|
นางอาแอเซาะ หะยีเจ๊ะมิง ชาวบ้านกานอ ตำบลโกตาบารู อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ภรรยาของนายอับดุลอาซิ หะยีเจ๊ะมิง ที่ถูกศาลประเทศกัมพูชาตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ข้อหาเป็นสมาชิกของขบวนการญามาอะห์ อิสลามิยะห์ หรือ เจ.ไอ. เปิดเผยว่า เมื่อเดือนกรกฎาคม 2548 ตนได้ร้องเรียนไปยังนายจรัล ดิษฐาอภิชัย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา ขอให้ช่วยเหลือสามีของตน หลังจากที่ศาลไทยพิพากษายกฟ้องนายแพทย์แวมาหะดี แวดาโอ๊ะ ข้อหาเป็นสมาชิกขบวนการ เจ.ไอ. เช่นกัน |
นางอาแอเซาะ เปิดเผยว่า นายไกรศักดิ์รับปากจะถวายฎีกากษัตริย์นโรดมสีหมุนีของกัมพูชา ขอให้ย้ายสามีตนและนายมูฮำหมัดยาลาลูดิง มะดิง ชาวตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก - ลก จังหวัดนราธิวาส นักโทษอีกคนเข้ามาคุมขังในคุกเมืองไทย แต่จนขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ
นางอาแอเซาะ เปิดเผยอีกว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2548 ตนได้เดินทางไปพบสามีและนายมูฮำหมัดยาลาลูดิง ซึ่งถูกจองจำที่คุกเพรซาร์ ในกรุงพนมเปญ พร้อมนายอิสมาแอล ชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นนักโทษในคดีเดียวกัน นายอิสมาแอลแจ้งให้ตนทราบว่า นายโอเซียนเทียน ที่ปรึกษานายฮุน เซ็น นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาแจ้งว่า จะได้รับการอภัยโทษ
เนื่องจากบิดาของนายอิสมาแอลได้ทำคุณงามความดีให้กับประเทศชาติ ส่วนคนไทยทั้ง 3 คน รัฐบาลไทยจะมารับกลับไป
นางอาแอเซาะ เปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมิถุนายน 2548 นายไกรศักดิ์ ได้ยื่นหนังสือให้กษัตริย์นโรดมสีหมุนี ขอให้อภัยโทษแก่คนไทยทั้งสองแล้ว แต่ไม่ได้รับคำตอบจึงยืนถวายฎีกาขอให้ย้ายที่จองจำไปอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับนักโทษไทยทั้งสอง เป็นอุสตาซชาวไทยที่ไปสอนศาสนาในโรงเรียนสอนศาสนาในกรุงพนมเปญ มาตั้งแต่ปี 2544 ถูกทางการกัมพูชาจับกุมข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย และเป็นสมาชิกขบวนการเจ.ไอ. เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2546 ต่อมา ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2547
นายจรัล เปิดเผยว่า ตนได้ช่วยเหลือโดยการนำภรรยาของจำเลยทั้ง 2 ไปพบกับสามีที่จำคุกอยู่ในเรือนจำในกัมพูชา เมื่อวันที่ 11 - 13 กรกฎาคม 2548 ที่ผ่านมา ซึ่งทางการกัมพูชาให้เยี่ยมได้ถึง 2 วัน วันละ 8 ชั่วโมง
นายจรัล เปิดเผยต่อว่า ขณะเดียวกันตนไปพบกับกระบวนการยุติธรรมทุกฝ่าย ทั้งในกัมพูชาและไทย เพื่อขอให้ช่วยเหลือคนไทยทั้งสองคน โดยเสนอให้ใช้วิธีการแลกเปลี่ยนระหว่างนักโทษกัมพูชา ที่ถูกจำคุกอยู่ในประเทศไทย กับนักโทษไทยที่ถูกจำคุกอยู่ในกัมพูชา แต่เนื่องจากไทยกับกัมพูชายังไม่มีข้อตกลงในเรื่องนี้ จึงยังช่วยเหลืออะไรได้ไม่มาก
นายจรัล เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้กระทรวงต่างประเทศของไทยกับของกัมพูชา กำลังเจรจาข้อตกลงเรื่องการแลกเปลี่ยนนักโทษอยู่ เรียกว่าสนธิสัญญาการโอนย้ายนักโทษระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยมีหลักการว่าให้จำคุกก่อน 3 ปี จึงจะแลกเปลี่ยนได้ ขณะนี้มีนักโทษกัมพูชาถูกจำคุกในประเทศกว่า 1,000 คน
ส่วนนักโทษในกัมพูชามีไม่ถึง 100 คน