ประชาไท -- 30 มิ.ย. 48 นางสิริพร ไศละสูต อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน พูดคุยเกี่ยวกับทิศทางพลังงานทดแทนของประเทศ โดยมองว่าจากปัญหาราคาน้ำมันแพง ไทยจำเป็นต้องหาพลังงานทดแทน แต่ขณะนี้ยังมีข้อจำกัดทำให้ยังไม่พร้อม

นางสิริพร อธิบายว่า พลังงานทดแทน หมายถึง พลังงานที่ได้จากต้นกำเนิดอื่นๆ ที่ไม่ใช่มาจากฟอสซิล โดยอาจนับรวมแก็สธรรมชาติด้วย ซึ่งกรมฯให้ความสำคัญกับBio fuel หัวใจคือผลิตน้ำมันจากพืชที่มีอยู่ในประเทศ เพื่อทดแทน หรือผสมกับน้ำมันจากฟอสซิลในการลดการนำเข้านั่นเอง

ทั้งนี้ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า "พลังงานทดแทนได้แก่ก๊าซโซฮอล์และไบโอดีเซล สำหรับไบโอดีเซลนั้นจะใช้ปาล์มน้ำมันและวัตถุดิบเชิงพาณิชย์ เช่น สบู่ดำ ซึ่งเป็นพืชมีพิษกินไม่ได้ มาเข้ากรรมวิธีผลิตเป็นน้ำมัน"

"Bio fuel เป็นการใช้พืชที่เป็นพืชน้ำมัน หากปลูกปาล์มจะต้องใช้เวลาถึง 3 ปีขึ้นถึงจะได้ผลผลิต แต่ตอนนี้มีผลผลิตเพียง 500,000 ลิตรต่อวันเท่านั้น ซึ่งถ้าจะใช้ประโยชน์จากปาล์มจำเป็นต้องเร่งมาก วันนี้ถือว่ายังผลิตได้ไม่เพียงพอ ส่วนสบู่ดำนั้นกำลังทดลองปลูกซึ่งก็ยังมีผลผลิตต่อไร่น้อย" นางสิริพร กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับพลังงานทดแทนอื่นๆ เช่น พืชจากการเกษตรที่เหลือใช้ ที่จะส่งเสริมเป็นวัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้านั้น นางสิริพร บอกว่า ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายเพราะมีข้อจำกัดในด้านเชื้อเพลิง

นางสิริพร เปิดเผยว่า "ตอนนี้มีโครงการนำร่องผลิตในการไบโอดีเซล โดยกรมฯ ร่วมกับ บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เริ่มผลิตขายในกรุงเทพฯ แล้ว ซึ่งได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ส่วนการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ พลังลมและแสงแดดนั้น คาดว่าอนาคตจะสามารถพัฒนาเป็นพลังไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

ธิติกมล สุขเย็น