ประชาไท - 6 ก.ค.48 อัยการมีความเห็นไม่ยื่นอุทธรณ์ คดีกล่าวหา "หมอแว" และพวกรวม 4 ราย เป็นสมาชิกกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยะ(เจไอ) วางแผนก่อการร้ายในไทย เพราะเห็นว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะชนะคดี ขณะที่ทนายความฝ่ายจำเลยเชื่อว่าการยุติคดีนี้ จะมีผลให้สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้น

"ที่ประชุมคณะทำงานอัยการที่รับผิดชอบคดี และอัยการฝ่ายศาลสูง ร่วมพิจารณาและมีความเห็นคล้อยตามศาลชั้นต้นที่พิพากษาให้ยกฟ้อง เพราะเรื่องนี้พยานชี้ชัดจริง ๆ หายาก มีแต่คำบอกเล่าของผู้ต้องหาชาวสิงคโปร์ และไม่ได้มาเบิกความเพื่อให้จำเลยซักค้านได้ ถ้าอุทธรณ์ไปก็แพ้ " อธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูง กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่ผ่านมาศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้องผู้ต้องหาชาวไทยมุสลิมทั้ง 4 รายคือ คดีน.พ.แวมาหะดี แวดาโอ๊ะ อดีตแพทย์ประจำ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ นายมัยสุรุ หะยีอับดุลเลาะ เจ้าของโรงเรียนปอเนาะบ้านโต๊ะนอ อ.เมืองนราธิวาส นายมุญาฮิด หะยีอับดุลเลาะ และนายสมาน แวกะจิ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีเพียงคำให้การของนายอารีฟิน บิน อาลี ผู้ต้องหาสมาชิกเจไอชาวสิงคโปร์ ที่ถูกจับกุมในประเทศไทยให้การซัดทอดว่า ร่วมกับคนไทยทั้ง 4 วางแผนจะก่อการร้ายในไทย

อธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูง กล่าวว่า ตามขั้นตอนของกฎหมาย อัยการจะต้องเสนอความเห็นดังกล่าวต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งหากทางพนักงานสอบสวนมีความเห็นคัดค้านกับอัยการ จะต้องส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดชี้ขาด

นายสุทธิพงษ์ จันทร์วิโรจน์ ทนายจำเลย กล่าวว่า นับเป็นเรื่องที่ดี หากอัยการจะไม่อุทธรณ์ และเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อความรู้สึกของญาติพี่น้องและประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งน่าจะส่งผลทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวดีขึ้นด้วย

"เป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้เกิดความสมานฉันท์ มันมีผลต่อความรู้สึกของญาติพี่น้องของคนในพื้นที่" นายสุทธิพงษ์ กล่าวพร้อมระบุว่า ฝ่ายจำเลยยังไม่มีความคิดที่จะฟ้องเจ้าหน้าที่หลังจากที่ศาลยกฟ้องในคดีนี้ เพราะอยากให้เรื่องทุกอย่างจบลงโดยเร็ว