรวจไม่สามารถตอบได้ว่าอยู่ที่ไหน คาดว่าทางโรงพยาบาลน่าจะทำลายไปแล้ว ขณะที่ลายมือแฝงก็ไม่มีการเก็บรวบรวมไป โดยอ้างเหตุผลว่าไม่มีร่องรอยการต่อสู้ 


 


นอกจากนี้พระกิตติศักดิ์ยังระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ 3 วัน น้องชายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งเกี่ยวกับการบุกรุกที่ดินของสถานปฏิบัติธรรม ได้ขี่จักรยานยนต์เข้ามาพบพระสุพจน์ โดยให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่ามาคนเดียว แต่มีพยานยืนยันไม่น้อยกว่า 3 คนที่ระบุว่าบุคคลนั้นมาพร้อมกับอดีตตชด.คนหนึ่งที่ย้ายมาอยู่ สภ.อ.ฝาง และมีร่วมในทีมสืบสวนคดีนี้ด้วย และหลังจากพระสุพจน์มรณภาพได้ 50 วันก็มีการพยายามให้เซ็นชื่อยอมรับตามที่ตำรวจร่างมาว่าคนที่มาขโมยตัดไม้น่าจะเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมพระสุพจน์ แต่ได้ปฏิเสธการเซ็นชื่อไปเพราะไม่เชื่อเช่นนั้น


 


ด้านนางสุนี ไชยรส ประธานอนุกรรมการฯ ระบุว่า ข้อมูลที่รวบรวมได้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาน่าจะทำให้เจ้าหน้าที่ตัดประเด็นเกี่ยวกับการขโมยตัดไม้ได้แล้ว เพื่อให้เกิดความสบายใจในฝ่ายต่างๆ ว่าคดีมีความคืบหน้า


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net