Skip to main content
sharethis

 








 



ภาพจาก http://membres.lycos.fr


 

 

จุนอิชิโร โคอิซูมิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศยุบสภาไปแล้วเมื่อวานนี้ ( 8 สิงหาคม) ทันทีที่รู้ว่าสภาสูงไม่ยอมลงมติให้การแปรรูปไปรษณีย์ผ่านสภา ด้วยเห็นว่านี่คือประเด็นที่ได้ประกาศหาเสียงเอาไว้แล้วกับพี่น้องประชาชน และเมื่อเหตุการณ์กลับเป็นเช่นนี้ จึงเป็นว่าไม่สามารถทำตามที่ตนหาเสียงเอาไว้ได้จึงต้องรับผิดชอบโดยการขอลาออกและขอถามความเห็นจากประชาชนอีกครั้งหนึ่ง โดยการเลือกตั้งกันใหม่

 


หากจะถามว่านายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็นคนยึดมั่นในสัจจะขนาดนั้นเชียวหรือ เรื่องนี้จะตอบว่าใช่อย่างเต็มปากเต็มคำก็ไม่ได้นักเพราะว่าการยุบสภานี้ก็ใช่ว่าจะทำด้วยความบริสุทธิ์ใจร้อยเปอร์เซ็นต์โดยไม่ได้มีวาระซ่อนเร้นทางการเมืองเอาไว้เสียเลทีเดียว แต่ว่าก่อนที่จะมาดูว่าโคซูมิคิดจะทำอะไรนั้นลองมาดูที่มาที่ไปเรื่องนี้กันสักเล็กน้อยก่อน


 


แผนการแปรรูปการไปรษณีย์ หรือ เจแปน โพสต์ นั้นถือเป็นหนึ่งในนโยบายเศรษฐกิจหลักซึ่งโคอิซูมิประกาศไว้ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้นำรัฐบาลเมื่อ 4 ปีก่อน เพื่อเป็นการอัดฉีดเศรษฐกิจของญี่ปุ่นให้ดีขึ้น
       
ที่เลือก เจแปน โพสต์ ในตอนนี้นั้นก็เนื่องจากว่า เจแปน โพสต์ไม่ใช่เพียงรัฐวิสาหกิจที่ทำหน้าที่รับส่งไปรษณีย์เพียงอย่างเดียวหาก แต่เป็นทั้งธนาคาร และทำธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งมีสาขาถึง 25,000 แห่งทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีทรัพย์สินรวมมูลค่านับ 355 ล้านล้านเยน (3.2 ล้านล้านดอลลาร์) โดยมีพนักงานทั้งหมด 270,000 คน


 


ในการแปรรูปนี้       โคอิซูมิเชื่อว่า จะช่วยทำให้เกิดการแข่งขันในภาคเอกชนมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยประหยัดงบประมาณที่กิจการดังกล่าวมักนำไปใช้จ่ายในโครงการสาธารณะต่างๆ อย่างไร้ซึ่งประสิทธิภาพ
       
ตามแผนการในร่างกฎหมายแปรรูปเจแปน โพสต์ของรัฐบาล กิจการดังกล่าวจะถูกแตกออกเป็น 4 ธุรกิจย่อย ภายใต้การกำกับของโฮลดิ้ง คอมพานี ซึ่งรัฐบาลเป็นเจ้าของ ภายในปี 2007 จากนั้นธุรกิจออมสินและประกันภัยจะถูกขายให้กับเอกชนภายในปี 2017


 


ส่วนพวกที่ออกมาคัดค้านนั้นก็เป็นเพราะหวาดวิตกว่าแผนของรัฐบาลอาจทำให้เกิดการปรับลดตำแหน่งงาน ขณะที่ลูกจ้างปัจจุบันอาจขาดความมั่นคงในหน้าที่ และจะมีการลดเงินช่วยเหลือให้กับพื้นที่ชนบทห่างไกล แต่เหตุผลที่เหนือกว่านั้นก็คือ งานไปรษณีย์ของญี่ปุ่นนั้นทำงานที่รับใช้และให้คุณประโยชน์ทางการเมืองอย่างมาก ว่ากันว่า สามารถระดมคะแนนเสียงได้ถึงหนึ่งล้านเสียง และมีนักการเมืองบางกลุ่มต้องเสียผลประโยชน์ไปหากกิจการนี้ต้องตกไปอยู่ในมือของเอกชน


 


ดังนั้นจากผลโหวตของสภาสูงซึ่ง โคอิซูมิ ดูเหมือนจะรู้ตัวล่วงหน้าว่าจะไม่ยอมผ่านร่างกฎหมายการแปรรูปการไปรษณีย์ให้แน่ และ ได้ขู่โคอิซูมิว่า อย่าทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ หากร่างกฎหมายนี้ไม่ผ่าน ซึ่งผลโหวตจากสภาสูงก็ออกมาว่าเป็น  125 ต่อ 108 เสียงทำให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ต้องตกไป


 


โคอิซูมิ หลังจากเห็นผลการโหวตทางโทรทัศน์ก็ออกมาประกาศยุบสภาล่างทันที เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ เขาออกมาบอกว่า "ผมต้องการถามประชาชนว่าพวกเขาเห็นด้วยกับแผนปฏิรูปของพรรคแอลดีพี หรือสนับสนุนฝ่ายค้านซึ่งต่อต้านการแปรรูปกิจการไปรษณีย์ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมจึงประกาศยุบสภา"


 


ทั้งนี้ ในเรื่องที่ปรากฏว่าผลโหวตออกมาแพ้นั้น ก็มีรายงานว่า มีสมาชิกพรรคแอลดีพี 30 คนไปร่วมกับพรรคฝ่ายค้านโหวตคัดค้านหรืองดออกเสียงรับรองแผนการแปรรูปไปรษณีย์ของรัฐบาล


 


ดังนั้น การประกาศยุบสภาของโคอิซูมินั้นแน่นอนว่า ถือเป็นการกลับไปหาประชาชนอีกครั้งเป็นการหยั่งเสียงประชาชนไปในตัว ทั้งนี้ การกระทำของโคอิซูมินั้น ผลที่จะได้รับก็คือ ได้รักษาสัจจะ ได้เรียกศรัทธาคืนจากประชาชน เพราะต้องไม่ลืมว่าชาวญี่ปุ่นนั้นเรื่องยึดมั่นในสัจจะเป็นประเด็นสำคัญ โคอิซูมิ อาศัยช่วงจังหวะนี้ซึ่งอันที่จริงความนิยมของเขาก็เริ่มเป็นขาลงแล้วเช่นกันหวนกลับมาเรียกศรัทธาจากประชาชนอีกครั้งหนึ่ง


 


สุดท้ายและสำคัญที่สุดก็คือเป็นโอกาสที่เขาจะได้จัดการกับสมาชิกพรรคที่ทรยศและคนอื่นๆที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของเขาออกไปเสียให้หมดเพราะเขาบอกว่า ผู้ที่จะมีชื่อเป็นตัวแทนพรรคในการสมัครรับเลือกตั้งนั้นจะมีชื่อของผู้ที่เห็นด้วยกับนโยบายของเขาเท่านั้น


 

วันที่ 11 กันยายนนี้ เป็นวันที่กำหนดเอาไว้เป็นวันเลือกตั้งของญี่ปุ่น อนาคตทางการเมืองของโคอิซูมิจะเป็นอย่างไร เขาจะสามารถเรียกศรัทธาคืนจากประชาชนได้หรือไม่วันนั้นก็จะรู้กัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net