ประชาไท - 13-07-48 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธาน-คณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวเตือนรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอฝางว่า หากไม่สามารถจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมพระสุพจน์ได้ ไม่ใช่เฉพาะสถานีตำรวจภูธรอำเภอฝางเท่านั้น ที่จะไม่ได้รับความเชื่อถือจากประชา
ชน แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชาชนก็อาจไม่เชื่อถือเลย

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการตำรวจ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีพระสุพจน์เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ ซึ่งผู้เข้าร่วมชี้แจงประกอบด้วย น.ส.รัชดาภรณ์ ด้วงประเสริฐ (น้องสาวพระสุพจน์), น.ส. ชุติมาวดี ทองจีน(ลูกพี่ลูกน้องพระสุพจน์), พระมหาบุญช่วย สิรินธโร สหธรรมิกกลุ่มเสขิยธรรม ในฐานะตัวแทนของฝ่ายผู้เสียหาย และ พ.ต.อ.ชำนาญ รวดเร็ว รองผบก.ภจว.เชียง ใหม่, พ.ต.อ.ธนสาร พรายโถ ผกก.สภอ.ฝาง ในฐานะตัวแทนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลคดีพระสุพจน์

หลังการประชุม ทางประธาน กมธ.ตำรวจ ได้กล่าวฝากเจ้าพนักงานสอบสวนว่า ควรทำตามที่ผู้เสียหายเสนอคือให้สอบและขยายผล ในเรื่องมูลเหตุจูงใจ ไม่ว่าจะเรื่องอิทธิพล ที่ดิน และความขัดแย้งทั้งหมด เพราะเท่าที่ฟังมาในเรื่องอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลัง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังให้ความสนใจน้อยอยู่ ซึ่งทางญาติต้องการให้สอบเบื้องหลังมากกว่านี้ ไม่ใช่สรุปว่ามูลเหตุมาจากเรื่องไม้ไผ่อันเดียว

รวมทั้งจากการที่ทาง กมธ.ตำรวจ ได้ลงไปดูพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าผลประโยชน์ของชาวบ้าน กับพระซ้อนกันอยู่ ในเรื่องที่ดิน เนื่องจากชาวบ้านต้องการนำที่ดินไปปฏิรูป โดยนายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า "ผมกล้าฟันธงเลยว่า ถ้าถามชาวบ้านร้อยคน 99 คนต้องการให้พระออกจากพื้นที่เพราะต้องการที่ดิน" ดังนั้นคำให้การของชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อาจไม่เป็นประโยชน์ เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อน

นอกจากนี้นายนิพิฏฐ์ ยังกล่าวแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดี เพราะมีพระผู้ใหญ่หลายท่านเป็นกังวล และยังฝากให้ตัวแทนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยชี้แจงกับชาวบ้านให้เข้าใจ การปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ในสายท่านพุทธทาสภิกขุ และการที่พระไม่ค่อยบิณฑบาต ไม่ค่อยรับนิมนต์ อาจทำให้ไม่ผูกพันกับชาวบ้าน แต่ผลงานการเผยแผ่พระศาสนาที่ผ่าน ก็น่าจะทำให้ตระหนักว่าพระสงฆ์ในกลุ่มนี้เป็นผู้เผยแผ่พุทธศาสนาที่สำคัญกลุ่มหนึ่ง

นพพร ชูเกียรติศิริชัย