ในระยะ 3 - 4 ปีที่ผ่านมา ถนนนิมมานเหมินทร์ได้ถูกปลุกให้คึกคักขึ้นอีกครั้ง ด้วยการผุดขึ้นของการค้าการลงทุนในหลากหลายรูปแบบ ที่ต่างมุ่งหน้าพาเหรดปักฐานกันบนถนนสายนี้ ทำให้บรรยากาศสองฟากฝั่งถนนนิมมานเหมินทร์ และตามตรอกซอกซอยเนืองแน่นไปด้วยโรงแรม ธนาคาร คอนโดมิเนียม หอพัก บ้านจัดสรร ธุรกิจส่งออก ร้านอาหาร แหล่งบันเทิงยามราตรี คอนวีเนี่ยนสโตร์ ฯลฯ และอาจกล่าวได้ว่าถนนสายนี้อยู่ในตำแหน่งศูนย์รวมของสรรพธุรกิจและเป็นถนนเศรษฐกิจสายสำคัญสายหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ในขณะนี้

ย้อนไปเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ถนนนิมมานเหมินทร์ เป็นเพียงถนนสายเล็ก ๆ เรียบง่าย การจราจรไม่จอแจแออัดเหมือนเช่นทุกวันนี้ ร้านอาหารมีให้เลือกชิมเพียงไม่กี่ร้าน แต่วันนี้ทั้งร้านแบบนั่งในมุมสบาย และร้านอาหารบนล้อเข็นริมฟุตบาธผุดขึ้นราวดอกเห็ด ร้านกาแฟแทบไม่มีให้เห็น

ผิดกับวันนี้ที่ผุดขึ้นถี่ยิบ มีให้เลือกนั่งเอาใจคอกาแฟในหลายสไตล์ ส่วนหอพักก็ไม่ได้มีให้เห็นเฉพาะริมสองฝากถนนเท่านั้น แต่ทุกตรอกซอยของถนนสายนี้แน่นขนัดไปด้วยหอพักหลายระดับเช่นกัน คอนโดมิเนียมก็เกิดขึ้นมาหลายแห่ง ส่วนโรงแรมเท่าที่เห็นมีเพียงแห่งเดียวคือโรงแรมอมารีรินคำ ที่ยัง
ยึดหัวหาดอยู่หัวถนนสี่แยกรินคำมาเป็นเวลายาวนาน

นอกจากนี้ ถนนสายนี้ยังเป็นศูนย์รวมธุรกิจประเภทงานศิลปหัตถกรรม ของใช้ของตกแต่งบ้าน ที่มีโชว์ รูมสินค้าตั้งเรียงรายอยู่ในโซนต้นซอยใกล้โรงแรมอมารีรินคำ ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเน้นส่งออกและขายปลีกทั่วไป และเมื่อไม่นานนี้ก็มีโครงการนิมมาน พรอมินาด ศูนย์รวมร้านค้าที่รวบรวมของตกแต่งบ้านไว้ให้เลือกสรร เพิ่มสีสันให้ถนนสายนี้ได้มากโข

น่าตั้งคำถามว่า ทำไมถนนนิมมานเหมินทร์จึงมีการลงทุนเกิดขึ้นมากในระยะเวลาอันรวดเร็ว และมีแนวโน้มว่าจะเป็นถนนสายเศรษฐกิจสำคัญของเชียงใหม่ในอนาคต

ประการแรก ทำเลที่ตั้งอยู่เขตอำเภอเมือง ใกล้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นโซนที่มีนักศึกษาและประชาชนอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมากประการที่สอง เป็นทำเลที่อยู่ในจุดใจกลางเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญหลายสายเช่น ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ - ลำปาง ถนนห้วยแก้ว ถนนหัสดิเสวี ถนนสุเทพ และถนนคันคลองชลประทาน

ประการที่สาม เป็นทำเลที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลหลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ (สวนดอก) โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม ทั้งยังอยู่ใกล้กับสนามบินเชียงใหม่ และเป็นที่ตั้งของศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น

และอนาคตคาดว่าถนนสายนี้จะเพิ่มดีกรีความคึกคักขึ้นอีกมาก เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เห็นชอบโครงการต่อเชื่อมถนนวงแหวนช่วงถนนนิมมานเหมินทร์ตัดผ่านกองบิน 41 ซึ่งเป็นโครงการของเทศบาลนครเชียงใหม่ มูลค่า 450 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาการจราจร

นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า โครงการเชื่อมต่อถนนวงแหวนช่วงถนนนิมมานเหมินทร์ ตัดผ่านกองบิน 41 เพื่อแก้ปัญหาจราจรที่เป็นคอขวดจากถนนสายเชียงใหม่ลำปาง ซึ่งเป็นแผนงานของเทศบาลนครเชียงใหม่ และเป็นโครงการที่อยู่ในแผนของ สนข.

ซึ่งขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในหลักการ ซึ่งโครงการนี้จะมีมูลค่าประมาณ 450 ล้านบาท ขณะนี้เทศบาลนครเชียงใหม่ได้เตรียมเสนองบประมาณดังกล่าว คาดว่าสำนักงบประมาณจะอนุมัติงบประมาณให้ได้ภายในปี 2549 ซึ่งอาจเป็นงบประมาณกลางปี 2549แผนดำเนินการต่อเชื่อมถนนวงแหวนดังกล่าว จะเป็นการเชื่อมต่อถนนบริเวณสี่แยกรินคำ จากถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ - ลำปาง และถนนห้วยแก้ว ตัดผ่านบริเวณสี่แยกรินคำเข้าสู่ถนนนิมมานเหมินทร์ ซึ่งจะไปสิ้นสุดที่บริเวณหน้าบริษัท ธานินท์ บนถนนมหิดล ใกล้กับสามแยกหายยา

นายบุญเลิศ กล่าวว่า การก่อสร้างจะแบ่งเป็นสองส่วนคือ ส่วนแรกเป็นการก่อสร้างถนนบนดินและส่วนที่เป็นถนนลอยฟ้า (Fly Over) มีระยะทางรวม 3.7 กิโลเมตร เป็นถนนทูเวย์ 4 ช่องจราจร ทั้งนี้ การขยายถนนที่มีจุดเริ่มต้นจากสี่แยกรินคำเข้าสู่ถนนนิมมานเหมินทร์ จะขยายถนนจากสองเลนเป็น 4 เลน ตัดกับถนนสุเทพ บริเวณสามแยกสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านเข้าซอยสายลมถึงรั้วกองบิน 41 ระยะทางรวมประมาณ 500 เมตร

อีกส่วนจะเป็นการก่อสร้างในลักษณะของถนนลอยฟ้า (Fly Over) สูงจากพื้นดิน 3 - 5 เมตร ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่กำแพงทางเข้ากองบิน 41 ผ่านสนามกอล์ฟกองบิน 41 เลี้ยวซ้ายไปสิ้นสุดบริเวณด้านหลัง บ.ธานินทร์ ตรงสามแยกหายยา

ทั้งนี้ ในส่วนของถนน Fly Over ภายในเขตกองบิน 41 นั้น เป็นเพียงแค่แผนหนึ่ง อาจจะสร้างหรือไม่สร้างก็ได้ แต่หากต้องสร้างเป็นถนนบนดินก็จะต้องมีแนวครอบถนนทั้งสองฝั่งเพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม สำหรับการสร้างถนนตัดผ่านเข้าเขตกองบิน 41 นายกรัฐมนตรี รับปากจะไปเจรจากับผู้บัญชาการทหารอากาศให้เห็นความจำเป็นของประชาชน และเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาความมั่นคงเพราะขณะนี้กองบิน 41 ก็เปิดให้ประชาชนได้สัญจรผ่านอยู่แล้ว และโครงการนี้จะช่วยลดปัญหาจราจร

ทั้งนี้ ในการก่อสร้างถนนเส้นใหม่นี้ จะต้องมีการเวนคืนที่ดินในบางจุด เพื่อขยายช่องทางจราจรให้กว้างขึ้น ซึ่งจุดที่จะมีการเวนคืนได้แก่ บริเวณสี่แยกรินคำ เดิมที่เคยเป็นพื้นที่ตลาดนัดตอนเย็นฝั่งตรงข้ามกับโรงแรมรินคำ ขยายเพียง 20 - 30 วา ส่วนฝั่งด้านติดกับโรงแรมรินคำนั้น จะใช้พื้นที่ในการขยายน้อยมากประมาณ 4 เมตรเท่านั้น ซึ่งคาดว่าต้องใช้งบประมาณในการเวนคืนประมาณ 10 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน เทศบาลฯ ยังต้องซื้อตึกแถวประมาณ 10 - 12 ห้อง บริเวณสามแยกนิมมานเหมินทร์
ตัดกับถนนสุเทพใกล้กับที่ตั้งของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งบริเวณนี้เทศบาลจะต้องใช้งบประมาณราว 40 ล้านบาท ดังนั้น งบประมาณที่เทศบาลจะใช้ในการเวนคืนที่ดินและซื้อตึกแถวสำหรับดำเนินโครงการนี้ รวมแล้วน่าจะอยู่ที่ประมาณ 40 - 50 ล้านบาท

จึงน่าสนใจว่าในอนาคตจะมีโครงการหรือการลงทุนผุดขึ้นบนถนนสายนี้อีกมหาศาล ด้วยแรงกระตุ้นจากปัจจัยหลายด้าน และแรงบวกจากโครงการเชื่อมต่อถนนวงแหวนเส้นใหม่ ที่จะทำให้ถนนสายนิมมานเหมินทร์ กลายเป็นถนนสายเศรษฐกิจที่สำคัญของเชียงใหม่ อย่างน่าจับตาที่สุด