ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-21 ส.ค.48 เจ้าหน้าที่ด้านสิทธิชนเผ่าประณามเหตุการณ์ลอบวางระเบิดใส่รถยนต์เจ้าหน้าที่ทำงานด้านชนเผ่าและชาติพันธุ์ กลางหมู่บ้านโป่งไฮ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ชี้เป็นการข่มขู่คุกคามหลังจากมีการตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐและผู้มีอิทธิพลบางกลุ่มแอบทุจริตคอรัปชั่นในเรื่องการให้สถานะบุคคลการให้สัญชาติในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง ไม่มีความโปร่งใส จี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และรัฐบาลเร่งตรวจสอบโดยเร็ว เนื่องจากเกี่ยวข้องกับนโยบายการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลของประเทศโดยรวม
ตามที่เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา นายวรวุธ ตามี่และคณะจำนวน 4 คนได้ไปประชุมรณรงค์และเผยแพร่ความรู้เรื่องการลงทะเบียนสถานะบุคคลให้แก่ชาวบ้านบ้านโป่งไฮ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยได้นำรถยนต์ของ ศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนบนพื้นที่สูง (ศปส.) ไปจอดไว้ที่บริเวณหน้าศูนย์เด็กเล็ก ใกล้โรงเรียน ต.ช.ด. บำรุงที่ 21 บ้านโป่งไฮ ซึ่งเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษๆ ขณะที่อยู่ภายในศูนย์เด็กเล็กร่วมกับชาวบ้าน ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว และทำให้ทุกคนต่างตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีใครกล้าออกมาจากอาคารศูนย์เด็กเล็ก จนรุ่งเช้า ได้ออกมาตรวจดูบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่า แรงระเบิดได้ทำความเสียหายให้ตัวรถบริเวณหลังคาเป็นรอยยุบด้านคนขับ
ล่าสุด ที่ห้องสุโขทัย สถานบริการวิชาการนานาชาติ(IC) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ด้านสิทธิมนุษยชนชนเผ่า ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์เรียกร้องนายอำเภอแม่ฟ้าหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และรัฐบาลให้มีการสอบสวนกรณีมีการลอบวางระเบิดข่มขู่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านชนเผ่าและชาติพันธุ์โดยเร็ว
นาย
นายวิวัฒน์ ตามี่ ผู้ประสานงาน ศปส. และอนุกรรมการแก้ไขปัญหากลุ่มสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ และเครือข่ายประชาชนภาคเหนือ กรณีชนเผ่าและชาติพันธุ์ กล่าวว่า ปกติตนจะเป็นผู้ใช้รถยนต์คันที่เกิดเหตุ แต่คืนนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำไปใช้ในพื้นที่บ้านโป่งไฮ ซึ่งการกระทำดังกล่าว เชื่อว่า เป็นการข่มขู่ให้พวกตนหยุดการทำงานในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง มากกว่า เนื่องจากเมื่อเข้าไปทำงานรณรงค์เผยแพร่ให้ความรู้แก่ชาวบ้านในเรื่องการลงทะเบียนสถานะบุคคล หรือการขอลงทะเบียนให้สัญชาติ ในเขตพื้นที่หลายหมู่บ้าน ในเขต อ.แม่ฟ้าหลวง พบว่า มีชาวบ้านเข้ามาร้องเรียนกันเป็นจำนวนมากว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับอำเภอร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้มีการทุจริตคอรัปชั่น ความไม่โปร่งใสมีการเรียกค่าใช้จ่ายกันหลายรูปแบบ
"การวางระเบิดในครั้งนี้ จึงถือว่าเป็นข่มขู่ เพราะหลังจากที่ตนเข้าไปทำงานในพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวงมา 2 ปี ทางเจ้าหน้าที่อำเภอได้ปฏิเสธที่จะให้พวกตนเข้าไปในพื้นที่มาโดยตลอด โดยอ้างว่าไม่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่มีอำนาจในการพิจารณาการลงทะเบียนสัญชาติ ทั้งๆ ที่ตนพยายามชี้แจงแล้วว่า ตนไปในฐานะเป็นอนุกรรมการแก้ไขปัญหากลุ่มสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ และเครือข่ายประชาชนภาคเหนือ กรณีชนเผ่าและชาติพันธุ์ โดยมี พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ รวมทั้งตนเข้าไปในพื้นที่ในฐานะคนทำงานด้านสิทธิชนเผ่า แต่ทางอำเภอก็ไม่ยอมเข้าใจและรับฟัง" นายวิวัฒน์ กล่าว
ด้าน นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด กองเลขาสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.)และเครือข่ายประชาชนภาคเหนือ กล่าวว่า การข่มขู่แบบนี้ เคยมีหลายครั้งแล้ว เช่น กรณีของหมี่จู ผู้หญิงชาวอาข่าที่ออกมาเรียกร้อง ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจ และตั้งใจข่มขู่คุกคาม แม้จะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บในชีวิต แต่ก็ถือว่าการกระทำครั้งนี้ชาวบ้านและคนทำงานด้านสิทธิชนเผ่าได้รับบาดเจ็บทางจิตใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐพยายามสร้างสถานการณ์แบบนี้มาโดยตลอด
"ท่าทีของนายอำเภอแม่ฟ้าหลวง ถือว่าเป็นปัญหาในการทำงานการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลชุมชนบนพื้นที่สูงเป็นอย่างมาก เพราะจะเห็นได้ว่า ยังมองการทำงานที่มีอคติ ซึ่งล่าสุด ได้มีการทำหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร โดยอ้างว่า มีกลุ่มบุคคลภายนอกเข้าไปยุยงปลุกปั่นชาวบ้าน รวมทั้งยังพยายามอ้างว่าชาวบ้านตัดไม้ทำลายป่า และพยายามเอานโยบายด้านความมั่นคงและยาเสพติดเข้าไปบีบชาวบ้าน แต่การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐกลับมีพฤติกรรมที่แอบแฝง ไม่โปร่งใสเสียเอง" นายสุริยันต์ กล่าว
นายสุริยันต์ กล่าวอีกว่า ทาง สกน.ขอเรียกร้องให้นายสมชัย รุ่งสาคร นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง ออกมาชี้แจงความไม่โปร่งใส กรณีการเรียกเก็บเงิน รวมทั้งการขอเงินอุดหนุนจาก อบต.ทั้ง 4 แห่ง ว่ามีความถูกต้องชอบธรรมหรือไม่ อีกทั้งของเรียกร้องให้ นายวรเกียรติ สมสร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นผู้ว่าฯ ซีอีโอ ได้ลงมาตรวจสอบและดำเนินการกับปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด ว่าจะดำเนินการอย่างไร รวมทั้งขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้ลงมาสอบสวนกรณีที่มีการวางระเบิดข่มขู่คุกคามในครั้งนี้ เพราะเหตุการณ์นี้ ไม่ต่างจากกรณีของนายเจริญ วัดอักษร ทนายสมชาย นีละไพจิตร และพระสุพจน์ สุวโจ เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์ได้ 2 วัน นายสมชัย รุ่งสาคร นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง ได้เข้าไปตรวจดูสถานที่เกิดเหตุ พร้อมกับบอกว่า จะให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้รู้ผลภายใน 7 วัน ซึ่งทางกลุ่มผู้เสียหายกล่าวภายหลังว่า หากคดียังไม่มีความคืบหน้า จะดำเนินการเคลื่อนไหวกันต่อไป
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)